วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

ระเบิดกรุงเทพ ราชประสงค์

                 เมืองไทย ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งเป็นการก่อการร้าย ที่ไม่คิดว่าจะมีมาก่อนเช่นกัน แต่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการวางระเบิดที่รุนแรง ที่มีผู้เสียชีวิตที่แยกราชประสงค์ 20 คน โดยการก่อการร้ายครั้งนี้ นั้น ได้มีการระบุว่า มีการวางไว้หลายจุด แต่ระเบิดเพียง 2 จุดคือที่แยกราชประสงค์ และที่ท่าน้ำสาธร แต่ที่ท่าน้ำสาธรนั้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก็ทำการหวดวิตก ให้ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเห็นการท้าทายในยุคนี้ แต่ทั้งนี้ ก็เคยมีประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจับตัวผ้ค้าแรงงาน และการส่งตัวชาวอุยกูร์ กลับไปของรัฐบาลมีการลงความเห็นของสื่อต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศกันอย่างมากมาย การที่ส่งชาวอุยกูร์ กลับประเทศ นั้นก็เคยเกิดการประท้วงที่ประเทศ ตุรกี ซึ่งก็มีการทำลายสถานทูตของไทย และจนได้รับการยกเลิก เพราะเกรงจะไม่ปลออดภัย แต่เมื่อการประท้วงเกิดได้ไม่นาน ที่แยกราชประสงค์ ก็เกิดมีการระเบิดเกิดขึ้น ซึ่งก็ทำให้มีผู้เสียชีวิต ถึง 20 คน นับว่าเป็นการก่อเหตุการครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งในใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย มีการสกัดจับและให้รางวัลแก่ผู้นำจับ เป็นเงินรวมแล้วถึง 3 ล้านบาท เลยทีเดียว การระเบิดครั้งนี้ ทำให้ท้าวศาลมหาพรหม ได้รับความเสียหายบางส่วนซึ่งต่อมาก็มีการบูรณะในเวลาต่อมา ท้าวมหาพรหม เป็นสิ่งที่มีผู้คนศรัทธาจากทั่วสารทิศ และเป็นจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นคนไทย จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ก็เป็นที่รวมของชาวต่างชาติจุดหนึ่งเลยทีเดียว โดยการวางระเบิดนั้น อาจจะมีเป้าหมายเพื่อที่จะเอาชีวิต ชาวจีนเป็นส่วนใหญ่
                 เมื่อเกิดระเบิด ขึ้นมาแล้ว ทำให้เกิดการเฝ้าระวังไปทั่วประเทศ เพราะคิดว่าคงจะไม่หยุดแค่จุดเดียว และไม่รู้เป้าปมายว่าประสงค์ อะไร ทำให้ทั้งหทาร ตำรวจ ต่างก็ออกมาเฝ้าระวังแทบจะทุกจุดในกรุงเทพฯ สร้างความหวาดวิตกเป็ฯอย่างมาก มีการสกัดด่านเข้าออกทั่วประเทศทุกจุด แต่กระนั้นคนไทยก็ยังท่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไป การระวังตอนแรกนั้น ก็มีหลายกระแส โยงไปถึงผู้ก่อการร้ายทางภาคใต้ การทำงานของเจ้าหน้าที่เข้มข้นมาก แต่กระนั้นก็ไม่ค่อยจะมีการให้น้ำหนักกับการก่อการร้ายข้ามชาติมากนัก คิดแต่เพียงการก่อการร้ายภายในประเทศ เมื่อเหตุการณ์ คลี่คลายมาถึงวันนี้ ทางตำรวจ ก็ได้สามารถจับตัวคนร้ายได้แล้ว ซึ่งสามารถจับได้ที่ด่านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งก็มีผู้ต้องสงสัยและถูกออกหมายจับด้วยกัน 8 คน แต่มือวางระเบิดนั้น