วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อองซาน ซูจี เยือนไทย อย่างเป็นทางการ

       วันนี้ทางการพม่า ได้ส่งนางอองซาน ซูจี ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ซึ่งกจะมีการกำหนด การเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ  ฐานะแขกของรัฐบาล ตามคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 22 ถึง 25 มิถุนายน พ.ศ.2559 โดยมีรัฐมนตรีที่ร่วมคณะ นายเต็ง ส่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมืองและประชากร นายจ่อ วิน รมว.วางแผนและการคลัง นายจ่อ ติน รัฐมนตรีแห่งรัฐว่าด้วยิจการต่างประเทศเมียนมา สำหรับการเยือนประเทศไทยเป็นการเยือน อย่างเป็นทางการครั้งแรก เพราก่อนหน้านั้นที่ยังไมได้รับเลือก และนางอองซนซุจี ยังเคลท่อนไหวทางการเมือง ก็ถูกรัฐบาลทั้งกักตัวและกักบริเวณ ไม่ได้ให้ออกไปไหน ซึ่งตามกำหนดการแล้วก็จะเป็น การเดินทางถึง ท่าอากาศยาน วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2559 เวลา 11.45 น.
โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย ให้การต้อนรับ และจะเดินทางต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย และเป็นการประชุมภายในกับเจ้าหน้าที่เมียนมา และเวลา 16.30 น. ก็จะเดินทางไปพบปะ ชุมชนแรงงานชาวพม่า ที่ห้องประชุมตลาดทะเลไทย
จังหวัดสมุทรสาคร และหลงัจากนั้น วันพรุ่งนี้ 11.00 น. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ก็จะทำการต้อนรับนางซูจี ที่จเดินทางมาปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ Myanmer,ASEAN and the World The Way Forward ที่ห้องวิเทศสโมสร ให้กับนักศึกษา จากจุฬาลงกรณ์ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยรังสิต แก่นักเรียน นักศึกษา 280 คน ซึ่งก็ต้องยกเลิกกำหนดเดิมที่จะไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยจากการสู้รบที่บ้านพักชั่วคราวบ้านถ้ำหิน จังหวัดราชบุรี ก็เหมือนเป็นผู้อพยพสงครามนั่นเอง เป็นเพราะอากาศไม่อำนวย ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ ก็จะเป็นการที่นางซูจี จะได้บอกกล่าวให้แรงงานพม่าที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เป็นจำนวน 3 แสนคนนั้น ได้มีการตัดสินใจที่จะกลับไปพม่า เพราะตอนนี้ ทางรัญฐบสลพม่านั้นต้องการที่จะให้คนงานเหล่านี้ กลับบ้าน เพราะว่าพม่า กำลังที่จะขยายเศรษกิจ และต้องการแรงงานเป็นอย่างมาก ซึ่งข้อนี้ก็เป็นการประกาศ เมื่อหลายเดือนก่อนนั้น แต่ทั้งนี้ก็อยู่ข้อกำหนดค่าแรงและสวัสดิการด้วยนั่นเอง การที่ประเทศไทยกยังต้องการแรงงานอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ก็เพราะสาเหตุมาจากคนไทยเองนั้น เมื่อมีการศึกษาที่มากขึ้นก็ไม่อยากี่จะใช้แรงงานกัน แล้วการจ้างคนไทยด้วยกันนั้น ค่าแรงขั้นต่ำอย่างน้อยก็ต้อง 300 บาท/วัน และยังต้องมีค่าสวัสดิการอีกหลายอย่าง ซึ่งก็เมื่อจ้างคนงานพม่า ก็จะได้ค่าจ้างที่อาจจะเท่ากันหรือส่วนมากก็จะจ้างถูกกว่า และมีควมขยันกว่า
แต่เมื่อมีคนจำนวนมากเข้ามา หลายครั้งที่ปัญหาการ้คาแรงงานเถื่อก็ยังมีให้เห็นกันอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบขนแรงงานเถื่อน และเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ก็จะขับรถหลบหนี ก็จะเกิดอุบัติเหตุ บาดเจบและเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก แรงงานพม่าที่ต้องการเข้ามายังประเทศไทยนั้น ส่วนมาก ก็จะยากจน และไม่เลือกงาน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการการขนส่ง ก็มีทั้งขับรถขนส่ง รถบรรทุก และการใช้แรงงานออกหาปลากับไต้ก๋งเรือประมง และงานที่ต้องใช้แรงงานอื่นๆ ไม่ว่่าจะก่อสร้าง และงานด้านอื่น ทั้งนี้ทางฝ่ายแรงงานพม่าก็ยังยีนหยัดที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อไป อย่างแน่นอน เพราะว่าแม้ประเทศพม่าจะยังคงพัฒนาด้านเศรษกิจ ก็ยังเป็นการเริ่มที่โครงการแต่ละที่นั้น ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ สาะธารณุปโภค ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ด้วย ซึ่งด้านพม่าถือได้เปรียบอีกอยู่มากเพราะเหนอกว่าไทย ทางด้านวัตถุดิบทางธรรมชาติ ที่ยังมีอยู่มหาศาล เป็นที่ต้องการของนักธุรกิจ ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ป่าไม้ อัญมณี ก๊าซ และน้ำมัน ฯลฯ รวมไปถึงพืชพรรณ สมุนไพร ที่จะนำมาทำไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมลดน้ำหนัก และสามารถนำมาผลิตแปรรูป เป็นสินค้ส่งออกได้อย่างมากกมาย แต่อีกไม่นานเมื่อโครงการของรัฐบาลพม่า สำเร็จเมื่อไหร่เราก็จะต้องเปลี่ยนนโยบาย อย่างแน่นอนเพื่อความอยู่รอด อนึ่งการที่ขาดแคลนแรงวานนี้ ทุกวันนี้จึงมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ โดยที่จะใช้คนให้นอยที่สุด ซึ่งถ้าทางรัฐบาลไทยมีการส่งเสริม และพัฒนาในจุดนี้ด้วยก็จะเป็นการแก้ปัญหาในอนาคตด้วย ฝากท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่าเพียงแต่คิดจะนำเข้าเพื่อเพียงได้ค่าคอมมิชชั่นกันอีกเลย ต้องยอมเสียสละส่วนตน เพื่อประเทศจะได้พัฒนาไปข้างหน้า และทุกคนก็จะได้ รวยๆ กันเสียที คนไทยจะได้ลืมตาอ้าปาก หากไม่มีนักการเมืองที่เห็นแก่ตัว

