วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

การก่อการร้าย

                  ตอนนี้ประชากรโลก ต่างหวาดผวา กับเรื่องการลักพาตัวไปตัดหัว และการจับไปเรียกค่าไถ่ ของกลุ่มก่อการร้าย ที่ขึ้นชื่อตอนนี้ก็ไม่เห็นจะพ้น กลุ่มกอ่การร้าย ไอด้า ที่ได้แยกตัวมาจากกลุ่ม อัลกออิดะห์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็มีจุดมุ่งหมาย เพื่อ ๑. เพื่อสร้างความยอมรับ ในทุกระดับชั้น และการสนับสนุนในทุกๆด้าน ๒. ทำให้รัฐบาลนั้นแก้ไขอะไรบางอย่าง ที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจรัฐโดยตรง ๓. ต่อต้านกลุ่มบุคคลโดยการสร้างสถานการณ์ ทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย  ๔. ทำให้รัฐบาลตอบโต้ โดยใช้สถานการณ์รุนแรง ทำเกินกว่าเหตุ ๕.สนับสนุนการกบฎ และการปฎิวัติ กระจายความวุ่นวายให้เกิดทั่วประเทศ เพราะเป็นการทำให้ภาครัฐอ่อนแอ และมีปัญหาในการพัฒนาประเทศ ความต้องการก็คือ ต้องการกำลังทหาร อาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด เครือข่ายคอมฯ เครือข่ายการสื่อสาร รวมไปถึงด้านพลังงาน ซึ่งตอนนี้ทางด้าน ไอด้า ก็ได้ยึดบ่อน้ำมันในตะวันออกกกลางได้หลายแห่ง และก็มีรายได้จากการขายน้ำมัน วันละหลายพันล้านดอลล่าร์  สิ่งที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวมากคงเป็นการกระทำที่ไม่มีรูปแบบ และเป็นการกระทำที่เกิดความเสียหาย โดยใช้ความรุนแรง และไม่สนใจถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต่อชีวิต และทรัพย์สิน ซึ่งการแพร่ระบาดของกลุ่มก่อการร้าย นับวันยิ่งเพิ่มความน่ากลัวก็คือ การสวมรอยเข้ามาในหลายพื้นที่ โดยส่วนมากจะแฝงเข้ามาในทุกรูปแบบ และที่แน่นอน น่าจะมีอยู่ทั่วโลก แต่เป้าหมายในตอนนี้ก็น่าจะเป็นประเทศแถบยุโรป ก่อนหน้านี้ก็เป็นที่ประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นเหตุสลดใจไปทั่วโลก กับเรื่องการล้อเลียนผู้นำกลุ่มก่อการร้ายกับหนังสือสือพิมพ์ฉบับนึง ทุกวันนี้ก็ทำการหาคนเข้ากลุ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ โดยเน้นเด็กวัยรุ่นและสามารถที่จะล้างสมองได้ด้วย ซึ่งเมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มแล้วก็จะยอมแม้แต่ชีวิตของตัวเอง โดยครั้งหนึ่งที่อาจจะคล้ายฮิตเลอร์ ก็เป็นได้
                                                                     
                 ไอเอส ( Islamic State ) เป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มนักรบ หลายชนเผ่า หลายเชื้อชาติ ที่เกิดขึ้น พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นยุคของสงครามอิรัก เมื่อก่อนนั้นเป็นกลุ่มนึงที่แตกสาขามาจาก อัลกออิดะห์ ซึ่งก็มี อุสมานบินลาเดน เป็นหัวหน้า และได้ถูกสังหารเมื่อปีก่อน ซึ่งปัจจุบัน กองกำลัง ไอเอส ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งมีการรวมนักรบทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศ อเมริกาฯ ยุโรป และตะวันออกกลาง โดยได้เปลี่ยนศาสนามานับถือศาสนาอิสลาม ส่วนมากกก็จะถูกปั่นหัวทางสังคมออนไลน์ ผู้นำปัจจุบันนั้น ก็คือ อะบู บากา อัล แบกกาดี ซึ่งตามารายงานก็ระบุว่าเขานั้นเป็นลูกครึ่งอังกฤษ ที่บ้านมีฐานะขั้นเศรษฐี มีการศึกษาดี ทำตัวลึกลับ ไม่เล่นและไม่สนสังคมออนไลน์ ด้านการเงินที่มีรายได้เข้ามาสนับสนุนกลุ่มนั้น ก็เป็นการครองบ่อน้ำมัน ๑๑ บ่อ ในประเทศอิรัก และซีเรีย และในเขตที่ยึดมาได้ มีแหล่งกลั่นน้ำมันอีก ๒ แห่ง เมื่อเข้าไปยึดครองเมืองใดได้ก็จะปล้นธนาคาร และกรรโชกทรัพย์ และรายได้อีกทางก็คือการนำวัตถุโบราณในเขตที่ตัวเองยึด ได้ส่งขายให้กับประเทศตุรกี ความเหี้ยมโหดที่ไอเอสทำนั้นน่ากลัวมากก็จะเป็นการตัดคอตัวประกัน และล่าสุดก็เป็นการเผาทีั้งเป็นนักบินจอร์แดน การที่ไอเอสนั้นสามารถ ล้างสมองคนได้นั้นก็เป็นวิธีที่ทำให้สมาชิกที่กลุ่มนักรบนั้น ยอมที่จะตายไม่ว่าจะเป็นการระเบิดฆ่าตัวตาย ( ระเบิดพลีชีพ )  การเข้าถึงไอเอสนั้นทำได้ยาก เพราะว่าผู้ที่เข้ามานั้น ส่วนมากก็จะเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์ ตรงกัน ปละถูกล้างสมองให้เกิดความกล้าและไม่กลัวตาย ซึ่งการก่อการร้ายก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน และประเทศใดที่ประกาศ ให้การสนับสนุนกับการต่อต้าน ไอเอส ก็จะจัดการเท่าที่ทำได้ ซึ่งเมื่อประเทศญี่ปุ่น ให้การสนับสนุนสหรัฐ นั้น นักข่าวญี่ปุ่นก็โดนจับและได้ทำการสังหารด้วยการบั่นศรีษะ ซึ่งหลังจากนั้น ประเทศญี่ปุ่นก็ประกาศที่จะสนับสนุนต่อไป และห้ามประชาชนญี่ปุ่นเดินทางไปประเทศตะวันออก ซึ่งหลายประเทศจึงมีการเฝ้าระวังภัยจากกลุ่มก่อการร้ายอย่างเข้มงวด ไมว่าจะเป็น อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศแถบยุโรป ซึ่งนายกอังกฤษ นายเดวิด คาเมรอน ได้กำชับให้กองกำลังตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ในทุกพื้นที่ และประเทศฝรั่งเศสก็ยกแผนการต่อต้านการก่อการร้ายในระดับสูงสุด ด้วยเหตุนี้ประเทศแถบยุโรปจึงจะมีการรวมตัวกัน เพื่อทำการต่อต้านไอเอสอีกด้วย แต่การที่จะเข้าไปยึดคืนและทำลายที่ตั้ง ที่รู้อยู่นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะว่าด้วยเป็นประเทศที่ไม่รู้จักและชำนาญพื้นที่ และการที่ผู้ก่อการร้าย
นั้นก็มีการวางกับระบิด ไว้ทั่วพื้นที่ ทำให้ยากแก่การเข้าถึง แม้จะมีการทิ้งระเบิดโดยใช้เครื่องบินไร้คนขับก็ตามที ก็ยังไม่สามารถที่จะหยุด ไอเอสได้เลย
                                                                         
                 ประเทศไทยนั้น ก็มีโจรก่อการร้ายที่เรียกว่า โจรใต้นั้น ก็มีข่าวให้เห็นออกอยู่ทุกวัน โดยมีการมุ่งหมายที่จะแบ่งแยกดินแดน เป็นรัฐอิสระปัตตานี โดยเล็งที่ทหารเป็นหลัก ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลยุคไหนนั้น ก็ปราบไม่หมดเสียที ซึ่งก็มีการลอบยิง วางระเบิด และการเผาสถานที่ราชการอยู่เนืองๆ ด้วยสาเหตุนั้น ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดแต่ส่วนหนึ่งก็ยังคิดว่า มาจากเรื่องผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุน ที่มาจากเรื่องของการค้าสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ยาเสพติด ของหนีภาษีเป็นต้น ซึ่งทางราชการนั้น ก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ แต่ก็มักจะเกิดเหตุการณ์ ขึ้นไม่มีเว้นวัน ทั้งการวางระเบิด การยิงเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็มีการสูญเสียแทบทุกวัน ตั้งแต่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้น ไม่สงบแต่มีการสูญเสียที่คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น ก็ยอมที่จะทิ้งถิ่นฐานที่ทำกิน ออกมาอยู่ที่จังหวัดที่ปลอดภัยกว่า เพราะว่ากลุ่มก่อการร้ายนั้น ไม่เลือกที่จะทำร้าย และไม่สนใจว่าเป็นใคร โดยการที่จะมีการก่อการร้ายได้นั้น ก็ต้องมีการสนับสนุนอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อครั้งก่อนนั้น ก็มีหลายสำนักวิเคราะห์ ว่าน่าจะเป็นประเทศใกล้เคียงที่ให้คอยให้การสนับสนุน เพราะว่าต้องการดินแดนนั่นเอง ซึ่งเมื่อก่อนนายกคนเก่าของมาเลเซีย ได้กล่าวว่าถ้ายก ๓ จังหวัดให้มาเลฯ แล้วรับรองสงบแน่นอน จะไม่ให้มีแม้กระทั่งการทำร้ายร่างกายกันเลยทีเดียว ก็เลยทะเลาะกันอยู่หลายวัน แต่ถ้าเรามองในด้านที่เรานั้น ต้องการสันติ ก็น่าที่จะถามความเห็นของท่านที่ว่า จะต้องทำอย่างไรถึงจะสงบแบบนั้นได้ หรือว่าไทยนั้นยังไม่อยากให้สันติสุขเกิดที่ใต้ ถ้าบอกว่าสาเหตุนั้นมาจากไหนนั้น ก็ไม่มีใครที่บอกได้ชัดเจน ปลายครั้งที่บอกว่า ทำเพื่อศาสนานั้น คิดว่าคงไม่จริง เพราะว่าไม่มีศสานาใด
ที่สั่งสอนให้คนเรานั้น เข่นฆ่ากันอย่างแน่นอน ถ้าจะบอกว่าต้องการที่จะเป็นรัฐอิสระนั้น ก็ไม่ได้เพราะว่าเป็นกลุ่มคนที่เพียงกลุ่มไม่ใหญ่ คือประมาณ ๒ - ๓ พันคนเท่านั้น ซึ่งหลายครั้งก็มีการเจรจา แต่ก็ไม่ได้ระบุหัวหน้าไว้อย่างชัดเจน และไม่มีการสั่งการกันได้จริง จึงยังไม่รู้ว่าใครคือหัวหน้าโจรใต้กันแน่ ส่วนอีกเรื่องที่กล่าวก็คือ ย้อนไปก่อนสมัยรัฐกาลที่ ๑ นั้น ประเทศไทยนั้นมีอาณาจักรที่กว้างใหญ่กว่าในปัจจุบันมาก รวมไปถึงประเทศมาเลเซีย หลายส่วนด้วนกัน เพราะคิดว่าปัตานีนั้น เใื่อก่อนก็เป็นของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมาเสียดินแดนเมื่อสมัยรัฐกาลที่ ๕ แก่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก่อนนั้นก็เข้ามาตีหาเมืองขึ้นไปทั่วโลก ส่วนอีกเรื่องที่สัณนิฐานก็มาจากการที่ ผู้ก่อการร้ายนั้น ก็มาจากครอบครัวที่ยากจน และได้รับการสนับสนุนการเงินจากใครหรือที่ใดสักแห่งให้ทำการก่อการร้ายไม่ให้สงบ และจะได้ครัวะ ๒ ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นการดึงไม่ให้ประเทศไทยสงบ ถ้าสงบก็จะพัฒนาไปได้ดีกว่า อีกหนึ่งวิเคราะห์ ก็น่าจะเป็ฯเรื่องของการขุดคอคอดกระ ที่จะทำให้การเดินทาง ขนส่งสินค้า ผ่านไปยังประเทศเอเชียใต้นั้น รวดเร็วขึ้น และประเทศไทยนั้นได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล ส่วนอีกเรื่องที่ทิ้งไม่ได้ก็คือ การที่ ๓ จังหวัดภาคใต้นั้น มีทางออกทะเลที่เหมาะแก่การลักลอบ ขนส่งสินค้าผิดกฎหมายทั้งหลาย ทำให้กลุ่มนายทุนนั้น ต้องการที่จะทำการลักลอบทำการค้าที่สะดวกต่อไป เมื่อยังไม่รู้สาเหตุและผู้การสนับสนุนการกอ่การ้าย ก็จะยังไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้ แต่ที่มาจากผลประโยชน์ของมนุษย์ นี่ละเป็นตัวการสำคัญ ขอเพียงว่า ให้ทุกคนยอมรับและนำบทลงโทษที่มีอยู่นั้นมาใช้อย่างสูงสุด เมื่อคนเกรงกลัว สิ่งที่เรียกว่าความสงบนั้นก็น่าจะกลับคืนมาไม่มากก็น้อย เสนอด้วยความห่วงใย อาหารเสริมลดน้ำหนัก  ถ้ายะลา นราธิวาส และปัตตานี สงบเมื่อไหร่ คงเป็นอีกเมืองที่น่าท่องเที่ยว และน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ความสงบจะเกิดต้องรู้สาเหตุ ถึงจะแก้ได้ เพียงความสามัคคีและความรักสงบจริงใจ

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

วันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย ประเพณีประจำประเทศไทย

                             วันสงกรานต์ เป็นวันหยุดประจำปีวันหนึ่งของไทย และเป็นการสืบสานประเพณี ที่มีมาแต่ครั้งอดีต ซึ่งก็จะตรงกับช่วงที่โรงเรียนทั้งหลายหยุดด้วย เป็นพิธีฉลองปีใหม่ของไทย เป็นวันแห่งครอบครัว วันแห่งการเอื้อาทร เป็นวันที่ครอบครัวจะได้อยู่รวมกัน และการขอพรจากบิดา มารดา และผู้ใหญ่ที่เรานับถือ เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีตาต่อบรรพบุรุษ ที่ล่วงลับไปด้วย
ซึ่งก็ได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นประเพณี ที่ทำบุญ นำทรายเข้าวัดเพื่อก่อเจดีย์ ทราย แต่ครั้งในอดีตก็เพื่อที่จะเป็นการนำทรายเข้าไปสร้างศาสนะสถานในวัดนั่นเอง และเป็นการทำบุญตักบาตร ในตอนเช้าก่อนที่จะอวยพร เล่นน้ำกันในภายหลัง ซึ่งปัจจุบันประเพณี ที่ดีงามนี้ก็ได้แผ่ขยายไป เป็นวงกว้าง ทั่วประเทศไทย โดยประเพณีนั้น ที่เป็นวันหยุดอย่างเป็นทางการนั้น ก็คือวันที่ 13 เมษายน
ของทุกปี แต่ที่นิยมและโด่งดังไปทั่วนัั่นก็มีที่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ผู้คนนั้น ให้ความนิยมไปท่องเที่ยวกันมาก และก็มาเป็นสงกรานต์พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดดยจะจัดในวันที่ 20 เมษายน ส่วนอีกสถานที่คือเมืองพัทยา ที่เรียกว่าประเพณีไหล คือจะจัดงานสงกรานต์ ครั้งละเป็น 10 วัน เลยทีเดียว โดยวันที่ 13 เมษายนนั้นก็จะเรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า
วันเนา และวันที่ 15 เมษายนเรียกว่า วันเถลิงศก ซึ่งบางครั้งวันสงกรานต์ก็อาจจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 14 เมษายน ก็ได้เช่นกัน คำว่าสงกรานต์ นั้นมีความหมายตามภาษาสันสกฤต ว่า ผ่าน หรือ การเคลื่อนย้าย ความหมายคือ การเคลื่อนย้ายของจักรราศี เป็นการนับที่มาจากประเทศอินเดีย ชื่อนางสงกรานต์ มีดังนี้ คือ วันอาทิตย์ มีชื่อว่า นางทุงษะเทวี วันจันทร์ ชื่อนางโคราคะเทวี วันอังคารชื่อ
นางรากกษสเทวี วันพุธ นางมณฑาเทวี วันพฤหัสบดี ชื่อนางกิริณีเทวี วันศุกร์ นางกิมิทาเทวี ส่วนวันเสาร์ ชื่อนางมโหธรเทวี
                                                                             
           ความเป็นมาที่เป็นตำนานตามความเชื่อ ว่า เมื่อโบราณกาล มีบุตรของเศรษฐี ชื่อ ธรรมบาลกุมาร เป็นผู้ที่รู้ภาษานก จบไตรเพท เป็นอาจารย์บอกมงคลแก่มนุษย์ทั้งหลายเมื่ออายุเพียง ๗ ขวบ ซึ่งโลกตอนนั้นก็นับถือ ท้าวมหาพรหม  กบิลพรหมองค์หนึ่ง ตรัสว่า มาทำสัญญา ทายกันสามข้อ ใครแพ้ก็ให้ตัดหัว ทายปัญหา ๓ ข้อ ดังนี้  ๑. เช้าราศี อยู่ที่ไหน  ๒.กลางวันราศีอยู่ที่ไหน ๓. ค่ำราศีอยู่ที่ไหน ฝ่ายธรรมบาร ขอเวลา ๗ วัน แต่เวลาล่วงมา ๖ วันแล้วก็ยังหาคำตอบไม่ได้ จึงได้มานอนอยู่ใต้ต้น ตาล ๒ ต้น มีนกอินทรี ๒ ตัว ผัวเมีย ทำรังอาศัยอยู่  ครั้นเมื่อพลบค่ำ นางนกจึงถามสามีว่าพรุ่งนี้ จะหาอาหารจากที่ไหน ฝ่ายสามีนก ก็บอกว่า พรุ่งนี้ ไม่ต้องไปหาที่ไหนดอก เพราะว่าจะได้กินศพของธรรมบาลกุมาร ซึ่งจะต้องถูกห่าเสียเพราะว่าตอบปัญหาไม่ได้ ฝ่ายภรรยาจึงถามว่า คำถามมีว่าอย่างไร สามีบอกว่า ๑. เช้าราศี อยู่ที่ไหน ๒. กลางวันราศีอยู่ที่ไหน ๓ . ค่ำราศีอยู่ที่ไหน ซึ่งคำตอบก็คือ ๑ เช้าราศี อยู่ที่หน้า เพราะว่า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างหน้า ๒. เที่ยงราศี อยู่ที่อก เพราะว่ามนุษย์ ทั้งหลายจะเอาเครื่องหอมประทินที่อก ๓. ตอนค่ำราศี อยู่ที่เท้า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้า ครั้นเมื่อธรรมกุมารแก้ปัญหาได้แล้ว ท้าวกบิลพรหม จึงตรัสเรียก เทพธิดา ทั้ง๗ อันเป็นบริจาริกาพระอินทร์มาพร้อมกัน เราจะตัดศรีษะบูชาพระธรรมบาลกุมาร ถ้าศรีษะเราตั้งบนแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก ไว้บนอากาศฝนก็จะแล้ง ลงมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง แล้วก็ตัดศรีษะ โดยให้ธิดานั้น เอาพานมารับเศียรพระบิดา ไว้ แห่ทำปะทักษิน รอบเขาพระเมรุ ๖0 นาที แล้วก็อัญเชิญ ประดิษฐานที่มณฑป ถ้ำคันธุรีเขาไกรลาศ บูชาด้วยเครื่องทิพย์ ต่างๆ แล้วก็ให้เป็นที่ประชุมเทวดา ท้าวเวชสุกันฤมิตรแก้ว ๗ ประการ ชื่อ ถควดี เทวดาทั้งปวงเอามาเถาฉมุลาด ลงมาล้างในสระอโนดาด ๗ ครั้ง แจกกันสังเวยทุกพระองค์ ครั้นถึงกำหนด ๑ ปี ของโลก คือ ๓๖๕ วันนั่นเอง ปีหนึ่งก็ผลัดกันอัญเชิญ เศียรพระบิดา ออกแห่ประทักษินเขาพระสุเมรุทุกปี แล้วกลับไปเทวโลก ซึ่งธิดาทั้ง๗ก็เป็นตามชื่อที่เสนอ ตามวันดังก่อนนี้ มีการทำนายด้วยดังนี้ ถ้าตรงวันอาทิตย์ ข้าวและอาหารการกิน ราคาไม่แพง วันจันทร์ก็จะแพ้ เสนาบดี ท้าวพระยาและนางพญาทั้งหลาย ( หมายถึงนักการเมือง และข้าราชการในปัจจุบัน ) ) ถ้าแอังคารและเสาร์ จะเกิดอันตรายกลางเมือง เกิดเพลิง โจรผู้ร้าย วันพุธ ท้าวพระยาก็จะได้เครื่องบรรณาธิการ วันพฤหัสบดี พระสงฆ์ราชาคณะจะได้รับการเดือดร้อน วันศุกร์ มากด้วยภักษาหารอุดม แต่จะมีลมพายุมาก จะเจ็บตากันทั่วหน้า วันสงกรานต์ เป็นวันกลับบ้าน ที่เรียกได้ว่ากรุงเทพนั้น จะโล่งรถไม่ติด แต่ก็จะมีจามตรอกซอกซอยที่ มักจะมีวัยรุ่นที่ออกมาเล่นน้ำ และจะแต่งรถให้มีเสียงดัง มากลุ่มละหลายสิบ ตระเวณเล่นน้ำ ซึ่งส่วนมากก็มักที่จะลงเอยด้วยการทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกาย รวมไปถึงการฉกชิง วิ่งราว และที่เป็นข่าวบ่อยๆก็จะเป็นการลวนลาม ( แต๊ะอั๋ง)
นั่นเอง เพราะว่าเมาสุรา และด้วยทุกวันนี้ก็มักจะมีการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น และก็มีการเต้นแบบยั่วยวนของผู้หญิงอีกด้วย ซึ่งถ้าผิดแบบนี้ก็มักจะโดนตำรวจเรียกจับปรับ ข้อหาอนาจาร ๕00 บาท เมื่อถึงวันวันหลายจังหวัดก็อยากที่จะจัดงานให้ยิ่งใหญ่เพราะจะเป็นการดึงนักท่องเที่ยวและเป็นการทำรายได้ให้จังหวัดครั้งละมากมายเลยทีเดียว ต่างชาติได้ตั้ง ชื่องานนี้ว่า  " Water Festival " ก็เป็นงานที่เล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำทั้งประเทศ นั้นเอง ทุกวันนี้ก็ยังการจัด ปาร์ตี้ โฟม ที่เรียกได้ว่าดังมากไม่ว่าจะเป็น ถนนข้าวสาร ถนนข้าวเหนียว ถนนข้าวหลาม ยังมีถนนข้าวสวย อีกต่างหาก ซึ่งก็คงจะคิดขึ้นมาเพราะว่า กรุงเทพฯ งานสงกรานต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปนั้นก็คงไม่พ้นถนน ข้าวสาร และสีลม และที่สยาม ซึ่งก็จะเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวและวัยรุ่น นิยมกันไปเล่นน้ำกัน มาก ด้านจังหวัดอยุธยาที่มีการเลี้ยงช้างเพื่อการท่องเที่ยวนั้น ก็ได้นำช้างออกมาร่วมสนุกกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็น อเมซิ่งไทยแลนด์ อีกด้วย
                                                                     
                      สิ่งที่ควรทำในวันสงกรานต์ เป็นต้นว่าการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และเข้าวัดทำบุญก่อเจดีย์ทราย เพราะจะเป็นการบะรุงพระพุทธศาสนาด้วย และก็ควรแต่งกายให้มิดชิด เพราะว่าวัดเป็นสถานที่ๆเรานั้นต้องให้ความเคารพศรัทธา แลัวก็ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา เพราะถือว่าเป็นการทำบุญปล่อยสิ่งมีชีวิตให้มีอิสระ เป็นการให้ชีวิตนั่นเอง ส่วนการนำทรายเข้าวัดก็เป็นการทำให้มีการร่วมแรงร่วมใจ และสามัคคีกันนั่นเอง ส่วนการรดน้ำก็จะเป็นการรดพระสงฆ์ พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสียก่อนแล้วก็ค่อยมารดน้ำดำหัวญาตผู้ใหญ่เพื่อขอพร หลายจังหวัดก็จะมีการแห่ พระพุทธรูป พระสงฆ์ เพื่อให้ประชาชนได้รดน้ำและขอพรเป็นสิริมงคล แก่ตัวเองอีกด้วย ส่วนเรื่องที่ต้องระวังก็จะเป็น พวกมิจฉาชีพ ที่มักจะแฝงตัวเวลาที่มีการเล่นน้ำ แล้วเดินเบียดเสียด ก็จะทำการล้วงกระเป๋าฉกของมีค่า รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ ที่มักจะโดนน้ำเสียหายได้ ควรมีบรรจุภัณฑ์ ที่กันน้ำและคล้องคอได้ด้วยเพื่อความปลอดภัยอย่านำติดตัวไปด้วยจะดีกว่า รวมไปถึงการที่ถูกลวนลาม ที่เล่นเกินกว่าเหตุ เพราะปัจจุบันไม่มีการให้เล่นแป้งแล้วโดยเฉพาะการใช้แปป้งลูปแก้ม มีการหอมแก้ม แตะเนื้อต้องตัว ซึ่งสังคมไทยนั้นก็ให้ความสำคัญขึ้นมาแล้ว การเล่นที่เรียกว่า ห่ามเกินไปนั้น ก็จะถูกตักเตือนเหมือนกันถึงวันนี้จะมีกฏอัยการศึกก็คิดว่า คงสนุกเหมือนกัน ต่อด้วยสิ่งี่ต้องระวังแม้ตัวเรานั้นจะไม่ได้ก่อ แต่อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุเนื่องจากคนเมาสุรา และการโดนลูกหลง จากการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุนั้นที่มักจะเกิดมามีหลายสาเหตุ อย่างเช่นการที่มีคนจำนวนมากที่ต้องการที่จะกลับบ้าน และต้องขับรถกลับ ทำให้มีการเกิดนทาด้วยรถเป็ยจำนวนมาก ไม่น้อยที่มีการดื่มสุราด้วย
                        ซึ่งหลายครั้งก็มักจะมีอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ รวมไปถึงรถที่ให้บริการ ที่จะต้องทำเวลาวิ่งให้หลายรอบทำให้ร่างกายนั้น อ่อนเพลีย และปัญหารถขาออกจากกรุงเทพฯ นั้นติดเป็นอย่างมาก ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และการไม่สวมหมวกกันน๊อคด้วย และที่อยากฝากที่เป็นพ่อค้า แม่ค้าหัวใส มักจะฉวยโอกาส ขึ้นราคาอาหารการกิน ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ข้าวตามสั่ง เพียงแค่เราขายเท่าเดิมก็ขายดีเป็นเทน้ำ เทท่าแล้วกระมังไม่ต้องไปบวกเพิ่มมากมายเพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันในยุคที่เศรษกิจไม่ดี อย่าเข้าใกล้ในบริเวณที่มีการกินสุราของวัยรุ่น และก็เป็นการหลบหลีกเรื่องที่จะเกิดขึ้นด้วยนั่นเอง แต่ก็เลี่ยงไม่พ้นแทบทุกปีเรานั้นก็จะได้ดู ได้ยินข่าวเสมอว่า มีอุบัติเหตุ รวมไปถึงที่มักจะมีการทะเลาะวิวาท ที่มักจะทำร้ายกันด้วยอาวุธ และเสียชีวิตทุกปี เพราะการขาดสติ และเรื่องหลักก็มาจากการดื่มสุรานั่นเอง  ด้วยความปราถนาดี อาหารเสริมลดน้ำหนัก ห่วงใยทุกคนนะคะ ฝากกับการเล่นสงกรานต์ที่สุภาพ และรักษาให้เป็นเทศกาลแห่งความสุข ที่จะประทับใจใครต่อใครอีกนานเท่านานนะคะ และอยากให้มีแต่คนกล่าวถึงในทางที่ดีด้วยคะ
                                                                         

วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

งูเข้าบ้าน ภัยใกล้ตัว ที่น่ากลัว

