จำคุกสนธิ เอกสารเท็จ กู้เงิน พันล้าน

 เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมาก็เป็นคดีที่ ยืดเยื้อมานาน หลายปี กับคดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เจ้าอขงสโลแกน ยามเฝ้าแผ่นดิน ขับไล่ระบอบทักษิน ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งตอนนั้นก็มีหลายคนที่ให้การสนับสนุน ทั้งนักการเมือง และนักแสดงมากมาย โดยศาลฎีกา ก็มีคำตัดสิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็ฯเวลา 20 ปี ในข้อหาใช้เอกสารเท็จในการกู้เงินธนาคารกรุงไทย เป็นเงินกว่า  พันล้านบาท พร้อมพวกคือ นางสาวเยวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัท เมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด และนางสาวยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บริษัทเมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด เป็นจำเลย ในฐานกระทำผิด พระราชบัญญัติ ตลาดหลักหลักทรัพย์ พ.ศ.2535   โดยศาลฎีกา พิพากษายืนให้จำคุกนายสนธิ เป็นเวลา 20 ปี ส่วนนาย สุรเดช มุขยางกูร อดีตกรรมการ จำเลยที่ 2
ศาลได้พิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน ถือว่าดคีสิ้นสุดแล้ว เนื่องจากจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาต่อสู้คดี ซึ่งตามสำนวนประชุมเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่นำไปค้ำประกันการกู้ยืมเงิน 6 ครั้ง ในวลาที่แตกต่างกัน เป็นเวลา 1 ปี และมีจำนวนแต่ละครั้งไม่เท่ากัน
ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
          อธิบายได้แบบชาวบ้านง่ายๆ ก็คือการเอาเอกสารเดิมไปกู้เงินหลายครั้ง นั่นเอง ซึ่งเมื่อก่อนนั้น คุณสนธิ เป็นเพื่อนสนิทกับคุณทักษิน อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็อาจจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง ที่ทำให้นายสนธิ ออกมาขับไล่ นายทักษิน และทำให้เกิดรัฐประหาร จนทำให้นายทักษิณ โดยพลเอก สนธิ บญยรัตกลิน ซึ่งเมื่อก่อนนั้น ก็ได้มีการยึดอำนาจ ซึ่งภายหลังก็ได้ออกมากล่าวว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ ที่ไม่อาจเปิดเผยได้แม้ว่าตัวจะตายก็ตามที ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นปุจฉา กันอยู่ แต่ทั้งนี้ไม่นานก็มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ และการปฏิวัติครั้งที่ผ่านมาโดย ที่เรียกว่า เสียของ ซึ่งครั้งนี้ก็การปฎิวัติใหม่ และมีการทำอะไร ต่อมิอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อที่รุกที่สาธารณะ ที่หลวง และการทวงคืนผืนป่า แต่เมื่อเช้าก็มีข่าวออกมาว่านายสนธิ เครียดหลังจากที่ได้นอนคุกคืน แรกทำให้เส้นเลือดสมองแตก ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ ก็ได้ออกมากล่าวว่าไม่เป็นความจริง และนายสนธิ ปัจจุบันก็มีอายุ 69  ปีแล้ว และตอนนี้ก็เป็นบุคคลล้มละลายไป  