หนังสือพิมพ์ในประเทศไทย เกิดขึ้นได้ยังงัย ใครเริ่ม

     ทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับว่า หนังสือพิมพ์ที่เคยเป็นที่นิยม มาวันนี้ยอดขายที่หดตัวลงอย่างน่าใจหาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ อีกๆหลายอย่าง แต่กระนั้น ถ้ายังเจาะเข้าให้ลึกถึงความละเอียด ก็ต้องศึกษาด้วยหนังสือที่ว่ากันเฉพาะเรื่องกันจริงๆ เมื่อก่อนนั้น เห็นคุณพ่อต้องรับหนังสือพิมพ์อยู่ทุกวัน เล่มละ 1.25 บาท เรื่อยมาจนถึง 2.50 บาท แล้วหลังจากนั้น ก็ไม่ได้สนเรื่องราคาเลย รู้แตว่ามาอีกที ก็ 3 บาทเข้าไปแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า ความรู้ที่ได้ก็มาก และก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจก็เพราะหนังสือพิมพ์นี่ละ และซึ่งปัจจุบัน เขาก็หันมาใช้ คอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือพิมพ์ทางอินเตอร์เน็ต ก็ถือว่าสะดวก แต่ก็ยังไม่ได้อรรถรส เหมือนกับตัวหนังสือและบางคอลัมน์ ก็ไม่ได้ลงไปให้อ่านกันมากนัก เมื่อก่อนก็ยังอ่านและชอบที่จะคิดจับผิดอยู่ว่า หนังสือพิมพ์จะพิมพ์ผิดบ้างหรือเปล่า เพราะพิมพ์ครั้งละมากๆ เขาทำได้ยังงัย แล้วทำไมการขนส่งออกมาได้ไวจัง หนังสือพิมพ์ที่ คนชอบอ่านมากก็คงจะเป็นเรื่องการเมือง และข่าวดารา ก็นิยมก็ตจะมี 2 ค่าย คือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์เดลินิวส์  ซึ่งก็ไม่ได้รวดเร็วและละเอียดมากนัก แต่บางวันก็ไม่รู้จะอ่านอะไร แล้วถ้ามีคอลัมน์ หรือว่ารูปสวยๆ ถูกใจก็จะตัดเก็บเอาไว้ และถ้าไม่ถูกใจ ส่วนมากก็จะเอาไปใช้เช็ดตู้กระจกขายของ ก็อยากจะถามว่า ทุกวันนี้ยังขายได้อยู่มั๊ยก็บอกว่า ยังขายได้แต่ลดลงมาก ซึ่งก็แน่นอนว่า อนาคตก็น่าจะลดลงจนเป็นตำนานเหมือน เทปคลาสเซต และแผ่นเสียง เป็นต้น เมื่อจะเข้าเรื่องซึ่งก็ หนังสือพิมพ์ที่มีการตีพิมพ์ครั้งแรกก็เป็นการพิมพ์ของรัฐบาลที่ต้องการจะสื่อสารกับประชาชน ที่เรียกว่า ที่เรีกยว่า หนังสือจดหมายเหตุ หรือที่เรารู้จักกันใน ราชกิจจานุเบกษา โดยมีการสั่งหล่อตัวหนังสือเข้ามา ตั้งแต่แท่นพิมพ์ที่แพพำนักปากคลอง บางกอกใหญ่ ซึ่งก็สมัยรัชกาลที่ 4  ใช้หมึกดำทาพิมพ์ ใช้มือหมุนลูกกลิ้งออกมาเป็นแผ่นๆ คล้ายใบปลิว มีเรื่องราวเกี่ยวกับข่าว และโฆษณาบ้างเล็กน้อย โดยบรัดเลย์ หรือหมอบลัดเล่ย์ เกิดที่เมืองมาร์เซลลัส มลรัฐนิวยอร์ค เป็นบุตรคนที่ 5 ของนายแดน เกิดมาเพียงวันเดียวว มารดาก็เสียชีวิต บรัดเล่ย์ จบการศึกษาสูงสุดด้วย ดร.ทางการแพทย์ และเมื่อคริสนิกายโปรแตสแตนด์ รับสมัครมิชชันนารี  เพื่อทำการเผยแพร่ศาสนาจากผู้สำเร็จวิชาแพทย์ เขาจึงสมัครเข้าเป็นมิชชันนารี และได้เดินทางสู่อุษาคเนย์ ด้วยภารกิจรับใช้พระเจ้า และได้สมรสกับชาวเมืองเดียวกัน ชื่อเอมิรี่ รอยซ์ ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าเขาถึง 10 ปี ก่อนจะเดินทางเข้ามายังอุษาคเนย์เพียง 3 เดือน การเดินทาง 6 เดือนขึ้นท่าสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2378
 และได้เริ่มศึกษาภาษาไทย จนพูดได้พอเข้าใจ ก่อนจะเดินทางมายังประเทศไทย และที่สิงคโปร์นี่เองที่ภรรยาของบลัดเลย์ ก็ได้คลอดลูกคนแรก เพียง 6 ชั่วโมง ลูกก็เสียชีวิต และเขาก็เดินทางมาถึงแผ่นดินสยาม เมื่อ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2378 และได้สร้างเรือนแพอยู่ที่บริเวณ ปากคลองบางกอกใหญ่  ท้ายพระราชวังเดิม ฝั่งธนบุรี ทั้งที่มีอุปสรรคนานับปการ เขาก็ยังทุ่มเทงานด้านพระศาสนา เขาไม่ดื่มสุรา ยุดงานวันอาทิตย์ เพื่อเข้าโบสถ์ เอมิรี่ อยู่กับบลัดเล่ย์ที่บางกอก นานถึง 10 ปี ก็เสียชีวิต มีลูกด้วยกัน 5 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 3 คน ซึ่งภรรยาเขาเสียชีวิต จากโรคโลหิตเป็นพิษ ซึ่งหลังจากภรรยาเสียชีวิต เขาก็ได้เดินทางกลับอเมริกา และได้พบรักใหม่กับญาติห่างๆ ของเอมิรี่ รอยซ์ ซึ่งก็เป็นภรรยาเขานี่เอง ชื่อว่า ซาราห์ แบลชลี่ย์ และได้แต่งงานและกลับมาสยามอีกครั้ง และมีบุตรกับ ซาราห์ 5 คน และบลัดเลย์ ก็เสียชีวิต ด้วยโรควัณโรค อายุ 69 ปี พ.ศ.2416 และร่างเขาถูกฝังไว้นิรันทร์ ที่ สุสานโปรเตสแตนด์ ยานนาวา และลูกสาวคนเล็กของเขาก็มี นิวาสสถานอยู่ที่บางกอกใหญ่ และคนละแวกนั้นเรียกเธอว่า แหม่มหลิน ซึ่งก็ถือว่าเป็ฯบุคลที่มีความโดดเ่นมากในเรื่องการแพทย์ ในสมัยนั้น เพราะเป็นผู้ที่ นำการผ่าตัด การถอนฟัน การรักษาต้อกระจก ทำการคลอดแบบตะวันตก การทำเซรุ่มปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ หรือฝีดาษ และได้แต่งหนังสือคู่มือ มารดา ครรภ์รักษา ไว้เป็นความรู้ทางด้านสูตินารีเวช ที่ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ และในทางสังคม ท่่านก็ยังได้มีส่วนสำคัญในการบุกเบิกหนังสือพิมพ์ ที่เรียกว่าจดหมายเหตุ
