แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฟอกเงิน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฟอกเงิน แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ยึดทรัพย์ บรรยิน ธัมชโย พร้อมพวก ฟอกเงิน

           พล.ต.อ.ชัยยะกล่าว คดีแรก ปปง.ได้รับแจ้งจาก บช.ก. ให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ กับพวกในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่ง ปปง ตรวจสอบแล้ว มีผู้ต้องหากระทำผิดหลายราย จึงได้ดำเนินการ อายัดทรัพย์สิน ทั้งเครือข่ายของ พ.ต.ท.บรรยิน โดยมี หุ้นบริษัท win จำนวน 10 ล้านบาท รถปอร์เช่ 6 ล้าน รวม 16 ล้าน และได้เข้าไปยึดแลอายัดทรัพย์สิน  นางสาว กัญฐณา ( น้ำตาล  ) ศิวาธนพล และนาวสาว อุรชา ( ป้อนข้าว ) วชิรกุลฑล เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3 แปลง บ้าน 2 หลัง มูลค่า 15 ล้านบาท รวมคดีรั้ ก็ 31 ล้านบาท
           มาถึงคดี พระธัมชโย ก็ได้ทำการยึดทรัพย์มาแล้ว บางส่วน 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากใน 4 บัญชี ถ้าตรวจสอบถึงใครก็จะตามยึดมาอีก ส่วนที่เหลือ คดีสหกรณ์คลองจั่น และส่วนของที่ดิน ก็จะกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีอาญา   และอีกคดีที่เป็นการ
แย่งอาชีพคนไทย โดยการเรียกว่า ปลอมทั้งบัตรประชาชน และการเข้ามาทำทัวร์ในประเทศไทย   เป็นการฟอกเงินที่เห็นได้ชัด  ยูลยีฅซึ่งเป็นการท่องเที่ยวด้อยคุณภาพ และมีการแจ้งข้อหาอั้งยี่ พร้อมกันนี้ได้ยึดอายัดทรัพย์สิน  ของบริษัท ทรานลี่ และพวก ได้แก่รถบัส 116 คัน เรือนำเที่ยวสปีดโบ๊ส 35 ลำ บัญชีธนาคาร 53 บัญชี ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ภูเก็ต 3 แปลง พังงา 7 แปลง รถบัสอีก 1 คัน สปีดโบ๊ส 1 ลำ รวมทั้งสิ้น 1 พัน 2 ร้อยล้าน  และที่หนักกว่าก็เป็นคดีโรงกำจัดขยะ คลองด่าน ซึ่งก็มีถึง 6 บริษัท ซึง่ทาง ปปง. ได้อายัดยึดเงินบัญชี บริษัท NVPSKG เป็นเงิน 97 ล้าน ดอก 8 หมื่น พร้อมทั้งเอกชนรายอื่น ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด อีก 9 พัน 6 ร้อยล้าน เป็นความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งมีการตรวจสอบแล้วมีความผิดจริง จึงได้อายัดเงินงวดที่ 2 กับ งวดที่ 3 เป็นเงิน 6 พัน 4 ร้อยล้านบาท
ซึ่งคดีนี้มีความผิดเสียหายเป็นเงินถึง 3 หมื่นล้านบาท ตามมาได้ 6 พันล้าน เหลือที่จะต้องตามอีกกว่า 2 หมื่น 5 พันล้าน  และตามด้วยคดี ยาเสพติดรายใหญ่ที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจากการจับกุมของตำรวจรถไฟ จับได้ผู้ต้องหาพรอมยาบ้า และไอซ์ และขยายจับกุมเครือข่ายได้หลายคน ยึดเงินกว่า 20 ล้าน พร้อมท้ั้งได้อายัดบ้าน 3 หลัง และอายัดเงินทั้งสิ้น 2 ร้อย 30ล้านบาท
         ซึ่งแต่ละคดี ก็จะมีเงินที่ใช้ฟอกเงิน มากมายมหาศาล แต่ความผิดของผู้ที่กระทำความผิดก็ล้วนแต่เป็นผู้ที่ มีอิทธิพลและเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็คงมีการวางแผนและเตรียมการเป็นอย่างดี การที่กล้าที่จะเสี่ยงกระทำความผิดนั้น ก็ส่วนมากก็จะรู้และได้หลบไนีกันไปก่อนหน้า การที่จะให้คอรัปชั่น จะหมดไปจากเมืองไทยนั้น ก็ต้องเป็นงานหนักหน่วงจริงๆ อาหารเสริมลดน้ำหนัก การปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ไม่กล้านั้นก็ต้องมีการลงโทษที่เฉียบขาด และไม่ว่าผู้ต้องหาจะอยู่ที่ไหน ก็จะต้องตามตัวมารับโทษให้จงได้ และการปลูกฝังเด็กยูลยีฅให้มีความซื่อสัตย์นั้น ก็ควรปลูกฝังตั้งแต่เนิ่นๆ บทลงโทษก็ควรที่จะทำกันอย่างจริงจัง เพราะการมัวรอ จะทำให้ผู้ต้องหาเตลิดไปเสียก่อน  และวันนี้ก็ใช่ว่าจะหมดลงไป เพราะนี่เป็นคดีเก่าที่เกิดเมื่อหลายปีมาแล้ว ด้วยบุคลากร ที่ไม่เพียงพอที่จะรวบรวมหลักฐาน และการที่ระบบของรัฐมีช่องโหว่อยู่ จึงทำให้มีคนมองผ่าน และกล้าที่จะทำการอันมิชอบ ร่วมมือร่วมใจ หยุดคอรัปชั่น ประเทศจะได้เจริญและพัฒนา ก้าวหน้าต่อไป ส่งเสริมและยินดีกับคนดี ที่ทำมาสุจริต ขอบคุณ อาหารเสริม

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

โอละพ่อ คุณหญิงไก่ ฟ้องลูกจ้าง ทำมาหลายราย คาดมีเงื่อนงำ หญิงไก่ถูกแจ้งข้อหา

          กับข่าวถ้าเราไม่ดูให้ดี ไม่ละเอียดในการติดตาม เราก็ยังเห็นว่า เหมือนกับยังมีคนรวย ที่เอาเปรียบคนจน และคนมีอำนาจก็มักจะเอาเปรียบคนที่ต่ำกว่า โดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย และไม่มีมนุษยธรรม เอาเสียเลย แต่กับสังคมไทยเรา เราก็ต้องยอมรับกันและบอกได้เลยว่า มีมานานแล้วด้วย เมื่อนายสงกรานต์ อัจฉริยะทัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้โฟสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กับคุณหญิงกำมะลอ ที่แจ้งจับลูกจ้างสาว วัย 17 ปี และบิดามารดา ขโมยทรัพย์สิน มีมูลค่ารวมกว่า ๑0 ล้านบาท ซึ่งเรื่องราวก็เกิดขึ้นมาก็เพราะน้องก้อย ที่ทำงานกับหญิงไก่ได้ตกลงกับครอบครัว่าจะไม่ทำงานกับหญิงไก่ และจะขนของกลับนครพนม เพราะกอ่นหน้านี้หญิงไก่ได้ขอเป็นบุตรบุญธรรมและจะพาไปทำงานยังต่างประเทศ แล้วเมื่อกลับบ้านก็ได้ถูกแจ้งจับดังกล่าว ซึ่งน้องก้อย ก็ได้ถูกจับขณะทำงาน พ่อแม่ไม่มีทรัพย์สินประกัน จึงถูกส่งต่อไปยังบ้านปราณี สามพราน จังหวัดนครปฐม จนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากนั้น น้องก้อยก็ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นายจาตุรงค์ สุขเอียด นักข่าว ไทยทีวีสี ช่อง 3 ซึ่งภายหลังพนักงานพิสูญน์หลักฐานได้เข้าไปทำการตรวจสอบก็พบว่า คดีนี้หญิงไก่ให้การมีพิรุธ หลายอย่าง ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวออกไปก็มีลูกจ้างอีกหลายรายเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หนึ่งในลูกจ้างได้ได้เข้ามาให้ปากคำพิ่มเติม คุณสุกัญญา หนึ่งในลูกจ้างที่ถูกคุมขังในคดีฐานลักทรัพย์ ที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อนำมาประกอบข้อมูลพิจารณา และอีกหนึ่งคนที่เป็นชาวเขา ที่เคยทำงานกับหญิงไก่ และให้เขียนรับสารภาพว่าจะไม่ดำเนินคดี แต่เมื่อรับสารภาพกลับถูกศาลจำคุก ๑ ปี กับ ๖ เดือน ก็เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อไม่นานมานี้ เข้ามาขอความเป็นธรรมที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งก็อยู่ในการรวบรวมข้อมูล
        แล้วเมื่อวันก่อน รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ก็ได้สัมภาษณ์ หนูนา ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงชาวเขา เผ่ากะเหรี่ยง ที่บ้านสุขใจ ตำบลเเม่ฟ้าหลวง จังหวัดแม่ฮ่องสอน อายุ 25 ปี ซึ่งก็ตกเป็นเหยื่อรายที่ ๓ โดยระบุว่า หญิงไก่อ้างเป็นคนชั้นสูงจะมาขออุปการะเลี้ยงดู เนื่องจากชอบช่วยเหลือเด็กยากจนและได้นำเงินไปให้บิดา มารดา ๑ หมื่นบาท ก่อนจะนำตัวมารับใช้ที่คอนโดมิเนียม และให้ติดตามไปต่างจังหวัด เพราะหญิงไก่เป็นคนชอบเสี่ยงโชค เคยสั่งให้เธอไปทำพาสปอร์ตเพื่อใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศด้วย แต่เธอไม่ยินยอม และยังได้ยืนยันด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเงินเดือน ได้เพียงเงินค่าใช้จ่าย เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จนอยากจะลาออกเพื่อที่จะไปใช้ชีวิตกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเมื่อทราบเรื่องหญิงไก่กลับโกรธมาก และได้ไปแจ้งความยัดข้อหาลักทรัพย์และเครื่องเพชรสูญหายไป 5 รายการ และขู่บีบบังคับครอบครัว จนเธอเองต้องรับสารภาพ ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน เพราะเข้าใจว่า ถ้ารับสารภาพไปแล้วหญิงไก่จะช่วยในภายหลัง จนตัวเธอเองต้องถูกตัดสินจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ซึ่งก็ไม่เคยได้รับความช่ยเหลือจากหญิงไก่แต่อย่างใด ทั้งมีการเขียนจดหมาย สำนึกในบุญคุณ เพื่อให้ใจอ่อนยอมช่วยเหลือ แต่กลับถูกนำจดหมายไปอ้างว่าเป็นคนใจยุญ ชอบช่วยเหลือคน แต่อีกอย่างก็ยังไม่เคยมีใครเห็นถุงดำ ที่อ้างว่าใส่เครื่องเพชรเลย มิหนำซ้ำ แฟนหนุ่มยังถูกใส่แจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ ข่มชืนกระทำชำเรา และร่วมกันลักทรัพย์ โดยไม่มีหลักฐาน จนผู้ใหญ่ที่รู้จักกันเข้ามายืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าว
        จากการตรวจสอบหญิงไก่ มีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง จากวันทนีย์ หยกวิริยะกุล พ.ศ.2548 เป็นสุชาดา และลาสุดได้เปลี่ยนเป็น นางมณตา หยกรัตนกาญ  ซึ่งจาการพลิกแฟ้ม ปี พ.ศ. 2535 ได้มีข่าวการแต่งงานอภิมหาวิวาห์ วันทนีย์ หยกวิริยะกุล กับ ร.ต.อ. ชิดชัย แสงอรุณ ที่โรงแรมเซ็นทรัล