          การเมืองประเทศไทย คงไม่มียุคที่ว่าจะไร้การปฏิวัติอย่างแน่นอน เพราะว่าทั่วโลกรู้ดี เพราะด้วยหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นตัวนักการเมืองเอง และผด้วยการเป้นอำนาจของเงิน ที่มีมากกว่า รวมไปถึงผู้ที่ถืออำนาจในมือ ส่วนมากก็จะเป็นการทำรัฐประหาร จากผู้ที่มีอำนาจในมือ โดยจะมีกองกำลังที่มากกว่า และก็ก็เป็นต้นแบบของการปฏิวัติ ที่ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ และการสูญเสียแต่ประการใด แต่ก็จะทำให้ประเทศเกิดความไม่มั่นคง และไม่มีการพัฒนา เพราะงบประเทศก็จะเสียไปกับการรัฐประหาร และก็การเลือกตั้ง ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศและเปลี่ยนระบอบมาเป็นปัญหา ของนักการเมืองที่แก้ไม่ตกจริงๆ เพราะถ้านับดูแล้วปัญหามีอยู่จริงอย่างแน่นอน เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นการคอรัปชั่น ระดับสูงก็จะมีทั้งเงินและอำนาจ ในความจริงแล้ว ชีวิตก็ฒีค่ากันทุกคนไม่ว่ายากดีมีตน แต่กับให้ความสำคัญกับคนมีมากกว่า ทั้งที่คนมีส่วนมาก ก็มาจากการเอารัดเอาเปรียบคนจน คงไม่มีวันที่จะหมดไปเพราะตราบใดที่ประเทศยังเป็นแบบนี้ อาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นความเห็นที่หวังให้ประเทศสงบ และได้คนดีมาบริหารประเทศ

คืนหมาหอน ก่อนลงประชามติ

          วันนี้ท่านจะเห็นความสงบ ไม่ว่าจะบนท้องถนน และร้านอาหารที่เคยเปิดเพลง เสียงดัง แถมยังแสงไฟ วูบวาบนั้น และรถที่วิ่งอยู่บนถนนก็โล่ง รถวิ่งสบาย ซึ่งก็เปรียบเหมือนการเลือกตั้ง คือเป็นคืนหมาหอน ไม่มีการดื่ม ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ของมึนเมา ร้านเหล้า แหล่งสถานบันเทิง ส่วนมากก็เลยต้องปิด หยุดพัก ๑ วัน เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมที่จะไปลงประชามติพรุ่งนี้ ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 16.00 น. เพราะเดี๋ยวจะมีข้ออ้าง ว่าเมาไปไม่ไหว หรือไม่ก็เมา กาผิด ฉีกบัตร อะไรประมาณนี้ ดูแล้วไม่ยุติธรรมเลย ซึ่งวันนี้ก็เลย อยากให้พี่ น้องไปลงประชามติ ในวันพรุ่งนี้ด้วยสติสัมปชัญญะ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยควมรับผิดชอบ ที่มีต่อประเทศ แต่ที่จังหวัดทางภาคใต้กลับมีการวางกับระเบิด ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการคุ้มกันหีบลงประชามติกันแบบ ทั้งกำลังทหาร ตำรวจ เข้มข้น เพราะเกรงด้วยว่า ถ้ามีการก่อกวนแล้ว ก็จะทำให้ผู้คนกลัวไม่กล้าออกมาลงประชามตินั่นเอง ซึ่งเมื่อกล่าวถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คนไทยแทบทุกคนก็รู้ได้เลยว่า เป็นจังหวัดที่ไม่สงบ ไม่ปลอดภัย ไม่น่าไป อันตรายเกินไป ซึ่งคำนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับความรู้สึกของคนไทย และด้วยการเฝ้ารอคอย ว่า อีกเมื่อไไหร่ ทั้ง 3 จังหวัดภาคใต้ ที่เวลาเอ่ยถึง ก็จะได้มีความรู้สึกดีๆ น่าไปเที่ยว คงสนุก และพี่น้องก็อยู่อย่างสามัคคี ไม่มีหวาดผวา ผู้คนอยู่กันกันแบบยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ต้องทอดทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งพรุ่งนี้ หลายภาคส่วนก็มีการให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ทั้งการรถไฟ ก็ได้เพิ่มการบริการเดินรถเพิ่มเป็นวันละ 200 ตู้ เป็นเวลา 3 วัน ก็คือไปแล้วก็กลับแบบไม่ต้องกลัวรถไม่พอกันเลยทีเดียว
