ตำนาน 3 เสือสุพรรณ อย่างเสือ มเหศวร , เสือฝ้าย และเสือดำ ซึ่งทั้งสามเป็นเพื่อนกัน ต่างก็มีวิชาอาคม ที่แกร่งกล้า และของดีติดตัว ซึ่งต่างก็ร่ำเรียนวิชา คาถาอาคา ไสยศาตตร์ จากมากมายหลายอาจารย์ โดยที่จะมีคาถากำกับก่อนออกจากบ้านทุกครั้งไป ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็น คาถาและการลงอักขระเลขยันต์ ซึ่งก็จะมีทั้ง เมตตา คงกระพัน ชาตรี ล้วนแล้วต่างก็มีประสบการณ์ เรื่องการสู้รบปรบมือ การถูกตีรันฟันแทง แล้วก็ไม่ระคายผิว กันมาอย่างเหลือเชื่อ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทย โดยส่วนมากนั้นนับถือเครื่องรางของขลัง และพระเครื่อง เพื่อไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว และคุ้มครองตัว อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกว่าอุ่นใจกันบ้างทำให้วงการพระเครื่องนั้นรุ่งเรืองเฟื่องฟู เป็นอย่างมาก ราคาก็อยู่ที่ความนิยมและความศรัทธานั่งเอง คงไม่แปลกที่พระเครื่องบางรุ่นที่มีราคาการซื้อขาย หลัก หลายสิบล้านบาท ถึงร้อยล้านบาทเลยทีเดียว มาถึงยุคปัจจุบัน พระเครื่องที่ครองใจ นักสะสมพระเครื่องมากที่สุดก็น่าจะเป็น หลวงปู่ทิม แห่งวัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ด้วยความที่พระเครื่องของท่านมาแรงสุด แบบหยุดไม่อยู่ ก็อาจจะมีหลายคนที่อยากจะรู้ประวัติท่านก่อนที่จะสะสมพระเครื่องของท่าน
หลวงปู่ทิม ท่านเป็นคนระยองโดยกำเนิด ท่านชื่อ ทิม นามสกุล งามศรี บิดาชื่อนายเจ้า มารดาชื่อนางอินทร์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๒ ที่บ้านหัวทุ่งตาบุตร ตำบลละหาร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งปู่ของท่านคือ หลวงปู่สังข์เฒ่า ผู้เรืองวิชาอาคม ท่านหนึ่งในสมัยนั้น แห่งวัดก๋งจีน หลวงปู่ทิม ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๙ ( ตรงกับปีมะแม เดือน ๖ วันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ ) มีท่านพระครูขาว วัดทับมา เป็นพระอุปชฌาย์ พระอาจารย์สิงห์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์เกตุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ที่ พัทธสีมา วัดละหารไร่ ได้รับฉายาว่า อิสริโก หลังจากที่ท่านบวชแล้วท่านก็ได้เรียนปฏิบัติสมถกรรมฐานจากหลวงพ่อสิงห์ และศึกษาวิชาต่างๆ จากตำราของปู่ของท่าน จนมีความรู้แตกฉานและได้ออกจาริกธุดงค์กับหลวงพ่อยอด ไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเจริญสมณธรรม ปลีกวิเวกสันโดษ ๓ ปี และได้จำพรรษาที่วัดนามะตูม เพื่อเรียนวิชากับอาจารย์หลายรูป และชาวบ้านได้นิมนต์ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาส เมื่อปี พ. ศ . ๒๔๕0 โดยที่ชื่อวัดนั่นเดิม มีชื่อว่า วัดไร่วารี ได้มาเปลี่ยนเป็นวัดละหารไร่ ท่านได้สร้างโรงเรียนที่สอนเด็ก ป1 ข ขึ้นด้วยที่วัด และเมื่อคล้ายวันเกิดครบ ๙๕ ปี ท่านได้วางศิลาฤกษื สร้างศาลาการเปรียญ " ภาวนาภิรัติ " เสร็จในปีต่อมา
และยังได้ สร้างและปรับปรุงหอฉันท์ " อุตตโม " ซึ่งต่อมาก็เป็นชื่อพระปิดตาหลวงปู่ทิม รุ่นปิดตาอุตตโม ที่โด่งดังนั่นเอง หลวงปู่ทิมท่านยึดมั่นในพระธรรมพระวินัย ท่านเป็ฯพระที่มักน้อย ชอบสันโดษ ฉันอาหารเจ วันละ ๑ มื้อ คือประมาณ ๗ โมงเช้า เท่านั้น แล้วก็จะฉัน น้ำชา ตอน ๔ โมงเย็น หลังจากนั้น
หลวงปู่ท่านก็จะไม่ฉันอะไรอีกเลย ท่านจะไม่ฉันเนื้อสัตว์ แม้กระทั่งน้ำปลา ผิวพรรณของท่านก็ยังปรกติดีอย่างเดิม ทั้งที่ไม่ได้ทาน อาหารเสริมลดน้ำหนัก ด้วย โดยตำแหน่งของท่านที่ได้รับก็คือ พระครูภาวนาภิรัติ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ไปรับตำแหน่งแต่อย่างใด จนชาวบ้านรบเร้า ท่านถึงไปเอา ท่านมรณะภาพด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2518 ห้นาหอสวดมนต์ หลังจากที่รักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสมเด็จ ศรีราชา ด้วยโรคชรา ศิริอายุ 96 ปี โดยขอพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2526 ณ เมรุวัดละหารไร่ ( เหรียญเสมาซึ่งเมื่อก่อนนั้น เซียนพระบอกว่า ไม่ทันหลวงพ่อปลุกเศก ปัจจุบัน สวยๆราคาก็อยู่ท่ีหลายแสนคะ แต่ว่าคุณชินพร ได้บอกว่าเหรียญรุ่นนี้ ทำให้ท่านปลุกเศกกอ่นเป็นปี เลยทีเดียว )และวันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปี ที่วัดละหารไร่จะจัดงานรำลึกถึงหลวงปู่ทิม ซึ่งบรรดาผู้ที่มีเหรียญสวยๆ ก็จะเอามาอวดกันด้วยนะคะ
ด้วยบารมีที่มีอย่างมากมาย และด้วยความศรัทธา พระเครื่องของหลวงปู่ทิม ที่ลูกศิษย์นำไปห้อย และพกพาติดตัว นั้น ต่างก็มีประสบการณืด้านที่ดีๆ มากมาย ทั้งยิงไม่เข้า เมตตาค้าขายดี และประสบแต่เรื่องดีๆ นั้นมีมากมาย จนทำให้มูลค่าของพระเครื่องของท่านนั้น มีราคขยับสูงไปเรื่อยๆ
ยิ่งนับวันก็กลับมีน้อยลงอีกด้วย เพราะคนที่มีก็ต่างหวงแหน พระเครื่องที่หลวงปู่ท่าน ทำไว้ก็มีมากรุ่นอยู่เหมือนกัน แต่ที่นิยมมากก็จะเป็น กริ่งชินบัญชร , ขุนแผนพรายกุมาร ( มีทั้งพิมพ์เล็ก , ใหญ่ ) ซึ่งราคาสวยๆ ก็น่าที่จะเกินล้าน และการที่ท่านได้ นำกระโหลกเด็กที่ตายโหง และตายท้องกลมนั้น
นำมาทำ โดยที่หลวงปูู่ก็ได้บอกว่า เขายังไม่ด้เกิดเขาเป็นเทพ นำมาทำเพื่อเป็นการทำบุญให้เขาด้วย ซึ่งถ้าไม่มีวิชาที่แก่กล้าจริงๆแล้วก็คงทำไม่ได้ เพราะว่ามีเพียงอีกองค์ที่ทำก็คือ หลวงพ่อเต๋ วัดคงทองนั่นเอง พระเครื่องขุนแผนที่หลวงปู่ทิมเมื่อก่อนนั้น ลูกศิาย์ได้นำไปใช้ ด้วยความที่มีเมตตาสูง
ทำให้บรรดา เมียๆ นั้นเอามาคืนหลวงปู่อยู่บ่อยๆ และด้วยความที่มีความศักดิ์ศิทธิ์จริง ของคนที่นำไปใช้ ไม่ว่าจะด้าน แคล้วคลาด เมตตา คงกระพันชาตรี ค้าขาย แต่ด้วยที่เรื่องเล่าที่ไม่เคยได้เล่าให้ใครฟัง แต่เป็นผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่ทิมมาก ก็มีอยู่ว่า พี่ชายของเขา ได้เปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ แต่ว่าเปิดมาได้
หลายเดือนก็ขายไม่ดีเลย ไม่รู้จะทำยังงัยต่อ ด้านน้องชายก็เลยบอกว่ามีเหรียญหลวงปู่ทิมอยู่จะเอาให้ แล้วให้อธิฐานขอฝากดวงไว้กับหลวงปู่ทิม และขอให้ประสบความสำเร็จ ค้าขายดี จวบจนทุกวันนี้ ห้อยติดตัวไม่ห่าง และก็ไม่มีเวลาแม้แต่กินข้าว เพราะขายของดีมาก ถึงขั้นว่า พักกลางวันต้องปปิดร้านกินข้าวกันเลยทีเดียว พระเครื่องหลวงปู่ทิมนั้น ที่สร้างโดยคุณพรนั้นก็จะดังทุกรุ่น แต่คนพื้นที่ ก็มักจะได้ของที่หลวงปู่ปลุกเศกก่อนนั้น และสร้างมาก่อน แต่กระแสกลับดังไม่สู้ของคุณชินพร สร้าง แต่กระนั้น คนพื้นที่ต่างก็หวงแหนของที่ได้รับกับมือหลวงปู่ และที่ท่านได้สร้างไว้ก่อนนั้น พระของท่านนั้นก็มีมากมายหลายรุ่น หลายพิมย์ ทั้งพระเครื่อง เสือ ปลัดขิก ฯลฯ ด้วยที่เมื่อย้อนไปแค่สัก 3 ถึง 4 ปี ก่อนนั้น พระเครื่องของท่านนั้น ราคายังไม่แรงอยู่ที่หลักหมื่นต้น ( ทุกวันนี้หลักแสน ) หลักพัน ( ทุกวันนี้หลักหมื่น ) หลักแสน ( ทุกวันนี้หลักล้านถึงหลายๆล้าน ) ด้วยความที่ตัวผู้เขียนเองก็ใช้หลวงปู่ทิม เป็นพระปิดตา เลี่ยมทอง มาก็เกือบ 30 ปีแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนนั้นเช่าได้ที่ร้านอัดกรอบพระ ในราคา1,800 บาท แต่ห้อยเพราะว่าด้วยความที่เชื่อและได้อ่านประวัติ หลวงปู่ และราคานั้นก็ถือว่าแพงอยู่นะแต่ชอบก็เลยใช้มานาน แต่ว่าตอนนั้น ยังไม่มีใครที่จะรู้จักมากนัก เพราะว่าพระเก๊ ยังไม่มีเลย ถ้าเช่าก็เช่าได้เลย ไม่มีของปลอม แต่ว่าาทุกวันนี้ ถ้าท่านจะเช่าหา ก็ควรให้ผู้รู้ดูให้จริงๆ หรือไม่ก็เข้าไปเช่า จากเวปที่มีมาตรฐานจริงๆ เพราะว่าของทำเลียนแบบ ชนิดที่ว่า ตำหนิติดชัด ทุกรายละเอียด ท่านต้องศึกษาก่อน ที่จะเช่าพอควร และควรจะเช่าจากผู้ที่มีความรู้ด้วย แม้ราคาจะแพงหน่อย แต่ก็รับรองว่าดีแน่นอน ด้วยความหวังดี จากเรา ขอบารมีหลวงปู่ จงปกป้อง และคุ้มครองทุกท่าน ให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ คิดสิ่งใด สุขสมหวังดังหมายทุกประการเทอญ