แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เชื้อชาติ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เชื้อชาติ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

อดีตนายกสิงคโปร์ สิ้นแล้ว ลีกวนยู

                      การทีคนดีที่น่ายกย่อง ที่ต้องกล่าวถึงนั้น หลายคนที่ยังไม่รู้จักว่า อดีตท่านนายกของประเทศสิงคโปร์ นั้นมีความเป็นมาและยิ่งใหญ่ แค่ไหน ครั้งหนึ่งประเทศสิงคโปร์นั้น เคยเป็นรัฐๆหนึ่งของประเทศมาเลเซีย โดยเป็นการตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เมื่อครังที่สมัยล่าอาณานิคม โดยที่ก่อนนั้น เป็นรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ก็เป็นเกาะที่เรียกว่าไม่มีทรัพยากรอะไรเลย ท่าน ลีกวนยู (  Lee Kuan Yew ) นั้นเป็นคนเชื้อสายจีนแคะ บรรพบุรุษอพยพมากจากมณฑลฮกเกี้ยน จีแผ่นดินใหญ่ แต่เกิดที่ประเทศสิงคโปร์  เป็นผู้นำที่ปกครองประเทศมายาวนานถึง 30 ปี เกิดเมื่อ 16 กันยายน ค.ศ. 1923 ตอนนั้นสิงคโปร์ เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ศึกษาที่ Raffles College เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียง ใน บริติส มาลายาของสิงคโปร์ ได้รับการปลูกฝังในแนวตะวันตกมาตั้งแต่เด็ก ยังเป็นเพื่อนกับ ตนกู อับดุล รามาน ซึ่งเคยเป็นนายกมาเลเซีย ก่อนท่านมหาเธร์ โมฮัมหมัด และเมื่อสิงคโปร์ สามารถทึีจะเอาชนะอังกฤษและกองทัพญี่ปุ่น เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้แนวความคิดของท่านได คิดที่เปลี่ยนไป โดยมีแนวคิดที่จะต่อสู้เพื่อ อิสระภาพ เขาได้เรียนต่อกฎหมายที่ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่ประเทศอังกฤษ ได้พบกับ ควากอกซู และก็แต่งงานกันในเวลาต่อมา เมื่อชาวมาลายัน ไม่พอใจการปกครองอังกฤษ ลีกวนยู จึงเข้าร่วมต่อสู้กับ มาเลเซีย ฟอรั่ม เพื่อต้องการที่จะเป็นอิสระจากประเทศอังกฤษ เมื่อปี คศ. 1995 เขาได้ลงเล่นการเมือง โดยการตั้งพรรค People’s Action Party (PAP) และก็ประสบความสำร็จ และอีก 4 ปี ต่อมาเขาก็ได้รับการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด 43 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 53 ตำแหน่ง และได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ เมื่ออายุเพียงแค่ 36 ปี เท่านั้นเอง แล้วมาเลเซียก็ได้รับอิสระจากอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1961 ลีกวนยู จีงปรึกษากับ ตนกู อัลตุล รามาน เพื่อนที่เรียนามาด้วยกัน โดยแนวความคิดนั้น็เพื่อที่จะรวม สิงคโปร์ เป็นประเทศเดียวกันกับมาเลเซีย เพราะคิกว่าสิงคโปร์นั้น ไม่มีทรัพยากรใดๆ พอที่จะเป็นที่พึ่งพาต่อกันได้ แต่ชาวมาเลเซียนั้น ไม่เห็นด้วย จีงได้ทำการต่อต้าน เพราะมีการเหยียดชยชั้น ทำให้เกิดการจราจล ตรั้งใหญ่ แล้ว ลีกวนยู ก็ตัดสินใจ นำประเทศสิงคโปร์ แยกออกมาจากประเทศมาเลเซีย และประกาศอิสระภาพ ไม่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษอีก ตั้งแต่วันที่ 59 สิงหาคม ค.