ด้วยการลทุนงานแต่งไป 3 ล้านบาท ซึ่งก่อนวันแต่งก็ได้แจ้งกับแขกเกลื่อ ว่าพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ กับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ จะมาเป็นประธานแต่ก็ไม่ได้มา ซึ่งหญิงไก่โด่งดังในสมัยนั้นก็เพราะเป็นคนชอบแจกเงินให้คนจน และผู้ทุกข์ยาก โดยการแจกเป็นกรสอบ มีตั้งแต่ 500 ไปจนถึงหลัก แสน
ซึ่งครั้งหนึ่งเธอได้ไปร้านขายมอเตอร์ไซน์ ที่พิษณุโลก ซื่อมา 4 คัน เพื่อแจกคนเพียงแต่ถามว่ารู้จักฉันไหม ตอบโดนใจก็จะได้รับไปเลย ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับเงินช่วยเหลือก็มักจะเรียกว่าคุณหญิงไก่ หลายคนสงสัยว่าเธอเอาเงินมาจากไหน ซึ่งก็มีคนเข้าปหาข้อมูลว่าหญิงไก่นั้น สนิทสนมกับ เสี่ยเล้ง เจริญ พัฒนดำรงจิตต์ ซึ่งเสี่ยเล้งมหาเศรษฐีขอนแก่นนั้นเป้นคนชอบเสี่ยงโชค ซึ่งก็เดินตามกันเพราะหญิงไก่จะถูกพาไปด้วยเสมอเพราะเธอมีญาณวิเศษ ซึ่งก็ไม่ได้ระบุว่า เข้าไปเสี่ยงโชคที่ไหน อาจจะเป็น คาสิโนปอยเปต, มาเก๊า ,สวรรค์เวกัส ลาว ซึ่งพวกนักเสี่ยงโชค ส่วนมากก็จะไปทุกที่ และเรื่องเหล่านี้ ก็ยังเป็นเรื่องที่พิสูจณ์ไม่ได้หรืออาจเป็นเพียงความบังเอิญ แต่น่าคิดที่บังเอิญหลายครั้งนี่สิ เรียกว่าโชคดีดีกว่านะ ซึ่งการที่คนที่บอกว่าเสี่ยงโชคนั้น เขาเล่นกันครั้งละเป็นร้อยๆล้านเลย เชียว เพราะถ้าได้ก็ยิง่เล่นเพราะถือว่าดวงกำลังขึ้น และหลายครั้งก็เป็นเส้นทางการฟอกเงินของคนบางกลุ่มอีกด้วย  แต่ทั้งนี้ เรื่องนี้ อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็หวังว่าจะเกิดความยุติธรรมให้แก่บุคคลที่ไม่มีความผิดและโดนกลั่นแกล้งทั้งหลายด้วย และหวังว่าประเทศไทย จะมีไม่มีการคอรับชั่น เกิดขึ้นอีก แต่ก็เป็นเพียงคำปรามาส เท่านั้นเพราะคิดว่ายังยากอยู่ ก็ขอฝากไว้ด้วยนะคะ ซึ่งเมื่อเช้านี้  ทางกองปราบก็ได้ แจ้งข้อกล่าวหากับหญิงไก่ว่า แจ้งความเท็จ และจะมีการรื้อคดีเก่า ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งด้วย อย่าให้เป็นแพะรับบาป ที่ยังมีอยู่มากมายอีกเลย
          เพิ่มเเติม ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวหญิงไก่ และคัดค้านการประกันตัว ซึ่งได้แจ้งข้อหน้าไว้ดังนี้ คือ ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นเบื้องสูง , แจ้งความเท็จ, กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และข้อหาพยายามค้ามนุษย์ ซึ่งทางด้านหญิงไก่ ก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ พิมพ์ลายนิ้วทมือ และทำประวัติ ควบคุมตัวฝากขังที่เรือนจำกลาง และทนายความส่วนตัวก็ได้ออกมาบอกว่าได้ขอลาออกจากการเป็นทนายของหญิงไก่แล้วด้วย ซึ่งข่าวก็มีมาอีกว่า ผบช.ก.เผยว่าหญิงไก่จิตไม่ปรกติ และสั่งสอบ รตท.ประชาชื่นด้วย และก็จะได้หาทางเยียวยาแก่ผู้เคราะห์ร้ายต่อไปด้วย