ชื่อว่า บางกอกรีคอร์เดอร์ เมื่อฝรั่งเศสเข้ามามีอำนาจ ก็ได้ฟ้องหนังสือพิมพ์ของบลัดเลย์ ซึ่งรัฐบาลสยามก็มิได้มีอำนาจในการขัดแย้งมากนัก เพราะต้องตกเป็นเมืองขึ้นอยู่ แล้วบลัดเลย์ ก็แพ้คดี แก่นายยากาแรต ซึ่งก็ปรับเป็นสินมัยจำนวนมาก ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ที่รัก และทรัพย์สินบางส่วนที่มี
ซึ่งความจริงแล้ว บลัดเลย์ได้มีโอกาส รู้จักคบหากับคหบดี และบรรดาศักดิ์ ขุนนางสยามทั้งหลายมาก่อนที่จะมาบางกอกเสียอีก ซึ่งต่อมารัชกาลที่ 5 ก็ได้พระราชทานที่ดินให้อยู่เปล่า ที่สวนบางกอกใหญ่ และได้พระราชทานเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยในพิธีศพบลัดเล่ย์ด้วย ซึ่งทาง อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็เห็นว่าอาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย จึงได้นำเสนอสู่ท่านๆทั้งหลาย  ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ ที่ได้มาด้วยนะคะ

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ลุงตู่ ใช้ ม.44 เอาผิดนักเรียนนักเลง ผิดถึงผู้ปกครอง

        เมื่อเราก็จะเห็นข่าวทุกวันนี้ก็แทบจะทุกวัน เรื่องนักเรียนนักเลง ซึ่งไม่ว่าจะใช้อาวุธ หรือไม่ใช้ สว่วนมากก๋จะมากันเป็นกลุ่ม ซึ่งมาช่วงนี้ ส่วนมากก็จะใช้อาวุธ ซึ่งก็มีการบาดเจ็บล้มตายแทบจะรายวันกันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนนั้น ก็ได้มีนักข่าวสอบถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้ความเห็นว่า ก็มีกฏหมายกันอยู่แล้ว แล้วก็ให้ทาง ตร นั้นจัดการแต่เมื่อมีข่าวออกมาแทบจะทุกวัน ถึงเมื่อวานนี้ ก็มีคำสั่งจากหัวหน้า คสช ซึ่งก็เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาประกาศเป็นพระราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2559 ได้ออกประกาศคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขป้องกันและแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษา ระบุว่า ปัญหารการทะเลาะวิวาทก่อให้เกิดความสูญเสีย ต่อชีวิต และทรัพย์สิน รวทั้งการสร้างความเดือดร้อน ให้ปก่ประชาชนและสังคม แต่เนื่องจากมาตรการทางกฏหมายที่มีอยู่ไม่สามารถป้องกันและแก้ไข ปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์ ทำให้เกิดอุปสรรคในการดำเนินป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษา จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการทางกฏหมายเพิ่มเติมอันประโยชน์ต่อการปฏิรูปและจัดระเบียบในสังคม อาศัยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช พ.ศ. 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       ข้อที่ 1 ให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ตามหมวด 7 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีอำนาจกักตัวนักเรียนและนักศึกษา ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือเตรียมการเพื่อก่อเหตุดังกล่าว เป้นการชั่วคราวไม่เกิน 6 ชั่วโมง และหลังจากนั้นให้ส่งพนักงานตำรวจ ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา บิดา มารดาหรือผู้ปกครอง แล้วแต่กรณี
    ข้อที่ 2 บิดา มารดา หรือผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรม สั่งสอน และยังยั้งพฤติกรรมที่ไม่ดีของเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาที่อยู่ในการปกครองดูแลของตน รวมทั้งต้องปกิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฏกระทรวงที่ออกตามกฏหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก ตลอดจนต้องไม่สนับสนุนหรือปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาในปกครองรวมกลุ่มเพื่อก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือเตรียมการเพื่อก่อเหตุดังกล่าว และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ติดตามและสอดส่องให้มีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด
ในกรณีที่มีการพบเด็กและเยาวชน รวมกลุ่มเพื่อการกระทำตามวรรค 1 ให้ถือเป็นความรับผิดชอบของบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนทีเป็นนักเรียนและนักศึกษา   เพื่อให้คำแนะนำตักเตือน ทำทัณฑ์บน หรือวางข้อกำหนด ไม่ให้กระทำความผิดอีก หรือวางเงินประกัน ไว้เป็นจำนวนเงินตามสมควรแก่ฐานานุรูป แต่จะเรียกเงินประกันไว้เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี หากเด็กหรือนักเรียนนักศึกษาทำผิดซ้ำอีก ก็ให้ริบเงินประกัน ให้เป็นของกองทุนคุ้มครองเด็กตามกฏหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
