แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ผกค แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ผกค แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

นอนเขาค้อ ๑ คืน อายุยืน ๑ ปี กับเรื่องที่เรายังไม่ค่อยได้รู้

          เมื่อเอ่ยถึง ที่ท่องเที่ยวแนบธรรมชาติ อบอวนด้วย ป่าไม้และภูเขา กับบรรยากาศ ที่มีอากาศดี และเมื่อได้สัมผัสปอดได้ดูดดื่มกับอากาศอันบริสุทธิ์ การการท่องเที่ยวเขาค้อ กับครั้งแรกที่ไป เพราะความที่ไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่วันนั้น ขับรถผ่านแล้วก็คิดว่าขับรถไม่ไหว เพราะว่าไปกับครอบครัว ก็เลยเห็นป้ายว่าเขาค้อ ซึ่งก็เคยได้ยินกิตติศัพท์มาบ้างถึงความงาม ธรรมชาติ ที่น่าสัมผัส พอดีมาเจอในช่วงที่เขาทำถนนกันอยู่ ป้ายบอกทางก็ไม่มี ทั้งที่เวลาเพียง 18.30 น. ก็มืดแล้ว เมื่อได้ขับรถเข้าไปด้วยความที่ไม่ชินกับทาง ก็เข้าไปได้ประมาณ 3 กิโลเมตร ก็เลยจอดเห็นร้านขายของข้างทาง ก็เลยแวะซื้อของทานเล่น แล้วก็ถามเขาว่า เขาค้ออยู่อีกไกลไหม ได้ยินก็แทบจะไม่อยากไป เพราะต้องไปอีกถึง 30 กิโลเมตร ข้างทางก็มือเพราะไม่มีไฟข้างทาง แล้วทางก็ขึ้นเขา ต้องค่อยๆขับไปเรื่อยๆ นานๆที่จะมีรถสวนมาที ก็ไม่คิดอะไรมาก อยู่ข้างนอกก็อากาศค่อนข้างจะร้อน  เพราะเป้นเดือนเมษา อากาศก็ร้อนน่าดู แต่ขับรถไปในรถก็มีแอร์ ใช้เวลากับระยะทางแค่นั้น ก็เกือบชั่วโมง เพราะมืดด้วย แต่ครั้นพอเข้าไปเกือบจะถึง ก็เริ่มจะเห็นแสงไฟ ที่จะประดับประดา บ้านพัก รีสอร์ท สวยงาม ตาม 2 ข้างทาง จนลืมเลือกไปเลยว่าจะพักที่ไหน ต้องขับรถวนกลับมาเลือกกันอีกครั้ง
                                                                           
        เมื่อได้ที่เหมาะแล้ว เราก็ต้องได้ลงมาจากรถ ครั้งแรกที่ได้ลงมานั้น ทุกคนต่างบอกเสียงเดียวกันว่า อากาศทำไมดีอย่างนี้ ไม่หนาวไม่ร้อน อากาศพอดี เหมือนกับเต็มไปด้วยออกซิเจน ที่หายใจได้คล่องปอด  ทำให้สุดแสนจะสดชื่น ซึ่งกว่าจะได้ทำอะไรต่อ ก็มีดแล้วประมาณ 4 ทุ่ม มองไม่เห็น วิวทิวทัศน์ กันแล้ว ก็เลยได้แต่ทานอะไรที่มีอยู่ แบบง่ายๆ แล้วก็ได้เข้าห้องพัก ซึ่งราคาช่วงหน้าเรียกว่า โลซีซั่น ก็ถูกคือ 8 ร้อย ซึ่งถ้าหน้าหนาวก็อยู่ที่คืนละ ๑,๕00 บาทขึ้นไป ก็ไม่ได้ต่อรองอะไรมากมาย พอได้ดื่มด่ำบรรยากาศเสร็จ ก็เข้าไปห้องพัก เมื่อยิ่งดึก อากาศก็ยิ่งเย็น จนอาบน้ำไม่ได้ ต้องอาบน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำอุ่นก็มาเสียอีก บริกร ก็ไม่รู้ไปไหน หาบริกรไม่เจอ ก็เลยตามเลย อาบน้ำทั้งที่เย็นๆ อย่างนั้นหละ เศยตรัณ แล้วก็ไม่ได้เปิดแอร์เพราะอาหาศเย็นจริงๆ แต่เย็นแบบไม่เหมือนอยู่ห้องแอร์ เป็นความเย็นแบบที่มีออกซิเจน มากมาย หายใจสบายปอด รู้สึกได้ถึงความสดชื่นที่ได้รับ ฟ้าก็เปิด ออกมานอกระเบียงก็มองเห็นดาวอยู่เต็มท้องฟ้า ซึ่งไม่มีแสงนิออน คอยรบกวนเลย ดวงดาว สวยระยิบมากมาย เสียงแมลงแห่งไพร ก็แข่งกันร้อง เสียงเหมือนดนตรีแห่งพงไพร อารมณ์ก็พาไป ทอดออกไปสู่ดาวอันสุดสายตา ที่เหมือนคนโบาณเคยบอกว่า ถ้าใครที่ทำความดี ตายไปก็จะได้เกิดเป็นดวงดาว   นั่นก็เหมือนดวงดาว เป็นคนที่มีบุญวาสนา แล้วก็เข้านอนปิดไฟ แต่เปิดหน้าต่าง มองไปนอกหน้าต่างพร้อมกับดูดาวแล้ว ก็หลับไปอย่างมีความสุข
                                                                             
