แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การศึกษา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การศึกษา แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

นายก ใช้ ม.๔๔ เรียนฟรี 15 ปี

             ใครใคร่ไม่รู้ก็น้อยมาก ว่าวันนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปรกติ แต่ว่าเมื่อวันนี้ สิ่งที่ดีก็เกิดขึ้นกับ การศึกษาไทยอีกแล้ว เมื่อท่านนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศ ใช้มาตรา 44 กำหนดให้เด็กไทยได้เรียนฟรี 15 ปี โดยมีมติดังนี้ ด้วยการศึกษาแห่งชาติกำหนดให้รัฐต้องจัดให้ บุคคลได้รับการศึกษาขั้นพิ้นฐานไม่น้อยกว่า ๑๒ ปี รัฐบาลยุค คสช ท่านก็ได้ประกาศว่า ให้มีนโยบาบไม่เก็บค่าใช้จ่่ายเป็นเวลา ๑๕ ปี โดยใช้ ม.๔๔ โดยมีกฏหมายเก่า ที่บรรจุเอาไว้ ต้องให้เรียน ฟรี ๑๒ ปี มายุคนี้ ได้ปรับปรุง ให้เรียนฟรี ๑๕ ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และรัฐบาลเห็นว่าเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสทางการศึกษา แก้ปัญหาความยากจน และเป็นการส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ และเพื่อเป็ฯหลักประกันควมยั่งยืนมั่นคง เนื้อหาก็มีดังนี้
          อาศัยอำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งต่อไปนี้ ข้อที่1. ในคำสั่งนี้ ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา หมายถึง งบประมาณที่รัฐจัดสรรให้ แก่หรือผ่านทางการศึกษา หรือผู้จัดการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ ปี คือการศึกษาก่อนการปฐมศึกษา (ไม่รวมเตรียมอนุบาล ) 1. ระดับอนุบาล ถ้าพื้นที่นั้นมี 2. ระดับประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือเทียบเท่าประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปวช 3 รวมไปถึงการศึกษาสงเคราะห์ หมายถึงการจัดการศึกษาให้เด็กที่อยู่ในภาวะยากลำบาก ยากจน และด้อยกว่าเด็กทั่วไป มีลักษณะเป็นการกุศล เพื่อให้มีชึวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีพัฒนาการที่ถูกต้องเหมาะสมกับวัย และให้ส่วนราชการทีเกี่ยวข้อง กำหนดให้มีการกำหนดเตรียมการเพื่อจัดการให้เด็กเล็กก่อนวัยเรียนได้รับการดูแลและพัฒนาทางร่างกาย และจิตใจ วินัย ( คนไทยมีน้อยมากๆ ) อารมณ์ สังคม รวมทั้งสติปัญญา โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งภาคเอกชนเข้ามามีส่นร่วมกันดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ยังได้ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ ปี ให้มีมาตรฐานเน้นคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ๑๕ ปี เพื่อเสนอตามกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี  1. ค่าจัดการเรียนการสอน 2. ค่าหนังสือเรียน 3. ค่าอุปกรณ์การเรียน 4. ค่าเครื่องแบบนักเรียน 5. ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพการเรียน 6.ค่าใช้จ่ายอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ สั่ง ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. 2559 ลงชื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ยังไใ่เข้าใจกคือการศึกษาที่กำหนดไว้ในกหมายก็คือ การศึกษาพื้นฐาน 12 ปี แต่ที่เพิ่มเข้ามาตอนนี้ เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ตอนนี้ก็มีการเพิ่ม คือ ค่าเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน ค่าอาหาร และในคำสั่งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันว่านโยบายนี้ จะมีใช้ต่อไปไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญ ผ่านหรือไม่ จึงทำเป็นคำสั่งออกมา