ที่ยอมรับสารภาพโดยการจับกุมของเจ้าที่ คือนายอาเดม ราซัค ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้วางระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งเมื่อวานก็นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งนายอาเดม บอกว่าเป็นชายเสื้อเหลืองที่อยู่ในกล้องวงจรปิด และวางระเบิดเพราะโกรธแค้นแทนชาอุยกูร์ และตัวเองก็เป็นชาวอุยกูร์ ด้วยเช่นกัน การก่อการร้ายครั้งนี้ มีผู้ร่วมขบวนการอยู่หลายคนแต่ตัวนายอาเดม เองเป็นผู้วางระเบิด ซึ่งก็มีการรวมมือทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่มีการออกมายืนยันของผู้ก่อการร้าย ที่ออกมาแสดงตัว โทษครั้งนี้ก็น่าจะต้องโทษประหารชีวิต อย่างแน่นอน โดยที่ผู้ต้องหาให้การว่า ได้เอาระเบิดมาวางและมีอีกคนจุดชนวนระเบิด บนสถานี BTS ส่วนตนก็ได้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่ลุมพินี แล้วก็ได้ไปวางระเบดอีกลูกที่ท่าน้ำสาธร การวางระเบิดสองครั้งก็อาจจะเป็นการทำให้เจ้าหน้าที่สบสน และหาทางหลบหนีอออกนอกประเทศนั่นเอง แต่เมื่อจับได้แล้วก็ต้องสืบหา ตัวคนร้ายที่เหลือกันต่อไปนั่นเอง
                ประเทศไทยนั้น ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ เพราะว่าเป็นประเทศที่สงบ และไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง มาก่อน การเฝ้าระวังจึงไม่แน่นหนาเท่าที่ควร ไม่ว่าวัตถุที่ประกอบระเบิดนั้น ก็หาได้ในประเทศ และชายแดนนั้น ก็มีทางติดต่อกับหลายประเทศ างออกก็มีอยู่หลายทางการเฝ้าระวังจึงยากมาก คงต้องให้พี่ น้องชาวไทยนั้น สามัคคี และเป็นเ็นหูเป็นตา เฝ้าระวังกันด้วยอีกทางหนึ่ง สังคมก็จะเป็นที่น่าอยู่ และจะยังคงเป็นแหล่งน่ามาพักผ่อนไม่ว่าทั้งคนไทยเองและชาวต่างประเทศ การที่จะให้เพียงรัฐ เข้ามาจัดการเองนั้น ก็จะเป็นการลำบากสักหน่อย  เพียงถ้าเรามีความรัก สามัคคี เป็นผิดเป็นผิด อย่ายึดติดเพียง อำนาจของเงินทอง การเป็นอยู่ก็จะดีขึ้น เป็นผลตามมาเอง ต่างชาติที่เข้ามานั้น ก็มักจะมีหมดไม่ว่าจะประสงค์ร้ายเพียงใด ถ้าเรานั้นรักกัน สร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้น และสร้างรวยยิ้ม สร้างความน่าอยู่ให้กับประเทศ ซึ่งทุกวันนี้ คำว่าสยามเมืองยิ้มนั้น ก็แทบที่จะเลือนไปจากสังคมไทยไปเสียแล้ว อยากให้มีสิ่งดีๆ และสังคมรวมถึงประเทศ ที่น่าอยู่ เราต้องร่วมมือกัน ทำวันนี้ให้ดี ด้วยมือน้อย อาหารเสริมผิวขาว และหวังว่าถ้าทุกคน หรือแม้แต่ส่วนใหญ่ที่ทำได้ ประเทศก็จะน่าอยู่อย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

เพลง