     ข้อที่ 3 ผู้ใด ทำการยุยงส่งเสริม ช่วยเหลือหรือสนับสนุน ให้นักเรียนนักศึกษาฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากการกระทำตามวรรค 1 เป็นเหตุให้นักเรียนหรือนักศึกษาไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือทำร้ายร่างกายผู้อื่น ต้องระวางโทษไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีผู้เสียชวิตเพราะการทะเลาะหรือทำร้ายร่างกายนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ( ส่วนมากก็จะเป็นรุ่นพี่ ที่ส่วนมากมักจะได้รับการสืบทอด บอกต่อกันมา )
      ข้อที่ 4 ให้นักเรียนและสถานศึกษามีหน้าที่จัดให้มีกิจกรรมในการแนะแนวเพื่อตอบสนองตอ่การแก้ไขปัญหานักเรียนและนักศึกษาทะเลาะวิวาท โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกวดขันและเร่งรัดจัดทำมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม เพื่อเปนการลดปัญหาสังคมโดยเร่งด่วน ( ซึ่งต่างก็มีแนวทางที่ดี แต่อยู่ที่เด็กด้วยว่าเด็กไม่เชื่อฟัง และสถานศึกษายังต้องการค่าเทอมอยู่ )
      ข้อ 5 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
      เราต้องยอมรับก่อนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้มีมานานนับหลายสิบปี ไม่แพ้ปัญหาชายแดนใต้ แต่ต่างกันตรงที่เด็กจะทำด้วยความคึกคะนอง ในขณะที่อยู่กับเพื่อนที่มีหมู่มาก และมีอาวุธอยู่ในมือนั่นเอง แต่สาเหตุ ต้องบอกว่ายังไม่แน่ชัด ว่าการกระทำดังกล่าวเพื่อเหตุใด ถ้าบอกเพียงต่างสถาบัน คงไม่ใช่แค่นั้น เพราะต่างที่เรียน แล้วไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง ไม่เคยทำให้โกรษเคือง แล้วต้องมาโดนตัดสินด้วยความตาย แล้วทางโรงเรียนทำไมไม่ไล่ออก หรือว่าทางโรงเรียนนั้น ยังต้อการเด็กอยู่เพื่อที่จะมีค่าบะรุงการศึกษา การจะแก้ปัญหาจริงๆ ต้องหาสาเหตุก่อน แล้วอีกอย่างที่อยากจะบอกก็คือ ตีกัน ฆ่ากัน เพื่อที่จะเอาเข็มกลัด หรือเข็มขัด ที่มีสัญลักษณ์ ต่างสถาบันเท่านั้นเอง เหตุผลที่เล็กมากเหมือนกับ คำแก้ตัวของเด็กที่ไม่กลัวความผิดเลย ซึ่งถ้าไม่มีบทลงโทษที่รุนแรง และให่หลาบจำกันจริงๆ แล้วไซร้ เมื่อเด็กโตขึ้น จะเป็นคนที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะไปเป็นโจรหรือไม่ก็ค้ายากันในที่สุด ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เด็กนั้น ไม่มีความคิดหรือคิดสั้นเป็ฯอย่างมากเลยจริงๆ เราน่าจะลองเอากฏหมายของต่างประเทศที่ไม่มีการอะลุ่มอะร่วย มาใช้บ้างก็น่าจะดีนะคะ อยากให้ประเทศสงบบ้างอะคะ
     โดย อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็ชัดเจนกับกฏหมายที่ออกมาถ้ายังไม่กลัว ก็คงต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดมากกว่านี้ 

นกเงือก คุณวิกรม นกกรง อยู่ที่ใต้

        การโพสต์ในโชเชี่ยลมีเดีย ก็มีผลต่อชื่อเสีย เป็นอย่างมากเลยทีเดียว กับการที่โพสต์ คู่กับกับนกเงือกบนเก้าอี้ของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งก็เป็นนกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน ซึ่งก็ เพจเฟซบุ๊ก คนอนุรักษ์ ได้มีการโพสต์ภาพถ่ายคุณวิกรม กับนกเงือกสีน้ำตาล ซึ่งคุณวิกรม นั่งบนเก้าอี้ส่วนนกเงือกเกาะ ที่พนักพิง ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการยอมรับ หรือยืนยันจากคุณวิกรมเลย แต่เมื่อวานที่ผ่านมาก็ได้ความว่า สืบเนื่องจากน้องชายคุณวิกรมได้แจง ว่า นกตัวดังกล่าวนั้น ได้มาจากข้างที่พักของตนโดยคนงาน ที่อยู่ที่ เขาใหญ่ และนกตัวดังกล่าวนั้น เมื่อก่อนนั้น บาดเจ็บ บินไม่ได้ ซึ่งตนก็ได้นำมารักษาและเลี้ยงดู โดยไม่ได้กักขัง แต่ครั้นเมื่อเวลาผ่านไป นกตัวดังกล่าวหายแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมบินกลับไป ก็เท่านั้น แต่ที่เป็นข่าวก็อาจจะสืบเนื่องมาจากนกเงือกสีน้ำตาลนั้น เป็นสัตว์สงวนและหายาก ซึ่งทางด้าน นายแพทย์หม่อง ก็ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุว่า นกเงือกสน้ำตาลไม่ใช่นกที่ อาศัยอยู่ตามชายป่า แต่อยู่ในแถบป่าทึบ ทั้งเป็นสัตว์สงวน ซึ่งเมื่อพบเห็นก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน คนทั่วไปไม่สามรถครอบครองได้ และหลังจากได้ดูรายละเอียดจากภาพแล้วก็บอกว่นกตัวดังกล่าวน่าจะเป็นเพศเมีย ที่พบที่เขาใหญ๋มากกว่า
เพราะมีสีอ่อนมาก ซึ่งอาศัยอยู่ที่มีความสูงกว่ระดับน้ำทะเล ๗00 เมตร ซึ่งก็เกรงว่า ผู้ที่มีชื่อเสียง โชว์การเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองแบบ นี้ จะทำให้กระแสอยากมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองบ้าง ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาระดับโลกในปัจจุบัน สัตว์ป่าคุ้มครองที่ประกอบด้วยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 201 ชนิด แยกเปฯสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก 12 ชนิด แมลง 20 ชนิด ปลา 14 ชนิด และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอีก 12 ชนิด ซึ่งเมื่อวานนี้ ก็ได้ประกาศเพิ่มอีก 4 ชนิด ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็มีน้องคนหนึ่งที่อยู่ใต้ ได้โพสต์นาก ซึ่งก็เป็นสัตว์สงวนอีกชนิดหนึ่งที่สงวนเหมือนกัน ซึ่งก็จะได้พิสูจน์กันต่อไป ซึ่งเมื่อวันก่อนคุณวิกรมก็ได้ออกมา โดยบอกว่าช่วงนี้ตัวเองยุ่งมาก และไม่มีเวลาได้ดูเลย ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ โต เพราะว่า ที่บ้านที่เขาใหญ่นั้น เมื่อก่อนก็เป็นไร่ข้าวโพด ซึ่งมาตอนนี้ต้นไม้ของต้นที่ปลูกเอาไว้ เป็นเวลา 10 ปี แล้ว