        เมื่อตื่นเช้ามา มองออกไปสุดสายตา วิวสวยมากเพราะตื่นมาก็เห็นภูเขา ทะเลหมอก ทั้งที่เป็นหน้าร้อน ทองสุดลุกหูลูกตา พาใจลอยไป เหมือนสวรรค์ ดังสมญาสวิตฯเมืองไทย และต้นไม้สีเขียว พาใจสดชื่นจริงๆ ไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลย  ขนาดสายแล้วนะเนี่ย วิวสวยอยู่เลย แต่ก็ต้องลุกเพราะเดี๋ยวเขาเก็บอาหารก่อน ซึ่งก็มีอาหารเช้าบริการ ซึ่งก็ง่ายๆ ไม่มากเรื่องอะไร กาแฟ ,ข้าวต้ม, ไข่ดาว ก็ต้องเข้าใจเพราะไม่มีคนมาพักมาก อาหารก็เลยไม่ได้ทำอะไรมากมาย ส่วนเรื่องของค่าห้อง ก็จ่ายกันไปไม่คิดมากเพราะคิดว่า มาเที่ยวละกัน แต่เมื่อถามคนดูแล ก็คิดอยู่ว่า ที่ในป่าเขาขนาดนี้จะอยู่ที่ไร่ละเท่าไหร่
ก็ได้คำตอบว่า ไร่ละ ๑0 ล้าน ซึ่งก็ยังไม่มีขายแล้ว เพราะสมัยก่อนนั้น เขาแบ่งให้พี่น้องที่หลงผิด คือเมื่อก่อน เขตนี้ไปถึงเขตภูหินร่องกล้า ที่เมื่อก่อนพี่น้องที่หลงผิด ใช้เป็นที่หลบภัย และต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และรัฐบาล ที่เรียกว่า ผกค ( ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์) ซึ่งเมื่อเหตุการณ์สงบลงบ้านเมือง เศยตรัณ อยู่ในความสงบแล้ว ก็ได้มีการแบ่งพื้นที่ให้พี่น้อง ชาวบ้านได้ทำมาหากิน โดยที่เป็นที่ทำมาหากิน เหมือนกับ นส 3 คือแบ่งให้คนละเท่าไหร่ก็ว่ากันไป รู้สึกว่จะคนหลายไร่ เพราะเมื่อก่อนการทำการเกษตรต้องใช้เนื้อที่มาก แล้วก็มีเจ้าของ อย่างถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ถูกกฏหมายก็มี เพราะนายทุนมีเงินมากเขาไม่กลัวขาดทุน แต่ก็มาขายแบบเปลี่ยนมือ ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบกันจริงๆ ก็น่าจะมีคนทำผิดอีกมากมาย เพราะเงินลงทุนทำนั้นไม่ใช่น้อยๆ เพราะรีสอร์ท แต่ละที่ดูแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 20 ถถึง 30 ล้านบาทกันเลยทีเดียว ซึ่งเมือ่หลายเดือนก่อนก็มีการเข้ารื้อทิ้งกันมากมายที่ภูทับเบิก ซึ่งก็เกิดจากเรื่องที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์และเป็นการบุกรุกป่านี่ละคะ แล้วเมื่อถามว่าทำไมถึงมีนายทุนกล้าเข้ามาทำ ก็เพราะว่าผลตอบแทนคุ้มค่ามากกว่าจริงๆ แทนที่เขาจะเอาเงินไปฝากธนาคาร เขาก็จะเอามาลงทุน
ซึ่งได้ผลกำไรงาม ไม่กี่ปีก็สามารถคืนทุน ที่เหลือก็เป็นกำไร สบายๆ ครั้นแก่ตัวไปก็ยังได้มาพักผ่อนได้อีก สาธยายไม่หมดจริงๆกับความงามและอากาศดี อยากให้คุณได้หาโอกาสมาสัมผัสกันดูนะคะ ถ้ามีโอกาส อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็จะได้เพิ่มข้อมูลให้นะคะ สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีทุกทานคะ