แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปุ๋ย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปุ๋ย แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

นวัตกรรมปุ๋ย สูตรใหม่เวียดนาม เพิ่มผลผลิต กว่าครึ่ง

     ปุ๋ยและสารเคมีที่กำจัดศัตรูพืช และวัชพืช ประเทศเกษตรกรรมส่วนใหญ่ก็มักที่นำเข้าพวกสารเคมี คือต้องบอกไว้ก่อนว่าประเทศไทยนั้นก็นำเข้าเป็นอันดับ 1 หรือเรียกได้ว่าอยู่ในชั้นแนวหน้าของโลกเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศบราซิลเครื่องจะเป็นการเพิ่มต้นทุนเฉพาะสารเคมีสูงขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์และส่วนปุ๋ยและธาตุอาหารบํารุงพืชนั้น  ก็จะนำเช้ามา 50 % ก็เท่ากับว่าต้นทุนมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 80 % แต่ไม่มีการคิดค้นขึ้นมาเราก็ได้เอาใสปุ๋ยที่เรียกว่าปุ๋ยอินทรีย์ หรือเรียกอีกอย่างก็เป็นปุ๋ยชีวภาพ ไก่บ้านเกษตรกรก็มีการพัฒนาโดยเพื่อที่จะลดสารเคมีและสารบำรุงที่ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมดินเพื่อการหมักต่อซังข้าว เติมโมลาส มูลไก่  มูลสุกร หลังจากนั้นก็จะนำแหนแดงไปปล่อย และตัวหนาแดงเองมีความสามารถในการดึงไนโตรเจนจากอากาศ และย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งก็เป็นการทำให้มีผลิตผลหรือที่เรียกว่าเพิ่มผลผลิต ได้มากขึ้น 3 เท่าตัว ซึ่งก็มีการทดลองแล้ว ได้ผลดีแต่ก็เป็นการทำที่มีหลายวิธีมากเกินไปคือมีขั้นตอนมากเกินไปนั่นเอง แต่การทำอย่างนี้ถือว่าเป็นการรักษาหน้าดินไปในตัวด้วย ก็ถือว่าเป็นการใช้ดินในระยะยาว ซึ่งก็จะทำให้เกษตรกรมันสามารถลดต้นทุนไปได้อีก 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

     ส่วนเรื่องของสารเคมีที่ยังต้องสั่งเข้ามานั้นเพราะว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของเชื้อไม่ว่าจะเป็นเชื้อกินใบหรือกินผลผลิตเอง แต่กระนั้นก็ยังมีการหมักที่เรียกว่าการหมักชีวภาพ ไม่ว่าจะเกิดจากเศษผักเศษผลไม้อะไรต่างๆก็นำมาหมัก เป็นยากำจัดศัตรูพืชและแมลงได้ แทนการใช้สารเคมี และเป็นการลดต้นทุนลงไปด้วย แต่ก็ยังเป็นการทำ หลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการมีบ่อหมักถ้ามีสวนขนาดใหญ่ หรือไม่ก็เป็นถังก็ได้ แต่ละส่วนก็จะมีวิธีการหมักที่ไม่เหมือนกัน โดยการนำผักและผลไม้เหล่านั้น มาหมักเอาไว้ในถังแล้วก็รอให้เชื้อแบคทีเรียส่วนที่ดีนั้นคือสามารถกำจัดศัตรูพืชนั้น มีการขยายตัว โดยการผสมน้ำเข้าไปด้วยซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีและหลายแบบเหมือนกัน บ้านสู่เสด็จเป็นการใช้เกลือทะเล ที่เป็นเม็ดกับกากน้ำตาลโดยให้สัดส่วนที่ได้กัน ก็จะเป็นการลดต้นทุนโดยไม่ต้องใช้สารเคมี บางสูตรก็จะเป็นการทำยาฆ่าหญ้า ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านโดยการนำหัวผักกาด หัวไช้เท้า ผงกลูโคส น้ำมะพร้าวอ่อน ซึ่งแต่ละอย่างที่กล่าวมาให้หรือปริมาณ 1 ส่วนเท่าเท่ากันแล้วก็นำมาผสม หมักรวมกันไว้ 1 คืน จากนั้นก็ไปฉีดพ่นเรือนที่มีหญ้า ที่พ่น 7 วันต่อครั้ง ส่วนผสมก็จะเป็น 10 ซีซีต่อน้ำ 10 ลิตร ซึ่งก็ต้องพ่นตอนที่เพิ่มข้าวยังมีขนาดเล็กอยู่ เพื่อยายกำจัดหญ้าตัวนี้จะได้ปรกคลุมลงที่พื้นดินได้ 183 ว่ามีคนให้กับมะนาวและส้มโอ เพื่อลดอาการใบร่วง  ว่ามีคนให้กับมะนาวดีขึ้นโชว์เพื่อลดอาการไปร่วมเพื่อลดอาการใบร่วงมี ก็เป็นการทำสูตรอีกอย่าง ซื้อเกลือแกง  1 กิโลกรัม น้ำเปล่า 10 ลิตร ปุ๋ยยูเรีย เบอร์ 46-0-0  1 กิโลกรัมน้ำยาล้างจานที่ใช้กันอยู่ทั่วไป 10 cc  จากนั้นก็เอาส่วนผสมทั้งหมดส่วนผสมกับน้ำ 10 ลิตร หมักไว้ในถังประมาณ 3 วัน สามารถนำไปฉีดพ่นในนาข้าวได้ ก็มีลิ้นสูตรที่ 3 เป็นการทำน้ำมันชีวภาพ การใช้น้ำมันเครื่องเก่าให้เกิดประโยชน์เพื่อส่วนใหญ่แล้วเขาจะทิ้งไปขออะไรที่ไหนก็ได้น้ำมันเครื่องเบอร์ 40 ที่ใช้แล้วเพลงเล็กน้อย 25 cc  ผงซักฟอกแบบที่เราใช้ซักผ้าอยู่ทุกวันนี่แหละ ประมาณ 600 กรัม น้ำมันไบโอดีเซล  25 cc แล้วก็ตามด้วยน้ำเปล่า 20 ลิตร แนะนำส่วนผสมมาผสมในขวดเขย่าให้เข้ากัน ก็สามารถนำไปฉีดพ่นฆ่าหญ้าได้ ส่วนอาหารบำรุงพืชนั้นก็จะเป็นการนำมูลสัตว์ทั้งหลาย มาคลุกที่ดิน เพื่อเป็นอาหารเพืช