          ส่วนทางเดินรถ บขส. ก็มีการเพิ่มรถ ไม่ว่าจะเสริม และเพิ่มจากเดิมขึ้นไปอีก 1 พันเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ภาคไหน ทุกภาค ซึ่งปรกติวิ่งวันละ 5 พันเที่ยว วันนี้และพรุ่งนี้ วิ่งวันละ 6 พันเที่ยว ทั้งรถร่วม และรถตู้ และไม่มีการจำหน่ายราคาเกิน หากพบปัญหาราคาเกินแจ้งได้ ที่เบอร์ CallCenter 1490 แต่ก็ยังไม่เห็นสายการบินประกาศให้ความร่วมมือ แบบนี้บ้างเลย นะคะ ไม่ว่าจะลดราคา หรือว่าเพิ่มเที่ยวบิน รับรองว่าคนบินเพียบแน่เลยว่าป่าว  ซึ่งถือว่าเป็นโค้งสุดท้าย เศือณรรย์ ซึ่งรวมไปถึงกระเหรี่ยงคอยาว ที่แสดงความดีใจที่จะได้ออกไปใช้สิทธิลงประชามติ  ซึ่งหลายจังหวัดก็ถือว่า ให้ความร่วมมือที่ดี และมีการเตรียมการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างสูง เรียกได้ว่าเกินหน้าที่ และกระตือรือร้นมากเลย รึว่าอาจจะเป็นเพราะคำว่า ม.44 อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลยนะคะ อยากเห็นข้าราชการไทย ทำด้วยใจที่กระตือรือร้นจริงๆ
และกฏกติกา ก็ไม่มีอะไรมากนะคะ อายุุเกิน 18 ปี บัตรก็มี 2 ส่วน ด้านบน ท่านจะถามว่า เห็นชอบ  หรือ ไม่เห็นชอบ ซึ่งก็หมายความว่า เห็นชอบหรือไม่ที่จะให้ สาชิกวุฒิสภา สว. 250 เสียง สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เวลา 5 ปี ซึ่งก็หมายความว่า ใน ๕ ปีนี้ ก็ยังมี คสช อยู่นะคะ ไม่ได้หายหน้าให้เราหายคิดถึงหรอกคะ ซึ่งก็มีทั้งเห็นและไม่เห็น ซึ่งก็จะปิดหีบลงคะแนน เวลา 16.00 น. หรือบ่าย 4 โมง และจะประกาศ อย่างเป็นทางการภายใน ๓ วัน ซึ่งก็ไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะออกมาใช้สิทธิเท่าหร่นะคะเพียงแต่นับตามบัตร ( เหมือนอังกฤษ โหวตออกเสียงอยู่หรือไปกับยูโรฯ โซน ) ก็แน่นอนว่าต้องมีทั้ง สองอย่างออกมาอย่างแน่นอน ซึ่งการทำประชามติครั้งนี้ คาดว่าใช้งบประมาณ 3 พันล้าน ซึ่งฝ่ายไม่เห็นด้วยก็ระบุว่า ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาของแผ่นดินได้ ซึ่งทุกหน่วยของทุกพิ้นที่ ก็ได้แสดงความพร้อมไม่ว่าจะเรื่องของการตรวจสอบหีบบัตร และการรักษาความปลอดภัยในขั้นสูงสุด ซึ่งแต่ละพิ้นที่ก็อยากให้ออกมาใช้สิทธิให้เป็น 100 % และกอ่นหน้านี้ก็มีการจับตัวผู้ที่คาดว่ากระทำผิดไว้หลายคน
           การเกาะติดปลก็คงต้องเป็นอีก 3 วันต่อจากนี้ ซึ่งไม่อาจคาดหวังอะไรได้ เพราะถ้าเห้นชอบผ่าน ก็เป็นเพียงก้าวเเรกที่จะต้อง นำพาประเทศก้าวเดินต่อไป ซึ่งปัญหาของประเทศจะแก้ได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีใครตอบได้ เพียงแต่คาดว่า ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้น ประเทศไทยต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทุกวันนี้ ชาวประชาราษฯ เศือณรรย์ ก็หากินยากลำบากกันอยู่แล้ว ซึ่งหลายหมอดู ก็ไม่กล้าฟันธงว่าอะไรจะเกิด