ตอนนี้ ก็เป็นอาหารของสัตว์ มากมายซึ่งก็จะมีเข้ามา ก็จะมีทั้งกระทิง กวาง บ้างและอีกหลายชนิดมาอาศัยอยู่ แต่เมื่อวันก่อน ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นที่บ้านน้องชายคุณวิกรมทั้งที่กรุงเทพ ปละเขาใหญ่ ก็ไม่พบนกตัวดังกล่าว โดยกล่าวเพียงว่า ได้ปล่อยไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้กลับไป ส่วนประเด็นนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่อง เพราะคุณวิกรม ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมมากมายนัก
         มาถึงเรื่องที่เรียกว่า ปัญหาคาใจเรื่องนก ก็จะเป็น นกกรงหัวจุก ที่ผู้คนนิยมเลี้ยง ถ้าที่ใต้เรียกได้ว่าแทบทุกหลังคาเรือน ความเป็นมาก็เป็นนกกรงเป็นสัตว์คุ้มครอง ใครอยากเลี้ยงต้องไปขออณุญาต เพราะเป้ฯสัตว์ใกล้จะสูญพันธุ์ แต่ว่าไม่ได้ให้อณุญาตเลี้ยง มานานเป็น 10 ปีแล้วกระมัง ถ้าใครไปขออณุญาต เลี้ยงก็จะให้รอไว้ก่อนว่ากฏหมายยังไม่เปลี่ยนออกมา แต่กระเเสสังคมที่ มีอยู่มากมายทั่วแทบจะทุกที่ ที่แพงๆ ก็น่าจะเป็นนกแปลก ไม่ใช่นกที่ ขาด้วน ตาบอด นกหูหนวก หรือนกพิการอย่างทั่วไปนะคะ แต่จเป็นนกพิการทางเส้นขน คือจะออกมีสีขาว ซึ่งก็เป็นความผิดพลาดทางยีนส์ ยิ่งขาวทั้งตัวที่รียกว่า นกเผือก ก็จะมีราคา 6 หลักเลยทีเดียว ซึ่งขาวน้อยก็จะมีราคาลดหล่ำกันลงมา ซึ่งคนภาคใต้จะนิยมเลียงกันมาก ซึ่งเขาถือว่า ถ้าวันไหนนกร้องดี ก็จะมีแต่ความโชคดี ซึ่งตอนนี้ ก็เรียกได้ว่า มีความนิยมการเลี้ยงนกกรงหัวจุก ทั่วประเทศเลยทีเดียว ซึ่งก็มีนกตามแต่ละพิ้นที่ ซึ่งนกที่นิยมมากก๋จะเป็นนกป่าลาอู เพชรบุรี แต่ทุกวันนี้ ก็มีการเพาะพันธุ์ โดยชาวบ้านที่มีความชื่นชอบ และใส่ใจก็เพาะได้แล้ว โดยทั้งหาพ่อ แม่พันธุ์ที่มีสีขาว มาเพาะพันธุ์ ออกมาเป็นนกแพนซี ได้แล้ว ซึ่งก็มีราคาแพงอยู่เหมือนกัน
ซึ่งการเลี้ยงในปัจจุบันก็ฒีการขึ้นทะเบียนไว้เป็นส่วนน้อย  ก็เรียกได้ว่า  1 ใน 100 เลย หรือมากกว่านั้น เพราะคนเลี้ยงมากกว่าคนจับ ซึ่งการเลี้ยงนกกรง ก็ยังมีข้อขัดแย้งที่ว่า เป้นการทรมานสัตว์ แต่สำหรับคนเลี้ยงแล้ว บอกว่า เลี้ยงและดูแลดีกว่าลูกเสียอีก ไม่ว่าจะการล้างกรง อาบน้ำ ให้อาหารการบำรุง รวมไปถึงการดูแลในเวลาที่เจบไข้ได้ป่วย
        บางทีเราก็น่าจะเอาเรื่องเหล่านี้มาทำให้เป็นเรื่องเป็นราวก็น่าจะดีนะ เพราะว่าอยากให้ทางภาครัฐนั้น ได้ส่งเสริม หรือไม่ก็ออกกฏหมายที่เรียกได้ว่า ให้ชาวบ้าน ได้มีงานทำ โดยให้ตอนนี้ ใครที่ครอบครองก็ให้ไปแจ้งและสามารถที่จะทำเป็นฟาร์ม ซึ่งสามารถเพาะพันธุ์ เพื่อทำเป็นการค้า เพราะจะส่งไปได้หลายอย่าง ทั้งการทำอาหารนก อาหารบำรุง และอุปกรณ์ต่างๆ อีกเ้วยซึ่งก็ป็นการเพิ่มรายได้ และสามารถรวยได้เลย โดยเฉพาะ กรงนก ซึ่งผลงานแต่ละคนที่ทำออกมานั้น วิจิตรงดงามมาก ซึ่งกรงแต่ละหลัง จะใช้เวลาและการประดับตกแต่ง ซึ่งแม้กระทั่ง คนมีเงินที่ไม่เลี้ยงนก ยังต้องซื้อเก็บเอาไว้เลย เพราะเป็นงานฝีมือ ราคาซึ่งก็ว่ากันไปหลักแสน ถึงหลักล้านก็มีคะ  ซึ่งก็ควรที่จะส่งเสริมและอนุรักษ์ ให้คงอยู่กันต่อไป เพราะเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ที่คิดว่าถ้ากฏหมายผ่านก็จะเป็นการดี รับรองว่านกไม่มีการสูญพันธุ์ เพราะคนเลี้ยง ก็บอกได้เลยว่าเลี้ยง ไม่ได้มีไว้เพื่อการบริโภค และรับประทานกัน และทุกวันนี้ สัตว์เลี้ยงอย่างนกกรงหัวจุกนั้น เขาจะเลือกให้นกนั้นตัวใหญ่ และไม่ชอบให้ อาหารเสริมลดน้ำหนัก เพราะนกที่ตัวใหญ่จะส่งเสียงได้ดังและกังวาลกว่า นั่นเอง ส่วนเรื่องของคุณวิกรมนั้น ก็ได้รับปากว่า อีกวัน 2 วันก็จะได้ กลับมาแถลงณ์ข่าวให้ทราบกัน แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร เพียงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเท่านั้นเอง ถ้าจะบอกว่าคุณวิกรม ทำเพื่อดังก็คงไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะชท่อเสียงก็มีอยู่แล้ว เงินทองก็มากมาย เพียงอาจจะเป็นความคิดที่ดีมากกว่า ปละหวังว่าเรื่องนี้จะมีความกระจ่าง ซึ่งทางอธิบดี ก็ได้ออกมาบอกว่า ก็ว่ากันไปตามเรื่องกันไป

น้ำท่วม กรุงเทพฯ อ่วมหลายจุด

           สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดฝนถล่มตกหนัก ทั้งกรุงเทพและปริมณฑลทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด โดยที่ซอยรามอินทรา น้ำท่วมเมื่อคืนก็ประมาณเกือบ 1 เมตร ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าจะน้ำท่วมเข้าบ้าน และที่ทำงาน เฟอร์นิเจอร์ ได้รับความเสียหาย ปลาคาร์ฟ ที่เลี้ยงไว้ ก็หายไปหลายตัว ซึ่งก็แต่ละตัวก็มีราคาแพงมาก ซึ่งก็เป็นความแชื่อที่ว่าเลี้ยงแล้วบ้านจะอยู่เย็นเป็นสุข เป็นกุศโลบายให้คนนั้น มีความรักและเมตตานั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะท่วมเพียงที่เดียว ก็มีอีกทั้ง ไม่ว่าจะถนนวิภาวดีรังสิต ห้าแยกลาดพร้าว แยกรัชดาหน้าศาลอาญา และมีการแจ้งเกิดอุบัติเหตุเสาไฟล้มบ้าง แล้ววันนี้ก็ส่งผล ให้รถติดหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนแถวสามเสน โรงเรียนเซนต์คาเบรียน เซนต์ฟรังต์ และเขตสามเสน และโรงเรียนสตรีวิทยา และสะพานซังฮี้ ก็ส่งผลให้ตอนนี้รถติดอย่างหนัก และอีกหลายจุด และก็ก่อความเดือดร้อน ให้กับพ่อค้า แม่ขาย ไม่ว่าจะเป็นจตุจักร และแผงเร่ หาบลอย ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย โดยทางกรุงเทพ มหานครได้ออกมาบอกว่าได้ ทำท่อระบายน้ำขนาดใหญ่แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งก็เรีกยว่าคลองระบายน้ำบางซื่อ แต่ก็จะแล้วเสร็จในเดือน เมษายนปีหน้า
ซึ่งทางด้านนายกก็ได้ออกมาบอกว่า ก็เป็นเพียงโครงการที่แก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราว ไม่ใช่การแบบยั่งยืน แต่ตอนนี้ทาง กทม ก็เร่งขุดคลองระบายน้ำ เพื่อให้บรรเทาความทุกข์ไปได้บางส่วน แต่วันนี้ ทางกรมอุตุวิทยาก็ยังรายงานต่อว่า ยังมีฝนตกอีก 70 % ของพื้นที่ และให้ผู้คนเฝ้าระวัง เพราะน้ำท่วมนั้น ส่งผลกระทบหลายอย่าง ที่แน่นอนก็จะเป็นการสัญจรนั่นเอง และก็ทำให้เห็นว่าเศษขยะมูลฝอยนั้นก็ลอยมาอย่างมากมาย เพราะว่าเมื่อเราเห็นว่าบ้านเมืองสะอาด แต่แท้ที่จริงผู้คนที่อยู่ตามริมน้ำ ก็ยังมีการทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล อยู่อีกมากมาย และส่งผลจะให้เกิดขยะมูลฝอย อุดตันท่อระบายน้ำด้วย ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน ทั้งนี้ก็ไม่แน่ว่าวันนี้ที่ฝนตก แล้วจะมีน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งทาง กทม ก็เร่งที่จะระบายน้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งเมื่อก่อนนั้น เราก็จะได้ยินข่าวออกมาบ่อยๆ แล้วว่ากรุงเทพ เป็นแอ่งกะทะ และจะไม่อาจจะระบายน้ำได้นั้น เมื่อก่อนหรือตอนนี้ ก็น่าจะมีนโยบาย ให้ย้ายเมืองหรือไม่ก็ระบายคนระบายความเจริญ ให้ออกไปสู่ต่างจังหวัดบ้างก็น่าจะเป็นการดี และควรที่จะขนของเอาไปไว้ที่สูง และยกหัวรถยนต์ให้ขึ้นสูงเอาไว้นะคะ อาจจะใช้อิฐ หนุนก็ได้ และก็ควรที่จะระวังสัตว์มีพิษ ไม่ว่าจะเป็น งู ตะขาบ แมงป่อง ลฯล ด้วยนะคะ แถมยังระวังเรื่องของไฟฟ้ารั่วด้วยนะคะ เป็นห่วงกันคะ จาก
อาหารเสริมลดน้ำหนัก ไม่จำเป็นฏ้ไม่ควรที่จะออกจากบ้านนะคะ เพราะทั้งต้องระวังโรคที่มากับน้ำด้วยอะคะ ไม่ว่าจะเป็นเท้าเปื่อย เชื้อราทำให้เป็น ฮ่องกงฟุต ได้ด้วยนะคะ และถ้าไม่จำเป็นก็ต้องระวังเรื่องของรถติด ด้วยคะ เพราะว่ารถนั้นจะติดเพราะวิื่งได้ช้าแล้วก็ยังเกิดจากที่รถเสียเนื่องจากน้ำท่วมนั่นเอง
และทั้งนี้ นายสุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็ได้ออกมาให้ทาง กทม รีบเร่งระบายน้ำให้โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่่น้องประชาชน อย่างเร่งด่วน โดยมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อาวุธ ปืน สิ่งที่หาได้ง่ายในเมืองไทย

             ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เมื่อประมาณก่อน ปี พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา ประเทศไทยก็เป็นเมืองผ่าน และติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่สงบนัก อีกอย่างประเทศไทยก็มีอาณาเขตติดต่อทางทะเลที่กว้างใหญ่ และมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีการรบระหว่างชนเผ่า กันอยู่มากไม่ว่าจะว้าแดง เป็นต้น และยังเป็นที่ระบาหรือลำเลียงยาเสพติดอีกด้วย ก็ยากแก่การควบคุม ถึงแม้จะมีกฏหมายบังคับก็ตามที แต่กระสุนปืนนั้น ก็หาได้ไม่ยากเยนนัก และกับการที่นักเรียนช่างส่วนใหญ่ก็มีความสามารถในการประดิษฐ์อาวุธ ที่เรียกได้ว่า อาวุธไทยประดิษฐ์ หรือปืนไทยประดิษฐ์ ก็ตามแต่ ล้วนแต่ป็นอาวุธปืนได้ทั้งสิ้น และแถมยังมีการประดิษฐ์ขายไม่ว่าจะผ่านทางไลน์ เฟสบุ๊ค ซึ่งก็โดนจับได้มากมายแตก็ยังมีอยู่กลาดเกลื่อน และเป็นการหาง่ายก็เพราะว่าหลายครั้งที่ทางทหารฝ่ายเขมร หรือกระทั่งชนกลุ่มน้อย ก็มักที่จะแอบข้ามมาขายยังชายแดนก็มากมาย เพราะชายแดนนั้น มีพื้นที่ครอบคลุมที่ยาวมาก ทั้งทางทะเล แม่น้ำ และทางบก เราไม่อาจจะปิดกั้นการเข้ามาได้เลย ถึงแม้จะมีมาตรการกฏหมายที่รองรับว่าการซื้ออาวุธ นั้นก็ขออณุญาตได้ยาก หลายขั้นตอน และอาวุธก็ยังมีราคาที่แพงอีกด้วย แต่กระนั้น อาวุธไทยประดิษฐ์ ก็ยังมีออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง แล้วที่เมื่อเร็วๆนี้ที่จับได้ก็เป็นปืนไรเฟิ่ล ทาสีฐานชมพู ดุน่ารัก แต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ซึ่งอยู่ในมือเยาวชน ที่บอกว่าจะเอาไปล้างแค้นโรงเรียนคู่อริ ซึ่งช่วงก่อนนั้น ที่ คสช ขึ้นมาปกครองประเทศนั้น ก็ได้ประกาศให้คนนำอาวุธ ออกมาทำลาย ซึ่งแต่ละพื้นที่ ต่างก็นำมาทำลายเป็นจำนวนมากอยู่แต่กระนั้น ก็ยังถือว่าเป็นส่วนน้อยมาก เพราะว่า ส่นใหญ่ก็จะเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชาวบ้านประดิษฐ์ เพื่อการล่าสัตว์ อย่างกระรอก และหนู นก ฯลฯ ประมาณนี้เท่านั้น ก็จะเป็นพวกปืนลูกกลด ลูกตะกั่วเล็กๆ เท่านั้นเอง
