น้ำเปล่าเมืองไทย ทำไมแพงและต้องซื้อกิน

          ประเทศไทย เปนประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ซึ่งก็เป็นคำกล่าวที่มีมานาน ครั้งปู่ย่า ตายาย ซึ่งประชากรส่วนมากก็ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน แต่ฐานะของชาวนานั้นก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นมาเลย เราจะเห็นได้จากการที่ทุกปี ชาวนามีแต่ขาดทุน ถึงแม้ว่าจะมีการช่วยเหลือจากทางรัฐบาลเท่าไหร่แล้วก็ตาม ส่วนมากก็จะรวยและมีฐานะดี ก็จะเป็นระบบการค้าของพ่อค้าคนกลาง ซึ่งถ้าเราตัดระบบการค้าแบบพ่อค้าคนกลางออกไปได้ เชื่อว่าต้องดีขึ้นแน่นอน แต่ก็คงไม่สามารถทำได้ เพราะการคอรัปชั่นของเรื่องเงิน ที่มีอยู่อย่างมหาศาล ชาวนาก็เลยลืมตา อ้าปากไม่ได้ เพราะนายทุนและระบบการจัดการทางการตลาด ต่างกับประเทศในประเทศชนผิวขาว และประเทศญี่ปุ่น ที่ชาวเกษตรกรนั้น สามารถที่จะทำการค้ากับผู้บริโภคและผู้ค้าโดยตรง โดยขั้นแรกก็ต้องมีการยอมรับ และการพัฒนาสินค้า ให้เป็นที่ยอมรับก่อนนั่นเอง ไม่ว่าตั้งแต่การผลิต การบรรจุภัณฑ์ และการเก็บรักษา รวมไปถึงการส่งออกไปจำหน่าย   และการทำสัญญา ซื้อขาย และข้อตกลงอื่นๆ
        ว่าด้วยประเทศไทยก็มีน้ำที่ทุกปี ก็จะต้องออกมาบอกว่าน้ำแล้ง ในช่วงต้นปี แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็จะเริ่มมีฝน ก็จะกลายเป็นน้ำท่วม ซึ่งแม่น้ำก็มีหลายสาย ไม่ว่าจะเป้นแม่น้ำหลัก คือแม่น้ำเจ้าพระยา แมน้ำ ปิง วัง ยม นาน และเแม่น้ำชี รวมไปถึงแม่น้ำโขง เมื่อเรามาดูการใช้น้ำ ในประเทศเราก็เคยสังเกตุว่า ค่าน้ำเดือนละอย่างกก็อยู่ที่หลักสิบ กับหลักร้อย ซึ่งก็ใช้กันทั้งบ้าน สมาชิกหลายคน และหมดไปหลายพันลิตร ส่วนค่าไฟนั้นก็เริ่มที่หลักร้อยแล้ว ขึ้นไปเรื่อยๆ เลยทีเดียวซึ่งก็ต่างกันลิบลับ ซึ่งเมื่อกอ่นนั้น น้ำโขงก็เคยรู้ว่าไหลมาจากธิเบต แต่เมื่อจีนเข้ามครองธิเบต แล้วก็ได้สร้างเขื่อนและสร้างโรงไฟฟ้า และก็หักเหกระแสน้ำ กัภปยัส ให้เข้าไปเลี้ยงประชากรของประเทศ ถึง 5 มณฑล เป็นทั้งเขื่อนและการผลิตไฟฟ้าในตัวด้วย และก็มีทั้งที่เขื่อนในประเทศลาว เขื่อนไชยะบุรี ที่บริษัท ช การช่างเป็นผู้รับเหมาจนสำเร็จมาแล้ว ซึ่งก็ไม่อาจที่จะทัดทานได้ แต่กระนั้น น้ำในประเทศไทยก็ไม่ได้ขาดแต่อย่างใด เพราะว่าแปลก ตรงที่น้ำปะปา เรียกได้ว่ามีความพิถีพิถัน ในความสะอาดแล้ว โดยการใส่สาคลอรีน แต่จะด้วยความที่สะอาดเกิน ทำให้ใช้ดื่มไม่ได้เลย ทำให้เรานั้นต้องหันมาซื้อน้ำดื่มกินกัน
           เมื่อสมัยก่อนนั้น บ้านเราจะนิยมการดื่มน้ำฝน ซึ่งมาเดี๋ยวนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้แล้วว่าน้ำฝนมีรสชาด อร่อยแค่ไหน ซึ่งเมื่อก่อน แทบทุกบ้านเราก็จะเห็นโอ่งมังกร ใบใหญ่ ที่บ้านไหนก็มักจะมีติดบ้าน อย่างน้อยก็ต้อง 2 ตุ่มขึ้นไป เพื่อที่จะเก็บน้ำฝนหว้ทานนั่นเอง และก็จะมี ตุ่มใบเล็กๆ เพื่อที่จะเก็บน้ำที่ไว้ใช้ทานเอง และต้อนรับแขกเกลื่อที่มาบ้านนั่นเอง โดยการเก็บน้ำฝนนั้น ก็จะไม่รองทันทีที่ฝนตก แต่จะปล่อยให้ฝนตกไปได้สักพักก่อน แล้วถึงจะรองน้ำฝนเก็บ เพราะถ้าฝตกใหม่ๆ นั้นฝุ่น ละอองต่างๆ และเศษใบไม้ ใบหญ้าก็จะตกมาด้วย และเป็นการล้างหลังคาเอาเศษพวกนี้ออกไปก่อนด้วยนั่นเอง พอตกได้สักพัก เราก็ไปดูว่าน้ำที่ไหลมานั้นสะอาดพอรึยัง ถ้าดูแล้วสะอาดแล้ว ก็เริ่มเปิดฝาโอ่งเพื่อรองน้ำมาเก็บไว้ใช้ น้ำฝนนั้นต้องบอกได้ว่าเป็นน้ำที่อร่อย และเวลาที่ได้ดื่มแล้ว ก็ยังให้ความรู้สึกว่าสดชื่นอีกด้วย
ซึ่งก็หาได้ยากแล้วทุกวันนี้ เพราะหลายคนหลายบ้านก็ต่างออกดิ้นรนทำมาหากิน ก็เลยมีการคิดบรรจุภัณฑ์ ของน้ำดื่มออกมาขาย ซึ่งน้ำดื่มราคาเริ่มก็  5 บาท ไปจนถึงลิตรละ หลายสิบบาท มีทั้งน้ำแร่ ด้วย แต่ยังงัยก็รสชาดไม่เหมือนน้ำฝน เมื่อถามว่า ทำไมเราต้องทานน้ำแพง โดยที่เรานั้นไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ประกอบการน้ำดื่มก็สามารถอยู่ได้และรวยๆๆ อาจจะด้วยเพราะความสะดวกกับการบริการด้วยก็ว่าได้
        ทำไมราคาน้ำดื่มที่ว่าแพงนั้นก็เพราะว่า น้ำในประเทศไทย เรียกว่าหาได้ไม่ยากและมีให้ตลอดปี แต่เราทำไมต้องซื้อนี่สิคือประเด็น ถ้าเรามาลองเสียเวลานิด กับการกรองน้ำ และก็นำมาต้มดื่มเอง และการรองน้ำไว้ในโอ่งเพื่อใช้เอง ก็จะเป็นการประหยัดได้แล้ว และเราก็สามารถที่จะใส่ใบเตย โดยการล้างให้สะอาดแล้วก็ใส่ลงไปในน้ำแบบไม่ต้องต้ม ก็มีกลิ่นหอม กัภปยัส น่าดื่มกินเป็นอย่างมาก อีกทั้งโรยดอกมะลิใส่ ก้จะเป็นน้ำลอยดอกมะลิ ที่หอมน่าดื่ม และทำให้เราสามารถดื่มน้ำได้มากขึ้น และทำให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอในแต่ละวันด้วย ซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยจะมีให่เห็นหรือน้อยมาก ซึ่งก็เป็นธรรมเนียม ที่เมื่อก่อนบ้านไหนก็ทำกัน และก็ไม่เสียเงินเลย แตว่าน้ำดิ่มที่มีขายกันทุกวันนี้ ครึ่งลิตร ราคา 8 บาท ลองเอามาคิดดูนะคะว่า ต้นทุน ไม่ถึง 50 สตางค์ ด้วยซ้ำ แล้วก็มาคิดค่าแช่เย็น เออก็แปลกดีนะคะ
น้ำเปล่าลิตรละ 10 บาท ซึ่งเราใช้น้ำประปา เดอืนละ เป็นพันลิตร ไม่กี่สิบบาท ถ้าเราหันมาลองใช้น้ำฝน ซึ่งก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะว่า ทุกวันนี้สารเคมีในอากาศมีมาก ไม่ว่าจะยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง และสารเคมีอื่นไอีก ทำให้ไม่สะอาดแถมยังเป็นพิษด้วย ก็ไม่คุ้มกัน แต่ถ้าเราปล่อยเอาไว้สักพักแล้วรองไว้ดื่มกินดู แล้วเราจะได้ความสดชื่นอย่างที่สุดจริงๆ อาหารเสริมลดน้ำหนัก แม้ว่าทุกวันนี้จะมีการคิดค้นการทำน้ำดื่มให้มีรสชาด เหมือนกับน้ำฝนแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ และก็ยังไม่มีใครทำน้ำดื่มกลิ่นมะลิ และกลิ่นใบเตย ออกมาจำหน่ายเลยนะคะ ถ้าทำได้และวราคาเดิมก็น่าจะเพิ่มยอดขายได้อีกมากมายเลยทีเดียวคะ