ออกมาพูดแต่แบบนัยๆพยากรณ์ ให้คิดว่า ดวงเมืองจะเปลี่ยน ก็อย่าเอาประเทศไปไว้กับดวงเลยดีกว่า เราเอาปัญหาประเทศหาทางออกร่วมกันดีกว่า เพราะประเทศเรานั้น ก็บอบช้ำมามาก คนรวยก็รวยกันไป คนจนก็ยังคงจนอยู่ ความแตกแยกก็ยังมีให้เห็นอยู่ ถ้าไม่สามัคคี และไม่หันหน้ามายอมรับกติกาบ้านเมืองก็คงจะไม่ไปไหน ไม่ลำบากก็ท่านที่เล่นการเมืองที่คอยแต่จะทำให้ตัวเองเป็นใหญ่ มีอำนาจเงินทอง โดยที่อยู่บนความเดือดร้อนของประชาชนอยู่แบบนี้ สักวันเมื่อคนเขาฉลาดขึ้นมา จะเสียหายถึงลูกหลาน  วงศ์ตระกูลนะคะ สามัคคีคือพลังสร้างชาติ อาหารเสริมลดน้ำหนัก อยากเห็นประเทศไทยสงบ และคนรวยก็ไม่หากินกับคนจน และคอรัปชั่น ก็อยากให้หมดไปจากประเทศ แต่ก็เป็นไปได้ยาก หรือแทบไม่มีเพราะ มันเป็นทางของมันแบบนี้ จนกลายเป็นแม่น้ำไปแล้ว เราช่วยได้ก็เพียงค่อยๆถมให้หมดไปคนละไม้คนละมือนะคะ ประเทศอยู่ในมือคุณแล้วคะ และห้ามถ่ายรูปไม่ว่าจะเชลฟี่ หรือถ่ายไว้เป็นที่ระลึกนะคะ ถูกจับได้เลย ถือว่าผิดกฏหมาย ซึ่งเชื่อมั๊ยว่าต้องมีคนทำผิดอย่างแน่นอน
ล่าสุด เมื่อ 20.55 น. ที่ผ่านมาก็ได้เกิดคนร้ายวางระเบิด ที่จังหวัดนราธิวาส ๙ จุด ไฟฟ้าล้มหลายต้น
ซึ่งก็คาดว่าเป็นการก่อกวน
         เพิ่มเติม การลงประชามติ ซึ่งก็มีผลลออกมาอย่างไม่เป็นทางการ ก็ปรากฏว่าเห็นชอบ มากกว่า 63 % และไม่เห็นด้วย 32 % ซึ่งประชาชน ได้ออมาใช้สิทธิ์ ประมาณ 23 ล้าคน หลังจากที่มีประชามติเห็นชอบผ่านแล้วนั้น ก็ทำให้มีการขานรับเศรษกิจ ตลาดหุ้นสดใส หุ้นแต่ละตัวก็ดีดตัวขึ้น ซึ่งก็คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น และก็คงจะต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญต่อไป และจะมีการเลือกตั้ง ในปลายปี 60 ค่อนข้างแน่นอน

อภิสิทธิ์ ไม่รับร่างฯ สุเทพ ยอมรับร่าง ตัดสิน 7 สิงหาคมนี้

          ประเทศไทยตอนนี้รัฐบาล ก็ขมักเขม้นกับ้รื่องของการลงประชามติ เรื่องของการร่างรัฐธรรมมนูญ ซึ่งก็มีการจับผู้ที่มีส่วนว่า เบี่ยงเบนร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีการปลด นายก อบจ เชียงใหม่ โดยใช้ ม.44 และควบคุมตัวไว้อีกหลายคน เพื่อปรับทัศนคติ แต่ที่เป็นเป็นเสียง ดังมากกว่าก็เป็นเรื่องที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ซึ่งทางด้านนายอภิสิทธิ์ ก็ได้กล่าวว่า เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่สามารถตอบโจทย์ ของประชาชนได้  กับปัญหารที่เกิดขึ้น 3 เรื่อง ทิศทางของการพัฒนาประเทศ และไม่สามารถ แก้ปัญหาความขัดแย้งของการแบ่งแยกฝ่ายได้ และรวมไปถึงการที่จะแก้ปัญหาคอร์รัปชั้น ซึ่งมีมานานนับ สิบปี ซึ่งถ้าร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าผ่านก็จะสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ ซึ่งการแถลงครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ไ้แถลงเป็นการส่วนตัว ไม่สามารถเรียกประชุมพรรคได้แต่การประกาศไม่รับไม่ได้เกิดจากความรู้สึกส่วนตัว  แต่เพื่อเป็นการสืบสานอุดมคติอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการทำประชามติ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่จะเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้สอดคล้องรับยุทธศาสตร์ชาติ