             แต่ในความเป็นจริงนั้น อีกหลายข้อที่โลกข้างนอกก็มีการเเข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนกวดวิชา ที่มีอยู่มากมายทำไม ก็เนื่องด้วยหลายปัจจัย เช่น อยากที่จะเก่งมากขึ้นไปอีก อยากที่จะมีการพัฒนาวิชานั้นๆ ให้แตกฉาน และอาจารย์ที่สอน ไม่ได้สอนอย่างเต็มที่และให้เรียนพิเศษ หรือเรียนเพิ่มเอา และการเป็นอยู่ที่ส่วนมากก็จะต้องทำมาหากิน ที่จะต้องช่วยครอบครัว ซึ่งก็มีไม่น้อยที่การศึกษานั้น จะเรียนน้อย แม้จะมีกฏหมายบังคับก็ตามที เพราะถึงจะไม่มีค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ แต่ก็ยังมีค่าเดินทาง ค่าอาหารที่เวลาอยู่บ้านและบางโรงเรียนก็ยังเรียกเก็บค่าบำรุงโรงเรียน และคนที่มีเงินก็มักจะส่งลูกหลานเข้าไปเรียนโรงเรียนเอกชน มากกว่าก็เป็นการยอมที่จะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่านั่นเอง โดยจะยอมทั้ง การกวดวิชา การเดินทาง และการเรียนพิเศษ เพราะสังเกตุดูจริงแล้ว การศึกษา ใรเมืองใหญ่นั้น ก็จะได้เปรียบเป็นอย่างมาก ยิ่งเมืองใหญ่ก็ยิ่งหาอะไรได้ง่ายไม่ว่าจะอุปกาณ์เสริมการเรียน โรงเรียนกวดวิชา ห้องสมุด แม้ทุกวันนี้จะมีอินเตอร์เน็ตแล้วก็ตามที แล้วยิ่งอยู่ห่างไกลก็ยิ่งจะลำบาก เพราะไใ่ว่าจะการเดินทาง และการประกอบอาชีพที่จะช่วยครอบครัว การศึกษาจึงไม่สามารถที่จะเรียนได้อย่างเต็มที่ อย่างมาก็จะเป็นการอ่านออกเขียนได้ เท่านั้นเอง ดังนั้น การจะบังคับหรือนโยบายนั้น ก็จะต้องลงไปศึกษาให้ถึงจุดที่เป็นจริง แล้วครูที่จะไปประจำการนั้น ก็เป็นครูที่จะต้องเสียสละจริงๆ เพราะเขตพื้นที่ห่างไกล ก็คงไม่อยากมีใครป็นไม่วาจะ 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ครูนั้น นับวันก็ยิ่งจะขาดแคลนเพราะมีเหตุ ยิงครู แทบทุกวัน ทั้งที่รัฐก็เสนอผลประโยชน์มากมายก็ตามที ส่วนประเทศเวียดนามนั้น คะแนนในการสอบเข้าระดับมหาลัยนั้น ก็ให้คะแนนครูเป็นคะแนนสูงสุด เพราะเขาคิดว่า คนที่เก่งเท่านั้นถึงจะสอนคนให้เก่งได้ ประเทศไทยแม้ว่าจะมีการพัฒนาไปมากแต่การศึกษานั้น ยังด้อยกว่าประเทศข้างเคีงของเรามาก และยังถือว่าเด็กนั้นยังอ่านหนังสือน้อยอีกด้วย โดยเฉลี่ยอ่านเพียงปีละ 8 บรรทัดเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าน้อยมากๆ คิดเห็นโดย อาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นการเสนอเพื่อที่จะพัฒนาบนพื้นฐานของความจริง เพราทุกวันนี้ นักเรียนตีกัน ทำร้ายกัน บาดเจ็บ ล้มตาย มีให้เห็นแทบทุกวัน เพราะเพียงต่างสภาบันฯ ไม่มีการทะเลาะ ไม่มีการบาดหมาง ไม่ได้โกรธแค้น แล้วก็มารบราฆ่าฟันกัน ลองถามดูว่าเพราะอะไร น่าแปลกแต่จริง

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

                เมื่ออาเซียนจะรวมตัวกัน เป็นประชาคมอาเซียน หรือที่เรียกย่อว่า AEC เป็นแนวความคิดที่คิดว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดของอาเซียน ในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีการรวมตัวกันของประเทศสมาชิก วม 10 ประเทศ ดังนี้ ไทย , ลาว , พม่า , มาเลเซีย , เวียดนาม , อินโดนีเซีย , สิงคโปร , ฟิลิปปินส์ , บรูไน และกัมพูชาซึ่งจุดประสงค์ ก็เพื่อที่จะมีอำนาจต่อรองกับประเทศคู่ค้า เป้าหมาย เพื่อส่งเสริมให้เอเชีย มีความเจริญ มั่งคั่ง ประชาชนส่วนมากก็อยู่ดีกินดี และยกเว้น ภาษี สำหรับสินค้าบางชนิด และอนาคตก็จะมีการรวม จีน , เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ด้วย แต่การรวมตัว เรียกกันเต็มๆว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community – AEC) จะมีการเริ่มอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ การรวมตัวครั้งนี้ ก็เป็นการส่งเสริมนโยบายภาษี ( ยกเว้นสินค้าเพียงบางประเภท )  , ทรัพย์สินทางปัญญา( แต่บางประเทศ ก็ยังมีการละเมิดลิขลิทธฺ์สินค้าอยู่ )  , พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีการแบ่งงานและความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจนดังนี้ 1. ไทย สาขาการท่องเที่ยวและสาขาการบิน 2. สิงคโปร์ สาขาเทคโนโลยีการสนเทศ และสาขาสุขถาพ 3. เวียดนาม สาขาโลจิสติกส์ 4. อินโดนีเซีย สาขายานยนต์ และสาขาผลิตภัณฑ์ไม้ 5. พม่า สาขาผลิตภัณฑ์เกษตร และสาขาประมง 6. ฟิลิปปินส์ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ 7. มาเลเซีย สาขาผลิตภัณฑ์ยางและสิ่งทอ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ก็คือ 1. การขยายการส่งออกจากการยกเลิกภาษี บางรายการ 2. การส่งออกสามารถขยายตัว ไม่ต่ำกว่า 20 ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี 3. มีการค้าที่เข้มแข็งขึ้น 4. มีการลงทุน เพราะอุปสรรคการลงทุนระหว่างประเทศลดลง 5. ลดต้นทุนการผลิต ทั้งทางวัตถดิบ และด้านแรงงาน 6. เพิ่มอำนาจการต่อรองบนเวทีการค้าโลก 7. ยกระดับการเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งการศึกษาด้วย ผลกระทบ ที่ทางประเทศไทยเตรียมไว้ก็มีดังนี้ 1. ตั้งกองทุนเพื่อการปรับตัว เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิต และผู้ประกอบการด้านสินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม และบริการ ให้ปรับเปลี่ยนสามารถร่วมแข่งขันได้ 2. ป้องกันการนำเข้าที่มากขึ้น 3. เตรียมจัดการดำเนินการผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็มีมากมาย ประเทศที่น่จับตาก็จะเป็น ประเทศสิงดโปร์ เพราะว่าเป็นประเทศที่เหมาะกับการเป็นเมืองท่า และพลเมืองนั้นก็พูดภาษาอังกฤษ ได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นหลายๆ ประเทศต่างก็มีการตื่นตัวเรื่องการเรียนรู้ ภาษากันมากขึ้นเป็นอันมาก ไม่ว่าจะเป็นปะรเทศพม่า และเวียดนาม รวมถึงประเทศไทยเองก็มีการกระตุ้น เรื่องการเรียนภาษาและมีการแลกเปลี่ยนครู มาสอนภาษาของแต่ละประเทศด้วย เช่น คนไทยก็มีการไปเรียนภาษา พม่าด้วย พม่าและเวียดนามก็มีการเรียนถาษาไทยบ้าง แต่ภาษาที่เป็นกลางและสากลก็น่าที่จะเป็น ภาษาอังกฤษ ซึ่งแต่ละประทเศต่างก็ให้ความสำคัญ แต่ประเทศที่ได้เปรียบมากสุดก็น่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ เพราะมีการพูดเรียน ถาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางกันอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละประเทศต่างก็มีดีอยู่แตกต่างกันไป สิ่งหนึ่งที่หวังก็ไม่ว่าจะเป็นการได้ใช้วัตถุดิบ อย่างชาญฉลาด

              ตอนนี้ ทุกประเทศที่เข้าร่วม ต่างก็มีการวางแปลนไว้ ทั้งสำหรับปัญหาที่จะเกิดและนโยบายที่จะดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นเอง ดังเช่นประเทศไทยเองก็กำลังที่จะขยายถาษาให้คนไทยนั้นได้เรียนรู้ภาษาอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย ออกไปสู่อาจจะทุกพื้นที่ของประเทศ คือการเรียนรู้แบบจริงจัง และนำไปใช้ได้จริง เพื่อว่าจะเป็นการรองรับ นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในอนาคตนั้นเอง โดยประเทศส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีการตื่นตัวเรื่องการศัช฿กษากันเท่าไหร่นัก เว้นแต่ประเทศที่พัฒนาไปและก็จะเน้นเรื่องของการเข้าถึง ICT หรือ อินเตอร์เนตความเร็วสูง โดยรัฐจัดการให้ทุกโรงเรียน แต่ประเทศอื่นเขาทำกันล่วงหน้าไทยไปปี สองปีแล้ว แต่น้อยใจประเทศไทยที่เด็ก ป ๑ เพิ่งจะได้ใช้แค่ Tablet กับเด็กเพียงบางกลุ่มเม่านั้น รวมทั้งต้องปรับหลักสูตรการศึกษาเพื่อเป็นแบบเรียนที่เป็นมาตรฐานไปทั่วประเทศโดยเท่าเทียมกัน ครูก็ต้องไม่หมกเม็ด ในการเรียนการสอน ไม่ต้องคอยที่จะให้แต่การบ้าน
และคอยที่จะสอนพิเศษ และเมื่อพูดถึงประเทศลาว แม้จะมีประชากรที่น้อยกว่าประเทศไทยมาก เขาก็สามารถที่จะจัดการเสร็จไปกอ่นประเทศไทยร่วมปี ตอนนี้ อินเตอร์เนต เขาก็ใช้ระบบ 4 G ไปแล้ว ส่วนประเทศไทย 3 G ก็ยังไม่สมบูรณ์เลย  ในภาพรวมเป็นว่าประเทศไทยนั้นยังไม่ตื่นตัวพอ และในด้านอาหารที่ประเทศไทยนั้นก็ต้องเร่งที่จะต้องทำความเข้าใจกับอาหารฮาลาล ที่มีผู้นับถือ ศาสนาอิสลามต้องรับประทานให้ เข้าถึง ว่าอาหารประเภทใด มีกฏข้อห้ามอย่างไร และสามารถทำได้หรือไม่ ราคาเหมาะสมเพียงไร อาหาร ฮาลาล หมายถึง อาหารที่ผ่านกรรมวิธีถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลามที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน ยังรวมไปถึงผู้ผลิตยังต้องเแ็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามด้วย ถ้าผผ่านการตรวจสอบก็จะได้รับ การตราเครื่องหมาย ฮาลาลจากหน่วยงานของรัฐในแต่ละประเทศด้วย ซึ่งประเทศในเอเซีย นับถือศาสนาอิสลาม มากกว่า 400 ล้านคน ประเทศไทยก็ถือว่าเป็นประเทศที่ผลิตอาหารฮาลาลมากประเทศหนึ่ง แต่ภายในประเทศเองกลับหาทานได้น้อยมากอีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ข้อตกลงเรื่องคุณสมบัติมาตรฐานในแต่ละวิชาชีพ ที่ว่าด้วย จบปริญญาตรี มีประสบการทำงานไม่ต่ำกว่า 7 ปี สามารถโยกย้ายการทำงานในอาเซียน ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเทศไทยนั้นก็มีผู้ที่มีความสามารถอยู่มาก ส่วนประเทศที่มีพัฒนาไปมากกว่าไทย ก็มีเงินอยู่มากและก็อาจที่จะจัดจ้างผู้ที่มากดวยคุณสมบัตินี้ ให้ไปทำงานยังปะรเทศของตนโดยที่ให้ค่าตอบแทน แรวมไปถึงสวสดิการที่สูงกว่า จุดนี้ก็มีส่วนที่ระดับหัวกะทิของประเทศไทยนั้นก็อาจที่จะออกไปอยู่ยังต่างประเทศมากขึ้น หรือที่รียกว่า สมองไหล นั่นเอง เป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณถาพออกไปนั่นเอง การจัดการที่ต้องเร่งแก้

