เพราะจะทำให้แสบร้อนมาก ซึ่งก็เป็นวิธีที่ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งถ้าไม่อย่างนั้นก็ให้เอาใส่ภาชนะ แล้วางเอาไว้ใกล้หัวเตียง ก็ได้นะคะ
หลายคนถ้าพูดถึง ก็น่าจะคิดได้ว่า ขิงก็รา ข่าก็แรง ซึ่ง ขิงแก่ ก็มีบทบาทในการลดน้ำมูกได้เหมือนกัน โดยการนำขิง มาล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นบางๆ ซึ่งก็ใช้มากหน่อยนะคะ เพราะจะได้ เข้มข้น จากนั้นก็เอาไปต้ม โดยการเคี้ยว จาก 2 ให้เหลือ 1 โดยการใส่น้ำลงไป 2 แก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 แก้วเพราะน้ำขิงเข้มข้นจะเผ็ดและทนยาก จึงต้องเติมน้ำตาลทรายแดง 1 ช้อน ให้ดื่มวันละ 3 ถ้วย ซึ่งก็ควรที่จะดื่มร้อนไม่ควรดื่มเย็น ซึ่งจิบบ่อยไ ก็จะดี เพราะจะทำให้ชุ่มคอ และลดน้ำมูกด้วยนะคะ แล้วก็มาถึง ใบหนุมานประสานกาย แค่ชื่อก็ดูแล้ววิเศษ มั๊ยละเพราะว่าหนุมาน ไม่มีวันตาย เพราะหนุมานเป็นลูกลม เมื่อเจอลมก็ฟื้นขึ้นมาอีก มาดูใบหนุมานประสานกายดีกว่า ให้นำช่อมาสัก 15 ช่อ ชั่งน้ำประมาณ 15 ถ้วย ต้มนาน 15 นาที แล้วรินดื่มเหมือนน้ำชา คือจีบทั้งวัน แต่ต้องจิบแบบอุ่นๆ นะคะ ถึงจะได้ผลดี ซึ่งก็จะทำให้อาการหวัด ค่อยๆ ทุเลาเบาบางไปได้ ที่ใกล้ตัวก็เป็นกระเทียม ช่วยในการรักษาอาการน้ำมูกไหลได้ดี โดยนำมาปอกแล้วรับประทาน 3 ถึง 5 กลีบต่อมื้อ ซึ่งกระเทียมก็มีรสที่เผ็ดในตัวทานยาก วิธีให้ง่ายก็คือเอาน้ำมะนาว ใาบีบใส่ ก็จะทำให้ลดเผ็ดของกระเทียมหายไป และทานได้ง่ายด้วย ซึ่งกระเทียม ถ้าทานวันละ 3 กลีบก็ถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งที่เรามาดูว่าที่เรานั้น ถึงจะทานสมุนไพร
เข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะกี่อย่างก็ตามแต่ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือการพักผ่อนให้เพียงพอ นั่นก็คือ การนอนหลับมให้มาก เพราะเชื้อหวัดถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มียาตัวใดที่ฆ่าเชื้อหวัดได้เลย ซึ่งการดูแลตัวเองก็เป็นการที่เรานั้จะได้ไม่เป็นหวัดด้วยนะคะ