          ส่วนทางด้าน นายสุเทพ นั้นก็ได้ออกมา ประกาศไลน์สดในเฟซบุ๊ก ว่าตนจะไปลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งต่างจากหัวหน้าพรรค ซึ่งก็ได้กล่าวต่อว่าตนเสียใจ ที่มีคนไปบิดเบือน ว่าจะโดดริบบัตรทอง ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง ชัภเชถ และในร่างรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติให้รัฐ หรือใครก็ตามที่มาเป็นรัฐบาล ต้องทำหน้าที่หลายอย่างให้ประชาชน แล้วบังคับไว้ว่าถ้ารัฐไม่ทำตาม ประชาชนมีสิทธิฟ้องร้องดำเนินดคีกับรัฐหรือหน่วยงานของรัฐได้ และยังได้กล่าวอีกว่าจนถึงวันนี้กยังมีคนท้า ให้ตนไปดีเบต เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ทางโทรทัศน์ แต่ตนก็รู้สึกอย่างนั้นๆ และใครจะมาบิดเบียนหรือใช้วิชามาร ตนก็ไม่สนใจ เพราะตนแน่วแน่ที่จะรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไปอย่างคนมีธรรมะในหัวใจ ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด ตนจะลงมติรับ เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ซึ่งเมื่อภายหลังนายอภิสิทธิ์ ประกาศจุดยืน ผู้กองปูเค็ม ร้อยเอก ทรงกลด ชื่นชูผล อดีตนายทหารผู้เคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  ว่าวันนี้ขอแสดงจุดยืนบ้าง ขอลาออกจากพรรคประชาธิปัติย์อย่างเป็นทางการ..และจะไปลงประชามติ รับ วันที่ 7 สิงหาคม นี้
        จาการวิเคราะห์ว่านายอภิสิทธิ์ไม่รับก็เพราะว่า 1 เห็นว่าไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาของคนจนได้ เศรษกิจยังไม่มีทิศทางแน่ชัด 2 การคอร์รัปชั่น การใช้อำนาจในทางที่ผิด การสูญเสียทางเศรษกิจ สังคม และการเมือง ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 3 ความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเรื่องรัฐประหาร การชุมนุมประท้วง การใช้ความรุนแรง การส้รางความเกลียดชัง ก็จะยังคงอยู่ไม่สามารถหลุดพ้นได้   วึ่งก็เป็นเรื่องที่เห้นด้วยและไม่เห็นด้วย เสียงก็จะแตกต่างกันออกไป แต่เชื่อได้เลยว่า ประชาชนร้อยละ 60 ถึง 80 % ของประเทศ ยังไม่รู้เรื่องรายละเอียดและเนื้อหา อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะโทษว่า ประชาชนไม่สนใจก็คงไม่ใช่ เพราะว่าด้วยภาวะและภาระ ที่ต้องดิ้นรนและการเมืองในแต่ละครั้งที่สนใจมานาน ก็จะมีปัญหาอยู่ไม่อย่างก็อย่าง ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และไม่อยากที่จะรับรู้ เพราะว่า ทุกครั้งชีวิตก็มีแต่แย่ลง ยังไม่ได้ดีขึ้นมาเลย และเมื่อก่อนที่มีการแบ่งฝ่าย คนในครอบครัว ก็ทำเลาะกันเอง ไม่ว่าจะพ่อ แม่ เพื่อน และพี่ น้องก็ตามที  ชัภเชถ ปัญหาไม่อาจที่จะหมดไปได้ และก็จะมีก็แต่เปลี่ยนรูปแบบออกไปอีก ทั้งที่คนส่วนมากต้องเดือดร้อนไปด้วย เห็นส่วนตัว อาหารเสริมลดน้ำหนัก อยากเห็นประเทศสงบ และคนมีวินัย