       กฏหมายอาวุธปืนก็ว่าดังนี้ 1. ความหมายของอาวุธปืน เป็นเครื่องมือที่ใช้ยิง และทำอันตรายต่อร่างกายถึงสาหัสได้ แต่สิ่งที่คล้ายอาวุธปืนและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เรียกว่า สิ่งเทียมอาวุธ และส่วนที่เป็นส่วนใดของอาวุธ แต่ไม่มีสภาพเป็นอาวุธ ก็มีความผิดดด้วยก็คือ ลำกล้อง ลูกเลื่อน เครื่องกลไก เครื่องส่งกระสุน  การขออณุญาต  พื้นที่อยู่ต่างจังหวัดต้องขอกับนายอำเภอท้องที่ และต้องขอเพื่อ 1.ป้องกันตัวและทรัพย์สินของตน 2. ใช้ในการกีฬาหรือล่าสัตว์ ( อันนี้ ท่าจะกว้างไปเพราะทุกวันนี้ สัตว์สงวนทั้งนั้น )  มาดูความผิดที่เกี่ยวกับอาวุธปืน 1.ทำโดยไม่ได้รับอณุญาต ( ก็ไม่เคยมีใครได้รับอณุญาต แล้วก็ไม่ได้มีระบุด้วยนะว่าจะต้องไปขออณุญาตกับใคร แล้วต้องทำเรื่องยังงัย เพราะไม่เคยมีใครเขาทำกันเลย ) 2.ซื้อโดยไม่ได้รับอณุญาต 3. มี โดยไม่ได้รับอณุญาต 4. ใช้ โดยไม่ได้รับอณุญาต ( อันนี้ก็ท่าจะลำบาก เพราะว่าไม่ได้พกไปไหน โจรเข้าบ้าน ถูกจี้ ก็ต้องไปทำเรื่องขอก่อน ) 5. สั่ง เข้ามาจากนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอณุญาต 6. นำ เข้ามาจากนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอณุญาต และการครอบครองปืนที่ไม่ผิดกฏหมาย ก็มีดังนี้ ครอบครองอาวุธที่ชอบด้วยกฏหมายของผู้อื่น เท่าที่จะเป็นเพื่อรักษามิให้สูญหาย 2. ครอบครองอาวุธปืนของราชการทหาร ตำรวจ และของหน่วยราชการ 3. ครอบครองอาวุธ ประจำเรือเดินทะเล รถไฟ และอากาศยานตามปรกติ ซึ่งได้แสดงและให้พนักงานศุลกากรตรวจสอบตามกฏหมายแล้ว  มาถึงว่าด้วยการครอบครองอาวุธ ห้ามโดยเด็ดขาดไม่ให้พกพาอาวุธไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในที่ชุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อ นมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ ก็แสดงให้เห็นว่า ในที่ชุมชนไม่สามารถพกอาวุธได้ ยกเว้นเจ้ากน้าที่ ตำรวจ ทหาร ที่มาปฏิบัติหน้าที่ และผู้ที่มีอำนาจในการออกใบอณุญาตให้พกพาในกรุงเทพฯ คือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนต่างจังหวัดก็จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด มาถึงการขออณุญาต เพื่อเก็บ ก็ต้องนายทำเบียน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ว่าต้องเป็นปืนโบราณ ชำรุด และไม่ให้ใช้ยิง ถ้าอยากจะมีอาวุธปืนก็ต้องขออณุญาตเสียก่อน 1. การขออณุญาต ซื้อขายอาวุธ ปืนส่วนบุคล  ( ป.๓ ) 2. ใบอณุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคล ( ป.๔ )
                 เนื่องจากการขอ ทุกวันนีเก็ขอกันยากมากขึ้น และอาวุธก้มีราคาที่แพง  แต่กระนั้นอาวุธในประเทศไทยนั้น ก็ยังมีแบบที่มีใบอณุญาตถึง 7.3 ล้านคน  ก็แสดงว่า เฉลี่ยมีปืนทุก 10 คน โดยเมื่อหนังสือพิมพ์รายหนึ่งได้รายงานว่า เมืองไทยนั้นมีการก่ออาชญากรรมมากกว่า ประเทศฟิลิปปินส์ เสียอีกทั้งที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเมืองที่มีขบถ แบ่งแย่งดินแดนมาก แต่ก็ยังไม่เท่าเมืองไทย นี่ขนาดยังไม่รวมที่มีอยู่ในมือ วัยรุ่น เด็กช่างกล และอาชีวะ นะเนี่ย โดยส่วนหนึ่งที่ นายชูวิชย์ เคยออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าประเทศไทยนั้น มีการอาวุธมาก และก็แถมยังส่งออกไปยังมาเลเซียด้วย และคนที่ทำก็เป็นคนมีสี และประเทศไทยนั้นก็หาอาวุธ อย่างปืนได้ง่ายเพราะว่า ติดกับชายแดนหลายประเทศ และการก่ออาชญากรรมจากผืน นับวันก็จะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต่อไปก็น่าจะเป็นเมืองคาวบอย เพราะต่างคนต่างก็พกติดตัว และอีกอย่างประเทศไทยเป็นเมืองร้อน คนก็เลยใจร้อน และการมีเรื่องทะเลาะวิวาท ก็เกิดขึ้นบ่อย และกฏหมายก็ไมรุนแรงพอด้วย นั่นเอง ถ้าจะเอาแบบต่างประเทศก็คงจะดีมากเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเยาวชน ถ้าทำผิดรา้ยแรงก็ประหารไปเลย แต่เมื่อเป็นแบบนี้ ต่อไป ก็อย่างว่า เรียกว่าได้ใจ ปัญหาคงจะไม่มวันจบอย่างแน่นอน แล้วยังงี้ จะเป็นสยามเมืองยิ้ม ได้อย่างไร  ฝากด้วยนะคะ อาหารเสริมลดน้ำหนัก ท่านที่รับผิดชอบ และพลเมืองชาวไทย

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สลด แพ้อาหารเสริมสมุนไพร ถึงตาย

        เมื่อวานนี้ ได้มีรายงานข่าวว่า ที่จังหวัดตรัง ได้มีหญิงสาว วัย 21 ปี เจอเซลล์ขายอาหารเสริมเป็นสารสกัดจากเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย ซึ่งก็เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมตัวหนึ่ง ได้ชักชวนให้ไปอบรมและเป็นสมาชิก เป็นการตลาดเพื่อที่จะเพิ่มยอดขาย และหลังจากนั้นก็ได้มอบ ผลิตภัณฑ์สินค้าตัวอย่าง มาให้ 4 แคปซูล หลังจากกลับมาบ้านและได้ทานเข้าไปทั้งหมด 4 แคปซูล เกิดอาการแพ้ ใบหน้าบวม เแม่รีบพาส่งโรงพยาบาล หลังจานนั้น 3 วันก็เสียชีวิต แพทย์ได้ระบุว่า เกิดจาการแพ้สมุนไพรอย่างรุนแรง ประกอบด้วยน้องเป็นโรคลมชักอยู่ด้วยหลังจากนั้นก็ได้ส่งศพ ไปชันสูตร ที่ รพ.รามาฯ หาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ถูกเปิดเผยเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 18 มิถุนายน โดยงานศพมีการจัดงานขึ้นที่ วัดนาเมืองเพชร ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง โดยผู้ตายมีชื่อว่า น้องศตพร พันทอง อายุ 21 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากการเสียชีวิต น.ส.ไอยอรอินทร์ อดุลวิบูล อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นแม่ กล่าวว่าตนเองเป็นช่างเสริมสวยและมีธุรกิจขายตรง ส่วนบุตรอยู่บ้านเฉยๆ และช่วยดูแลกิจการแม่ เพราะหลังจากจบ ม. 5 ก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะว่าป่วยเป็นโรคลมชัก ซึ่งก็เป็นมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ซึ่งต่อมาก็ได้มีเซลล์มาชักชวนให้เป็นสมาชิกธุกิจขายตรงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อ1 อ้างเป็นสารสกัดจากเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย สรรพคุณบำรุงร่างกาย หลังจากเข้าไปฟังแล้วก็ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิก และได้รับตัวอย่างอาหารเสริมมาคนละ 1 ชุด ซึ่งก็ได้ถามตัวแทนจำหน่ายแล้ว ว่าจะมีผลข้างเคียงมั๊ย เพราะลูกสาวเป็นโรคลมชัก ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี และอาจจะช่วยให้โรคลมชักหายได้ ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ลูกสาวก็ตื่นมาได้ดื่มนมและทานอาหารเสริมเข้าไป 2 แคปซูล หลังจากนั้น วันที่ 7 มิถุนายน ก็ได้ทานไปอีก 2 แคปซูล ตกบ่ายก็เริ่มีอาการตัวร้อน ปากบวม หน้าบวม ( ซึ่งก็เป็นอาหารแพ้เบื้องต้น ) จึงไป รพ. หมอก็ได้ระบุว่าเป็นอาการแพ้ยา และให้นอนรักษษตัวที่ รพ. ตรัง ซึ่งตนก็ได้โทรไปหาเซลล์ และได้รับการบอกว่ายังไม่มีลูกค้าคนไหนกินแล้วแพ้มาก่อน และรับปากว่าจะรับผิดชอบและดูแลค่ารักษาทุกอย่าง และได้นอนรักษาตัวอยู่ 3 วัน อาการของน้องมิลค์ เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ  หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีผื่นขึ้นเป้นตุ่มใสๆ เป็นแผลพุพองเต็มตัว ปากบวม มีสีดำ ลิ้นมีเลือดออก ผิวหนังตึง มีสีคล้ำคล้ายกับถูกไฟไหม้และลอกเป็นแผ่น ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิตเพียง 1 วัน ดวงตาเริ่มมองไม่เห็นเพราะเป็นหนองและลืมตาไม่ขึ้น หมอบอกให้ครอบครัวทำใจ เพราะน้องมีอาการแพ้สมุนไพรอย่างรุนแรง และเมื่อเวลา 17.00 น . วันเดียวกัน น้องมิลค์ก็ได้เสียชีวิตลง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ด้วยเคสของน้องมิลค์ เป็นเคสที่ละเอียดอ่อน และทาง รพ.สงขลานคริทนร์ มีเครื่องมือที่ไม่ทันสมัยพอ จึงได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ ยัง รพ.รามาธิบดี
       คุณแม่น้องมิลค์ กล่วว่าในกรณีของน้องมิลค์ เสียชีวิตลงก็อยากให้เป็น อุทาหรณ์แก่ผู้บริโภคทั่วไปที่จะบริโภคอาหารเสริม รวมทั้งได้อุทิศศพของน้องมิลค์ ให้เป็นวิทยาทานแก่นักเรียนแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป เบือ้งต้นแพทย์ได้เก็บเนื้อเยื่อบางส่วนที่จำเป็นไปแล้วพร้อมทั้งได้ส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบในห้องแล็บแล้ว ซึ่งก็จะต้องรออีกประมาณ 2 เดือน จึงจะรู้ผล และยังต้องรอผลก่อนที่จะสรุป เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ. ตรัง พร้อมแต่งตั้งทนายดูแลด้านคดี ทั้งนี้ อาหารเสริมก็มีผลข้างเคียงและเกิดการแพ้ ขึ้นได้กับบางคน เพราะในตัวคนเราต่างก็ไม่เหมือนกัน อาจจะมีสารเคมีบางตัว หรือคนเรามีเชื้อบางอย่างอยู่ในตัวไม่แน่นอน และสารและเชื้อตัวนั้น จะทำปฏิกิริยา กับอาหารเสริมก็จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายได้ ซึ่งก็จะมีทั้งแพ้ อาเจียน คลื่นไส้ มีผดผื่น คันผิวหนัง ซึ่งถ้าเราเกิดอาการหลังจากกินหรือทา เราก็ควรหยุดทานและไปพบแพทย์โดยเร็ว เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมหรืออาหารที่เราทาน ต่างก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ทั้งนั้น โดยส่วนมากที่เรานั้นเห็นก็จะเป็นการแพ้อาหารทะเล เป็นต้น บางคนก็แพ้ฝุ่นละออง ก็แล้วแต่เคสไป แต่การแพ้พืชและสารสกัด อย่างอาหารเสริม ก็มีแต่ก็ไม่บ่อยนัก นานๆจะเป็นข่างสักที แต่ถ้าทานหรือทาแล้วมีอาการข้างเคียง ควรที่จะหยุดในทันที ควรระวังการทานอาหารเสริมและควรที่จะดูผลข้างเคียงโดยการสังเกตุ ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราด้วยนะคะ

โดย อาหารเสริมลดน้ำหนัก
ขอบคุณที่มา  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