      เมื่อวันนี้เรามาดูที่ประเทศเวียดนามที่เขามีวิวัฒนาการที่เรียกว่า ล้ำหน้าไปกว่าเกษตรกรไทย โดยทางรัฐบาลนั้น ก็ไม่ได้มีการบอกสูตรแต่อย่างใดเพียงแต่ทำซึ่งก็เรียกว่าอยู่ในขั้นทดลองที่สมบูรณ์แบบแล้ว นั่นก็เป็นปุ๋ยที่สามารถเพิ่มผลผลิต  50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เพียงแต่กล่าวว่าเป็นการนำมูลสัตว์และซากพืช เป็นส่วนผสมหลัก แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นมูลสัตว์อะไรหรือซากพืชอะไรแล้วผสมกันในสัดส่วนเท่าไร แล้วก็นำมาทำเป็นเม็ด ขึ้นก็ทดลองแล้วได้ผลจริง และจะมีการเผยแพร่ให้แก่เกษตรกรชาวเวียดนาม และเป็นการลดต้นทุนการนำปุ๋ยเข้าถึง 50%  นั่นก็หมายถึงว่า เขาสามารถเพิ่มผลผลิตได้ 50%  แล้วก็ยังลดต้นทุนได้อีก 50%  สารเคมีนั้นก็ยังมีการสั่งเข้ามาอยู่ 30%  ซึ่งก็คาดว่าต่อไปในอนาคตก็จะมีการพัฒนาสารเคมีชีวภาพ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนไปอีก ซึ่งก็เท่ากับว่า ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมา 50 เปอร์เซ็นต์  ลดต้นทุนได้อีก 50%  ส่วนการสั่งซื้อ 30% ทางเคมี ก็เท่ากับว่าเกษตรกรลดต้นทุนไปได้กว่า 70%  และผลผลิตเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ประเทศคู่แข่งต้องคิดแล้วว่า ถ้าคุณภาพออกมาดีด้วย และราคาถูกลงแต่มีของมากขึ้น ประเทศคู่แข่งต้องมีการปรับตัวกันอย่างอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยเอง ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย ก็สู้ประเทศเวียดนามไม่ได้อย่างแน่นอน ประเทศไทยนั้นชื่อเมืองมองให้เห็นกันอยู่ส่วนมากก็จะออกมาในทางค้าขาย กำไร โดยไม่สนใจในเรื่องของว่าเกษตรกรจะขาดทุนอย่างไร อย่างเรื่องข้าวของไทยนั้น พื้นมีปีไหนไหมที่เกษตรกรขายข้าวแล้วได้กำไร มีแต่ขาดทุนอยู่ทุกปี แต่ก็ยังต้องทำเพราะเป็นอาชีพที่ปู่ย่าตายายทิ้งไว้ให้และเป็นการรักษาผืนแผ่นดินที่ปู่ย่าตายายให้มีไว้ให้ด้วยเช่นกัน รวมเรื่องของนักวิชาการนั้นเราไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะบริษัทใหญ่ก็กว้างคือคนเก่งๆไปทำการวิจัยให้เขาหมด แล้วก็ผลิตออกมาเพื่อการจำหน่าย แม้บางอย่างจะผลิตไม่ยาก ก็จะทำให้เป็นเรื่องยากเพื่อที่จะขาย หวังให้มีกำไรสูง  และการวิจัยของนักวิชาการภาครัฐเอง ก็ยังทำได้ไม่ถึงขั้น เหมือนกับว่าประเทศไทยขาดคนเก่งก็ไม่ใช่ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะทำเพื่อเงินมากกว่า การที่ประเทศเวียดนามได้มีการพัฒนาโดยชีวภาพ ที่สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากสุดถึง 50% นี้ ต่อไปช้าวไทยก็คงตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ทั้งการขาดทุนและขายไม่ออก ชาวนาไทยที่มีถึง 20 ล้านคนนั้นต้องตกอยู่ในภาวะลำบากอย่างแน่นอน ส่วนนี้ต้องอวิงวินทางภาครัฐ ควรเร่งและพัฒนา เพื่อทำการแจกจ่ายสูตร เพิ่มผลผลิต ให้กับเกษตรกรไทย โดยเร็วที่สุด และต้องทำการอย่างเข้าถึง เพราะไม่เช่นนั้นจะต่อไปชาวนาไทย ก็จะแย่ไปกว่าเดิมอีก รวมไปถึงการตลาด ท่จะต้องขายข้าวให้หมด โดยการขยายตลาดและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ มีการพัฒนา และการแนะนำให้ต่างประเทศที่ยังไม่นิยมรับประมานข้าว หันมารับประทานข้าวกันให้มากขึ้นด้วย
หวังดีต่อพี่น้อง ชาวนาไทย อาหารเสริมผู้ชาย ห่วงใยชาวนาไทย มากมาย