ศ. 1965 นายลี กวนยู มีบุตร 3 คน 1. ลี เซียน ลุง ปัจจุบันเป็นนายหกรัฐมนตรีของสิงคโปร์  2. นายลี เซียน ยัง ปัจจุบัน ประธานสำนักงานการบินพลเรือนสิงคโปร์ 3. เป็นผู้หญิง ชื่อ ลี เว่ย หลิง ผู้บริหารสถาบันประสาทวิทยาแห่งชาติ ส่วนภรรยาเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 63 ปี นายลีกวยกวนยู เสียชีวิต ด้วยโรคปอดบวม ด้วยวัย 91 ปี
                                                                       
                      ด้านนายลี กวนยู นั้นหลังจากที่ ได้แยกออกมาจากประเทศมาเลเซียแล้วนั้น   ก็ต้องเป็ฯความคิดที่ว่า ต้องกล้าเปลี่ยน เพราะว่าเกาะสิงคโปร์ นั้นเล็กยิ่งกว่าเกาะภูเก็ต ของไทยเสียอีก และทรัพยากรทางธรรมชาตินั้น ก็ไม่มีอะไร มากมาย ความคิดที่ต้องกล้าเปลี่ยน ก็ต้องเป็นการเปลี่ยนแนวความคิดที่จะนำพาประเทศ ให้อยู่ได้ต่อไป ด้วยการคิดที่จะพัฒนาบุคลากร โดยเริ่มทำให้ประชากรนั้น มีวินัยก่อน จึงจะพัฒนาต่อไปได้ และเห้นความขัดแย้งของการแบ่งชนชั้น ของมาเลเซ๊ย ลีกวนยู จึงต้องไม่ว่าเชื้อชาติไหน ที่มาอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ต้องไม่มีความขัดแย้งกัน โดยการเน้นให้ประชาชนและคนรุ่นใหม่นั้น มีการศึกษาเสียก่อน และก็ได้พัฒนาประเทศใหเป็นเมืองท่า ในด้านการขนส่ง ซึ่งประเด็นนี้ก็น่าจะมีส่วนในการที่จะไม่ให้เกิดเมืองท่า ที่ประเทศไทย และให้ประเทศสิงคโปร์นั้นเป็นศุนย์กลางคมนาคมและการขนส่ง ( การเป็นพ่อค้าคนกลาง) ในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการส่งน้ำมัน การติดตอค้าขายขอเป็นตัวแทนน้ำมันกับกลุ่มประเทศโอเปก ซึ่งก็เป็นความสำเร็จที่ส่งผลให้ประเทศนั้น อยู่ชั้นแนวหน้าในเอเชีย ที่เรียกได้ว่าเสือเศรษฐกิจ ที่ไม่เป็นรองใครในเอเชีย ซึ่งนายลีกวนยูนั้น ก็ได้กำจัดที่เรียกว่า การคอรัปชั้น ด้วยซึ่งได้กล่าวว่า  ประเทศจะพัฒนาต้องมีการศึกษาที่ดี บุคลากรที่ดี และต้องไม่มีการคอรัปชั่น ด้วยแผนการที่พัฒนาและเต็มไปด้วยไฟแห่งการทำงานนี้ ก็เป็ฯความสำเร็จ ที่ประเทศสิงคโปร์นั้น คนจนนั้น เรียกว่ามีน้อย เพราะคนส่วนมากนั้นก็เน้นที่จะทำงานจนไม่มีเวลาที่จะหาคู่ และแต่งงาน จนปัจจุบัน รัฐบาลก็สนับสนุนให้คนนั้น แต่งงานกันมากขึ้น โดยรัฐนั้นก็จะช่วยในเรื่องของการสวัาดิการบุตร
แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะว่าถ้าต่อไป ประชากรไม่มีเพิ่ม และก็จะมีแต่ผู้สูงอายุจะพัฒนาลำบาก และด้วยที่เป็นประเทศเล็ก เนื้อที่จำกัด ราคาของที่ดินนั้น ก็แพงอย่างมาก ดังนั้นการที่คนของประเทศสิงคโปร์ จะอยากมีรถยนต์สักคันนั้น ก็จะค้องซื้อที่จอดรถให้ได้เสียก่อน ซึ่งราคา เมื่อไม่นานมานี้ ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 1x,xxx,xxx สิบกว่าล้านบาทเลยทีเดียว การจราจรที่สิงคโปร์นั้น ซึ่งก็ถือว่ารถติด แต่เป็นไปอย่างมีระเบียบ การขนส่งนั้น ก็มีทั้งรถไฟฟฟ้า และรถแท๊กซี่ แต่ด้วนที่เป็นประเทศแห่งการค้าขาย และมีพื้นที่เล็ก จึงมีห้างเปิดติดๆกัน คือแทบที่จะไม่ต้องขึ้นรถเลยก็ว่าได้ เพราะลงห้างนึง ก็สามารถที่จะเดินเข้าไปช็อป อีกห้างและอีกห้างได้เลย ส่วนการเรียกรถแท๊กซี่ก็จะเป็นการยืนเข้าแถว ซึ่งก็เมหือนธรรมเนียมไปแล้ว และรถก็ไม่มีการปฏิเสธ ผู้โดยสารเลย ขึ้นแล้วก็ออกไปเลย มีวินัยสูงมาก การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้น ประเทศสิงคโปร์ถือว่าผิดกฎหมายด้วย
                                                                           
                      การที่จะพัฒนาประเทศนั้น สิ่งที่มาก่อนก็คงต้องเป็นเรื่องของการมีวินัย และการอดทนเป็นอย่างมาก และผู้นำประเทศนั้นต้องมีวิสัยทัศน์ และกล้าที่จะเปลี่ยน ประเทศสิงดโปร์นั้น ไมมีการประเท้วงนั้น หลายคนก็คงคิดว่าทำได้งัย ก็เพราะว่า การที่เขานั้นวางฐานการเมืองที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นฝ่ายค้านนั้น เพียง 2 คนเท่านั้น ด็แสดงให้เห็นว่า จะทำอะไร ฝ่ายค้านก็ไม่มีบทบาทอยู่แล้ว  แต่ในทางที่กลับกัน ถ้าไม่มีการคอรัปชั่่นแล้ว การทำอะไรที่โปร่งใส ด้วยแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่คนจะออกมาประท้วง กันอย่างแน่นอน และการใช้กฎหมายก็เป็นการใช้ที่เคร่งครัดเป็นอย่างมาก อย่างเมื่อก่อนนั้น มีนักฟุตบอลขอลประเทศบราซิล ที่นำยาเสพติดเข้ามา เกินที่จะมาเสพที่สิงถโปร์ ศาลก็ลงโทษด้วยการประหารชีวิตทันที และเมื่อก่อนนั้นที่นักเรียนไทยโดนรถไฟ ทับจนต้องสูญเสียขาไปนั้น ฟ้องศาลไม่ได้ เพราะเขาถือว่าระบบเขาได้วางไว้เป้นอย่างดีแล้ว เราไม่ประมาทเอง การที่สิงคโปร์ ประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ แต่ให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่ากันหมด เป็นการลดความขัดแย้งได้เป็นอย่างมาประชากรสิงคโปร์ มีไม่มากแต่เต็มไปด้วยคุณภาพ อาหารการกินนั้น ก็คงต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นส่วนมาก แต่อาหารที่ขึ้นชื่อที่คนไทยเรารู้จักกันดีก็เป็นข้าวมันไก่ นั่นเอง ส่วนเรื่องของ อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะว่าประเทศสิงคโปร์ก็เป็นที่นิยมการทานอาหารเสริมด้วยเช่นกัน เพราะคนสิงคโปร์ นั้นใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงาน และการศึกษาเป็นส่วนมากนั่นเอง การพัฒนาที่มีมาอย่างต่อเนื่องและถูกแนวทางนั้น ก็จะทำให้ประเทศมีแต่ความสุข ประชาชนเมื่อมีกิน มีใช้แล้ว ความขัดแย้งก็จะไม่เกิด พัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวไปพัฒนาจิตใจให้เป็นคนดี ด้วยความมีวินัย ปละคุณภาพประชากรที่ต้องมาก่อน ความรักสามัตตี จะเกิดเอง และผู้นำทั่วโลกต่างก็สารนณ์ ไปแสดงความเสียใจในการจากไปของผู้นำที่เป็นนักต่อสู้ และทำให้ประเทศสิงคโปร์เจริญได้มากมาย และด้วยการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่และตลอดกาล