              ด้วยการรวมตัวที่กำลังจะมาถึง แต่ตอนนี้ที่ยังไม่ถึง แต่ด้วยการสื่อสารที่ทันสมัย วันี้ก็มีการขายไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมลดน้ำหนัก พืชผลทางการเกษตร ก็มีบ้างแล้ว ประเทศไทยนั้นก็ขาดด้านแรงงาน เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เห็นเมื่อครั้งรัฐได้ประกาศจัดระเบียบแรงงาน ต่างด้าวนั้น ก็ทำให้กระทบ ต่อธุรกิจ SME ขนาดเล็กไปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านที่ติดกับชายแดน แถว แม่สอด แถวติดทะเล ชุมพร และหลายๆที่นั้น ก็ทำให้ขาดคนทำงานไป หยุดไปหลายอาทิตย์ ส่วนคนไทยเองนั้น ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยสาเหตุที่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ก็มีผลให้คนไทยนั้นเลือกงานมากขึ้น แต่ด้วยที่งานที่ใช้แรงงานนั้น โดยส่วนมากก็ยังเป็นงานที่ไม่ได้เน้นคุณภาพมากมายนัก ก็เลยทำให้ธุรกิจ ปหลายประเภท ต้องพึ่งแรงงงานต่างด้าวอย่างมาก ด้วยที่แรงงานต่างด้าว ต่างก็เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน ทำให้หลายครั้งที่ปัญหาอาซญากรรม ต่างๆเกิดขึ้นมาแล้วก็จับตัวคนร้ายไม่ได้ จึงต้องทำให้มีการจัดระเบียนแรงงานต่างด้าวด้วย นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งนั่นเอง ปัญหา ก็มีมาอีกอย่างที่ว่าหลายครั้งที่แรงงานต่างด้าว ถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ บางครั้งเอาไปออกเรือหาปลาเป็นปี ไม่ได้ค่าแรงก็มีมาก และหลายครั้งที่ มีการทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท ปัญหาอื่นอีกมากที่จะตามมา แต่ด้วยการที่ไม่รู้ว่ามครเป็นใคร นี่เองที่ทำให้หลายประเทศ ต้องคิดแก้ไว้ก่อน แล้วก็จะขอแนะนำนักธุรกิจ ทั้งหลายที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศต่างๆนั้น ก่อนอื่นก็ควรที่จะศึกษา ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมประเทศนั้นไว้ให้ดีด้วย เพราะว่าการที่จะทำอะไรนั้น บางทีบางครั้งก็เป็ฯประเทศที่มีกฎหมาย ปและบทลงโทษที่รุนแรง และอาจจะไม่ได้กลับเข้าไปยังประเทศนั้นอีกเลย หากเรานั้นไปทำผิดกฎหมายหรือ ระเบียบการของประเทศนั้น ตอนนี้เศรษฐกิจการค้ารถมือสอง ของไทยก็ประสบปัญหา อย่างมากแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ว่าเมื่อมีการเปิด AEC แล้วก็จะสามารถที่จะนำรถมือสองจากประเทศไทย ส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านได้ ด้วยการลงทุนที่มีข้อจำกัดน้อยลงนั่นเอง มีหลายจุดที่ประเทศไทยนั้นพอที่จะทำได้ที่เห็นอยู่อีกหนึ่งโครงการที่ทำไม่สำเร็จมาเป็น กว่าเกือบ 60 ปี นั้นก็คือ การขุดคอคอดกะ ซึ่งเป็นการทำท่าเรือน้ำลึกที่คาดว่าเป็นโครงการดีๆ แต่ไม่มีการทำให้สำเร็จ ยังเป็นโครงการในฝันที่จะสร้างเขตปลอดภาษี และเป็นท่าเรือที่ล่นระยะทางการเดินเรือและการขนส่งได้มากที่สุดทางหนึ่งด้วย ถ้าทำได้ ประเทศไทยก็จะเป็นการระบายสินค้า และส่งเสริมการส่งออกได้ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดครงการนี้เป็นโครงการระดับประเทศ ประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากสุกก็น่าจะเป็นประเทศสงิคโปร์ และมาเลเซีย ด้วยเพราะเหตุนี้หรือไม่ ที่โครงการนี้เกี่ยวข้องไปถึงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย ไม่ว่าจะมีหรือไม่ก็ตามที ตอนนี้ปัญหาประเทศภายในก็วุ่นวายพอมากแล้ว ก็เพียงคนไทย มีวินัยและระเบียบมากอย่างประเทศญี่ปุ่น เราก็จะได้มีแต่รอยยิ้ม ที่จะสามารถไปไหนมาไหน อย่างปลอดภัย ไม่กลัวโจรอีกต่อไป และจะมีรอยยิ้ม ที่ออกมาจากข้างใน ที่เรียกว่า สยามเมืองยิ้ม อย่างเต็มภาคภูมิ