แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชิงทรัพย์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชิงทรัพย์ แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

แล้วใครจะมีอำนาจรับซื้อของโจร กับการทำผิดซ้ำซาก

        เมื่อโจรที่เราเห็นอยู่เป็นข่าว ก่อความเดือดร้อนมากขึ้นในแต่ละวัน จนประชาชนคนอย่างเรา ยากที่จะป้องกันได้ ไม่ว่าจะป้องกันอย่างไร ก็ไม่รู้สึกถึงความปลอดภัยได้เลย ชีวิตเหมือนฝากไว้กับโชคชะตา และเหมือนแขวนไว้บนเส้นด้าย  อย่างเมื่อวันก่อนที่บัสสาว ถูกฆาตกรรม ทั้งที่อยู่ในห้องพัก เป็นเวลาช่วงเช้า ที่ผู้คนนั้นตื่นออกมาดิ้นรนเพื่อปากท้อง แต่เมื่อสาวบัสโฮสเตส โดยเหตุการณ์ก็เกิดจากการที่ผู้ร้าย คือนายอภิรักษ์ กระจายสี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวได้เาชรียบร้อย ได้ให้การสารภาพว่า บัสโฮสเตสสาว ขัดขืนเลยใช้มีดแทงเสียชีวิต แล้วก็ลากศพไปไว้ในบริเวณห้องน้ำ และทำเหือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินออกมาอยาหงน้าตาเฉย ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นหอพัก ซึ่งอยู่ถึงชั้น 2 ซึ่งผู้เสียชีวิตก็คงไม่คาดคิดเพราะว่าเป็นช่วงเช้า มีคนพลุกพล่าน โดยได้เปิดประตูเอาไว้ เพราะว่ารีดผ้า และได้สวมเพียงกระโจมอก เนื่องด้วยอากาศร้อนด้วยนั่นเอง แต่เหมือนกับดวงถึงฆาต
         เพราะก่อนหน้านี้ เพียงไม่กี่นาที คนร้ายได้เข้าไปอีกหอหนึ่งที่อยู่ห่างกันเพียง 700 เมตร ได้เข้าไปห้องของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็ได้ร้องตะโกนให้คนช่วย แล้วคนร้ายก็ได้หลบหนีไป และได้มาก่อเหตุยังหอต่อมา โดยที่คนร้ายได้สังเกตุว่าประตูไม่ได้ปิด และไม่มียามรักษาความปลอดภัย  ทำให้เดินขึ้นไป โดยทำทีว่าขอแลกเหรียญ ซึ่งผู้ตายก็รู้อยู่แล้วด้วยว่ามาร้ายอย่างแน่นอน จึงได้เอามีดออกมาเพื่อป้องกันตัว แต่ด้วยความตกใจทำให้มีดหลุด และได้ร้องตะโกนให้คนช่วย คนร้ายจึงใช้มีด กระหน่ำแทงจนเสียชีวิต และได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต เป็นสร้อยทองคำหนัก 1 บาท โดยการถูกกระชากขาด และได้นำไปขายที่ย่านหลักสี่  ส่วนก่อนนั้นได้มาหาเพื่อนที่หอหนึ่ง แต่เพื่อนไม่อยู่ และได้ก่อเหตุไว้ที่หอหนึ่งแต่ว่าเมื่อไม่สำเร็จก็ไดมายังอีกหอ โดยเห็นว่าห้องนั้นประตูไม่ได้ปิด เลยขึ้นไป และเห็นผู้ตายนุ่งกระโจมอก และผู้ตายได้ตบหน้าตังเอง และได้ใช้มีดข่มขู่ จึงได้แย่งมีดทำให้มีดบาดมือ และได้ใช้มีดอีกเล่มแทงผู้ตายจนเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนเสื้อเป็นสีดำ และนำทองไปขายแล้วนำเงินหลบหนีกลับบ้านญาติ เพื่อไปร่วมงานศพที่จังหวัดสุโขทัย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด และก็ยังสอบสวนต่อว่าหมายข่มชืนด้วยหรือไม่ คนร้ายได้ระบุว่า ประสงค์ต่อทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของคนร้าย เพราะแรงจูงใจก็น่าจะมาจากการที่เห็นผู้ตายนุ่งกระโจมอกด้วยอย่างแน่นอน เพราะเมื่อมองจากเ้านล่างขึ้นไป ก็น่าจะมองเห็นว่าผู้ตายนั้น อยู่คนเดียวและนุ่งกระโจมอก ซึ่งผู้ตายก็มีผิวขาวทำให้มองเห็นชัดเจน นั่นเอง เพราะจากากรตรวจสอบประวัติทางอาชญากรรมก็พบว่า เคยต้องคดีอนาจารรวมด้วย
      จากการที่เกิดเหตุการณ์ ซ้ำซากอยู่แบบนี้ ลองค้นประวัติของผู้ที่ก่อเหตุในแต่ละคดีนั้น จะเป็นการที่ก่อคดี ซ้ำซากคือการที่ ติดคุกแล้วก็เมื่อพ้นโทษ ออกมาก็ก่อคดีอีกแล้วก็เข้าคุก แล้วคุณเชื่อมั๊ยว่าก็จะออกมาก่อคดีอีกอย่างแน่นอน อาจจะเป็นเพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ และบทบาทการลงโทษ ของประเทศอื่นก็มองว่าเป็นการโหดร้ายเกินไป ไม่ว่าจะเป้นประเทศตะวันออกกลาง ที่มีการลงโทษของชาวบ้านที่เรียกได้ว่ารู้กัน ก็คือการตัดอวัยวะเพศทิ้ง แปละถ้าขโมยก็คือถ้าเบาหน่อยก็จะโบย ที่กลางตลาด และถ้านหนักหน่อยก็จะตัดนิ้ว และก็ไปถึงการตัดแขน ถ้าข่มขืน ฆ่า ก็แขวนคอโดยก่อนตายก็จะถูกทรมานแบบแสนสาหัสก่อน ซึ่งก็ทำให้ประเทศนั้น แทบจะไม่มีคดีเหล่านี้เกิดขึ้นเลย และเราจะต้องรออะไรอีกที่จะบอกว่าโหดเหี้ยมไม่มีศีลธรรม แต่กับการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฏหมายแบบนี้ เมื่อพ้นโทษก็จะออกมากระทำผิดซ้ำซาก อย่างอีกกรณีที่ คนร้ายแก๊งล้วงกระเป๋าที่ จังหวัดชลบุรี มีทั้งหมด 5 คน รวมกันเป็นแก๊ง แล้วก็ถูกดำเนินคดี มาแล้ว 5 ครั้ง เข้าคุกออกคุกแล้วก็ยังออกมาก่อคดีอีก และทาง อาหารเสริม ก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วยนะคะ และอยากให้เห็นการนำเอากฏหมายที่เรียกว่าเด็ดขาด ออกมาใช้กันได้แล้วนะคะ ถ้าอยากเห็นประเทศไทยสงบและน่าอยู่อะคะ