                   เมื่อคนเราเหงา หรือเศร้า หรือว่ารู้สึกที่ว่าดี หรือไม่ดี นั้น บทเพลงที่ว่าโดนๆ ตามประสาของวัยรุ่นนั้น ก็มีส่วนในการปลอบใจ หรือแม้แต่เป็นกำลังใจ ในการขับเคลื่อนพลังแห่งการใช้ชีวิตของคนอยู่ไม่น้อย แต่ถึงกระนั้น ด้วยเมื่อโลกพัฒนาขึ้น การสื่อสารกว้างไกลขึ้น และที่สำคัญผลประโยชน์ที่มีมากมายมหาศาลเช่นกัน แม้กระทั่งในบางครั้ง ที่เรานั้นอยากจะนั่งฟังเพลงอยู่ตามที่ต่างๆนั้น ก็อาจจะเป็นการละเมืดลิขสิทธิ์ เป็นการที่จะต้องถูกปรับ ถูกจับขึ้นโรงขึ้นศาล ไปเลยก็มี แต่การที่จะให้เราระวังตัวขนาดนั้น บทเพลงที่คิดว่าเราชอบ เราหลงใหลก็อาจจะเป็นอคติ กับเราไปเลยก็มี ก่อนนั้น เป็นการฟังที่แบบมามีสไตร์ ว่าเราชอบแบบนั้นแบบนี้ งานประเพณี ต่างๆ ก็มาเปิดกันโดยที่เป็ฯการเชิญชวน และเป็นการเพิ่มความสนุกสนานนั้น ก็ต้องมามีอันต้องถูกบังคับไป ซึ่งความเป็นจริงแล้วนั้น ก็น่าที่จะละเว้นกันบ้างเพราะว่า ประเทศไทยนั้น ยังมรประเพณี อีกหลายอย่างที่ต้องใช้เพลงเพื่อให้เกิดความสนุกสนานครึกครื้น และเป็ฯสังคมที่ยังไม่ได้ ร่ำรวยอะไรมากมาย ที่จะต้องไปขอเวลาที่จะเปิดเพลงนั้นเพลงนี้ และคนก็ยังมีรายได้น้อยอยู่  ไม่อาจที่จะไปซื้อ แผ่นเพลง เมื่อก่อนนั้นเป็น ม้วนเทป มาฟังกันได้ส่วนมากก็อยู่กะไร่นา เรือกสวน จะมีเพลงบ้างก็นานที งานบุญ งานบวช แต่เมื่ออยากที่จะให้เป็นการขออนุญาต ไปเสียทุกเพลงนั้น ก็เป็นการยาก เพราะการเปิดเพลงนั้น ก็จะรวมเพลงที่คิดว่า สนุก จากหลายนักร้อง จากหลายค่าย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องไปขออนุญาต เป็นเสียทุกเพลงส่วนนี้ก็อาจจะมีส่วนที่จะทำให้ ประเพณื ไทๆ ที่เคยสนุกสนาน กร่อยลงไปไได้มากเหมือนกัน อย่างบุญแข่งเรือนั้น เพลที่ขาดไม่ได้ก็จะเป็นเพลง บุญแข่งเรือ  ที่ติดปาก ติดหู จนรู้เลยว่า ที่ไหนที่เปิดเพลงนี้ ดังๆ ก็ตอ้งมีการแข่งเรือ หรือที่เปิดแห่เชิญชวน ก็เป็นเพลงนี้อย่างแน่นอน จนุทุกวันนี้เป็นเพลงในตำนานไปซะแล้ว ซึ่งก็เป็นสิง่ที่น่าภาคภูมิใจมากๆ ที่ไม่ว่าภาคไหน ก็จะเปิดเวลาที่มีงานบุญแข่งเรือ ด้วยเน้ือหานั้น ก็บอกกล่าววิถีการเป็นอยู่ และการกล่าวถึงประเณีอันดีงามที่สืบทอดกันมายาวนานหลายร้อยปี การที่จะให้เพลงนั้นเป็ฯของคนนั้น เป็นของคนนี้เวลาร้องต้องเสียค่านั้น ค่านี่ ก็คงยังไม่เหมาะกับสังคมไทยกันนัก
                  ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เพลงฝรั่งที่เรียกว่าร้องในงานวันเกิดนั้น ศาลก็ตัดสินแล้วว่า เป็นเพลงสาธารณะ ที่ทั่วโลกนั้นสามารถเอามาร้องกันได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย และให้ผู้ที่บอกว่าเป็นเจ้าของนั้นชดใช้เงิืนที่เคยเก็บ ปีละ 2 ล้านเหรียญ คืนให้แก่คนที่เคยจ่ายไปแทั้งหมด โดยไม่มีดอกเบี้ย งานนี้เจ้าของ คงต้องทำตามศาลซะแล้ว คิดเล่นๆ ว่าถ้าเกิดต่อไป ใครแต่งเพลงไหน แล้วก็ทำการเปิดใจ สะหน่อย ให้ฟังไปเลยเหมือนทุกวันนี้ ก็แทบจะขายแผ่นไม่ได้แล้วในประเทศไทย เพราะว่าเขาโหลด หรือฟังจากออนไลน์ วิทยุ หรือยูทูฟ กันแทบจะหมดแล้ว ด้านศิลปิน ผู้ที่แต่งเพลงนั้นก็รู้ดี ว่าเพลงที่ออกมานั้น ถ้าดังก็คงมีคนจ้างไปเล่นคอนเสริต มากนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวศิลปิน ก็ต้องยอมรับว่าเหนื่อยแน่นอน ครับ เพราะต้องร้องเพลงแล้ว ยังต้องแสดงเป็ฯด้วย เพราะจะทำให้คนดูนั้นไม่เบื่อด้วย ซึ่งคราวที่แล้วที่มีปัญหากันบ้าง เพลง หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว ของคุณแจ๊กชวนชื่น ก็มีปัญหา ที่ไม่มากนักนิดหน่อย แต่ก็เป็นบทเรียน ที่จะทำให้คนไทยนั้นได้เปิดใจกว้าง เพราะถ้าคิดกันจริงๆ แล้วนั้น เนื้อเพลงที่แต่งกันตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันนั้น คงต้องมีคำทำนองที่ซ้ำกันได้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะเพลงเก่าน้น มีมากมายมหาศาลเลยทีเดียว และถ้อยคำที่ใช้ ก็ฒีมากมายอีกเช่นกัน เราจึงบางครั้ง ก็ต้องมีบังเอิญที่ต้องมา เหมือนหรือซ้ำไปได้บ้าง เมื่อมีปัญหาแบบนี้แล้ว เชื่อเลยว่าจะต้องมีคนที่ท้อ คือตัวศิลปิน นักแต่งเพลงเอง หรือแม้กระเทั่ง ตัวนักร้องเองด้วย เมื่อเดินทางมาสายนี้ ก็ต้องดิ้นรนกันต่ไป
                  เมื่อบ้านเรานั้น หลายคนก้คิดว่ายังไม่เหมาะกับเรื่อง ลิขสิทธิ์ เท่าไรนัก เพราะปัจจัยหลายอย่าง คุณภาพของคนที่ยังไม่ได้รับความรู้ด้านนี้ มีอยู่มากมาย และการเป็นอยู่ที่ยังไม่ใช่ประเทศที่พัฒนาแล้ว หลายครั้งที่มีการทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็มีอีกมาก ชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็ต้องมาโดน อย่างเมื่อก่อนนั้น ที่มีพ่อค้าของเก่า ก็เก็บแผ่นซีดี มาขายที่ตลาดนีด ก็โดนจับละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งสังคมเรา ก็ยังไม่ยอมรับกันเพราะถือว่าไม่มีมนุษย์ธรรม แต่เมื่อมีกฎหมายมาบังคับกันแล้ว การที่จะได้ดู ได้ฟังนั้นก็ต้องมีการระมัดระวังตัวมากขึ้น เช่นการที่จะมาโพสรูป ก็ต้องให้เครดิตกับเจ้าของรูปนั่นด้วยนะคะ จะได้ไม่เป็นการละเมิดสิทธิ์ คือหลายครั้งที่เรานำรูปไปลงโดยเจตนารมณ์ ที่ดีก็ตามที ข้อขัดแย้งนี้จะไม่ให้เกิดขึ้นนั้นก็ต้องใช้เวลา ซึ่งก็คงน่าจะอีกนาน ด้วยภาวะที่เปลี่ยนไป เมื่อก่อนนั้นยังไม่มีซีดี เป็นเทปคลาสเซต ต่อมาก็เป็นซีดี แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นฮาร์ดดิส โลกนี้จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเร็วอย่างมาก เราคงตามไม่ทัน ทั้งโลกในความจริงและอนาคต ดังนั้นเราก็ต้องความหวังไว้เพียงว่า หวังมากก็ทุกข์มาก หวังน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่หวังเลยก็ไม่ทุกข์เลย ด้วยความคิดที่เป็นกลาง อาหารเสริมลดน้ำหนัก บทเพลงที่มีการถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีๆ ทุกวันนี้ ศิลปินบางคน ก็ลงยูทูป ไปเลยก็มีให้คนส่วนใหญ่นั้นได้ฟังแบบฟรีๆ ไม่เสียตังค์ แต่จะดังไม่ดังก็คงเป็นอีกเรื่อง และเป็นการโปรโมทตัวเองไปด้วย ซึ่งก็ได้ผลมากบ้างน้อยบ้าง แต่ถ้าดังมาสิ่งที่ตามมาก็คุ้ม ทั้งงานทั้งเงิน การเข้าใจในงานเพลงนั้น เป็นเรื่องยาก แต่ยังมีศิลปินหลายคนที่สามารถแต่งเพลงให้ไพเราะ ได้ในเวลาไม่กี่นาที ด้วยการที่เป็นศิลปินมีแนวคิดที่แตกต่าง แต่ถ้าเรานั้นสามารถสนับสนุนเขาได้ ก็น่าจะทำกัน เพราะจะได้มีผลงานดีๆ ออกมาให้เรานั้นได้ฟัง ได้ชมกันต่อไปคะ