แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เจ้าสร้อยมาลา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เจ้าสร้อยมาลา แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เจ้าสร้อยมาลา เปิดกรุสมบัติ มีคนตั้งข้อสงสัย

จากเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมพ. ศ. 2560  ได้มีเจ้าสร้อยมาลาอินทร์เอี่ยม ณ จำปาสัก อายุ 79 ปีเป็นหลานของเจ้าลาวองค์สุดท้าย เกี่ยวพันกับตระกูล ณ ลำปาง รุ่นที่ 6  ได้เปิดแถลงข่าวประกาศขายสมบัติตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพื่อนำเงินไปทำบุญให้แก่วัดและช่วยผู้ยากไร้ ในโอกาสครบรอบวันจุติขององค์พระพิฆเนศ และเพื่อเป็นการทำความดีถวายแผ่นดิน แนะนำสมบัติที่เก็บสะสมมานับร้อยชิ้น วันที่ 5 ธันวาคม พ. ศ. 2559  ก็เคยได้มีการนำเสนอการเปิดกรุสมบัติ ออกมาประมูลเพื่อหารายได้ทำบุญมาแล้วครั้งหนึ่ง และวันที่ 2 ธันวาคม พ. ศ. 2559  คุณบัณเรศ บัวคลี่ สมาชิกภาคีคนฮีกเจียงใหม่ ได้โพสต์ภาพข้อความผ่าน facebook ระบุ ว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อสายเจ้าจำปาสักนั้น ไม่รู้จักชื่อของเจ้าสร้อยมาลาเลย ซึ่งหากเป็นพระญาติกับเจ้ามหาชีวิตลาวฝ่ายหลวงพระบาง ก็ไม่เป็นความจริง หากอ้างเพื่อหวังผลประโยชน์บางประการนั้น ไม่ถูกต้องและการที่นำสินค้าขายเพื่อนำรายได้ทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล ข้อควรบอกกล่าวให้ชัดเจน และถ้าหวังจะอ้างไป เพื่อตัดใจได้บางส่วน ที่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อด้วยศรัทธา แล้วนำรายได้ส่วนใหญ่เข้ากระเป๋าตัวเอง ย่อมเป็นการหลอกลวง อ้างเอาสถาบันที่เคารพบูชา ทำมาหากิน

ทั้งนี้ เจ้าสร้อยมาลาอ้างตนว่าเป็นพระญาติ เป็นเจ้าลาว ไม่เคยถูกตรวจสอบจริง สื่อมวลชนเองก็พลอยเป็นกระบอกเสียงเพื่อการหลอกลวงไปเสียเอง สื่อต้องทำหน้าที่ตรวจสอบแทนประชาชน ไม่ให้ใครมาหลอกลวงด้วยข้อมูลที่กำกวม และทรัพย์สินที่นำมาขายทั้งหมดมาจากไหน หรือเป็นเพียงของเก่าทำเลียนแบบ เจ้าสร้อยมาลา ควรอธิบายให้ชัดเจนต่อสาธารณะชนเสียก่อน
เจ้าสร้อยมาลา กล่าวว่า ระดมทุนซื้อข้าวสาร  1,008 กระสอบ  ทำบุญถวายวัดและผู้ยากไร้ ตายก็ไปไม่ได้ ได้เปิดบ้านพักในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำทรัพย์สินที่เป็นเครื่องเงินที่ได้รับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษถึง 6 รุ่น ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของอดีตกษัตริย์ลาว แต่ละชิ้นอายุตั้งแต่ 100 ถึง 300 ปี ออกมาขายกว่า 300 ชิ้นแมีทั้งปิ่นโตเงินแกะสลักลวดลายผักกูด , เสี้ยนหมาก , อุบเงินที่ใช้สำหรับใส่เสื้อผ้าผู้หญิงในราชวงศ์ , กระติ๊บข้าวเหนียว และฯลฯอีก ลูกชิ้นประดับด้วยลวดลายช้างสามเศียรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ลาวในอดีต และกล่าวได้ว่าที่สำคัญก็คือ แต่ละชิ้นเป็นมาสเตอร์พีซฝีมือช่างลาวและมีชิ้นเดียวในโลก คิดเป็นราคาคำละ 400 บาท ยกตัวอย่างเช่น ปิ่นโตใส่อาหาร มีน้ำหนักท่าน 1,589  กรัม ราคากว่า 6 แสนบาท อุบเงิน ประมาณ 6 แสนบาท กระติ๊บข้าวเหนียว  100,000 บาท สลุงเงินบางชิ้น น้ำหนักกว่า 5,000 กรัม ราคากว่า 2 ล้านบาท เจ้าสร้อยมาลา กล่าวว่า ทนไม่ได้ร่ำรวยอะไร เพียงแต่มีทรัพย์สินที่ได้รับการตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ทางตายไปก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ จึงนำออกมาประมูลขาย นำรายได้ไปช่วยเหลือสังคม และทำบุญให้กับผู้ยากไร้และวัด ถือเป็นการทำความดีและเป็นบุญติดตัวไปเท่านั้น ในปีนี้ตนอายุครบ 79 ปี จะซื้อข้าวสาร 1,008 กระสอบ เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท เพื่อไปให้ผู้ยากไร้และวัด จะเปิดขายเครื่องเงินในวันที่ 24  กรกฎาคม ถึง  21  สิงหาคม พ. ศ. 2560 นี้

คนที่ชอบของเก่า แต่ละชิ้นก็มีราคาแพง ก็คงต้องหาผู้ชำนาญการ ไปตรวจสอบด้วยแน่นอน แต่ก็ต้องคอยดูกันต่อไป ว่าจะมีคนไปร่วมประมูลหรือไม่ เพราะทำบุญคนไทยชอบอยู่แล้ว แต่ไม่ชอบการถูกหลอกลวง แต่ยังไงก็ต้องมีการพิสูจน์ เพราะคนที่เล่นของเก่าก็เก่งพอสมควรขนาดพระเครื่อง ที่เก่าๆสึกๆ เขายังดูกันออกเลย ถ้าเป็นเครื่องเงิน ก็ต้องดูถึงการแกะสลัก และฝีมือเมื่อสมัยนั้น ว่าถึงยุคและโลหะเงินก็ต้องเก่าถึงยุค ส่วนเรื่องราคานั้นก็ต้องบอกว่าอยู่ที่ความชอบ เพราะได้เป็นทั้งเจ้าของของเก่า และได้ทำบุญด้วย คนไทยก็ต้องปลื้มเป็นธรรมดา
ถ้า อาหารเสริมผู้ชาย ทำแบบนี้ จะมีคนมาประมูลมั๊ยน้อ อยากลองบ้างจังเลย