                     ประเทศไทยนั้น ด้วยสภาวะสังคมเมือง ที่แตกต่างจากครั้งเมื่อสมัยก่อน กล่าวคือ ถ้าเราย้อนไปประมาณ 10 กว่าปีก่อนหรือก่อนนั้น โลกนี้ยังมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติอยู่มาก ทำให้เข้าถึงเห็นของจริง การเห็น งู นั้นอาจจะเป็นเรื่องปรกติเลยก็ว่าได้ แล้วด้วยการที่เจอบ่อยนั้นเองก็เกิดการชิน  ไม่ได้ตกใจหรืออะไรไปมากมาย นอกเสียแต่ผู้หญิงที่เมื่อเจองู นั้นก็แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนนั้นยังเคยมีการขายเลือดงู สดๆที่สวนลุมพินี อยู่เลยแก้วละ 100 บาท เพราะว่าคิดว่าเป้นการรักษาโลก ส่วนมากก็จะเป็นพวกงูพิษ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นงูเห่า งูจงอาง แต่ทุกวันนี้เป็นสัตย์สงวนไปแล้วคงไม่มีแล้วละงูนั้น ถ้าเราเจอ ก่อนอื่นที่เรานั้นจะตกใจไปก่อนก็เพราะว่า จะเป็นอันตรายนั่นเอง เพราะเรานั้นคิดว่า งูไม่รู้ละว่างูอะไร คิดไว้ก่อนว่าโดนกัดนี่ ตายแน่นอน แล้วเดี๋ยวนี้ ก็พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะเจอของจริงทุกวัน เลยรู้ชนิด จนบางครั้งจับมากินกันด้วยซ้ำไป มาตอนนี้ งูเข้าบ้านเป็รเรื่องที่น่ากลัวมาก แต่เมื่แก่อนนั้น ตามป่าแค่ละเมาะ ข้างบ้านกก็มีกันแล้ว ทำให้รู้สึกป็นธรรมดา แต่ทุกวันนี้
ก็ยังมีการสร้างอาชีพเสริมให้เป็นรายได้ของชาวบ้านก็มีอยู่ มากที่มักจะออกจับงูในช่วงฤดูหน้าแล้ง มากมาย แต่ที่ขึ้นชื่อการแสดงงูที่ดังมากของประเทศไทยก็ที่ขอนแก่น หมู่บ้านงู แห่งบ้านโคกสง่า อำเภอน้ำพอง ที่มีทั้งการแสดงงู และก็การขายยาสมุนไพรด้วย เป้นการเสริมรายได้ให้กับชาวบ้าน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ. 2494 ซึ่งก็มีการแสดงชกมวยกับงู ทั้งงูเห่า งูจงอาง งูทางมะพร้าว ฯลฯ งูนั้นมีมากมายหลายสายพันธ์
                                                                   
                   งูเป้นสัตย์ที่ออกลูกเป็นไข่ ฤดูผสมพันธ์จะอยู่ระหว่างเดือน สิงหาคม ไปถึงเดือน มกราคม พิษงูนั้น ก็มี 2 อย่างคือทำลายระบบประสาท และทำลายภูมิต้านทานโลหิต งูนั้นจะลอกคราบเมื่อโตขึ้น คือสถาพการขยายของลำตัวก็จะลอกผิวหนังนั้นออก ประเทศไทยนั้นมีงูแทบทุกภาค แต่งูเห่านั้นก็จะพบมากที่เขตภาคกลาง ไทยมีงูเท่าที่มีการศึกษาก็พบว่ามีงูอยู่ 180 ชนิด มีพิษ 46 ชนิด มี 2 ประเภท คือ 1. งูมีพิษที่อาศัยอยู่บนบก 2. งูมีพิษที่อาศัยอยู่ในน้ำ งูเป็นสัตย์ที่ไม่มีขา ไมมีเปลือกตา   แต่ด้วยที่ปราดปรียว ว่องไว ในการเคลื่อนที่ ประกอบด้วยที่มีพิษส่วนมากร้ายแรง ทำให้เวลาที่เจอนั้น ทำให้คนเราหวาดผวากันใหญ่ และงูนั้นก็จะกินสัตย์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นอาหาร มักออกหากินในเวลากลางคืน แต่ก็มีหลายชนิดที่กินกันเองอย่างงูเห่า และงูจงอาง และงูนั้นก็มักทีจะกินคางคก กบ คางคกจะมียางพิษ ซึ่งโบราณนั้นบอกว่า ที่กินคางคก จะนำไปเสริมพิษให้กับตัวมันเอง  รตาของมันก้จะปิด ะบบภายนอกมีลำตัวคล้ายหลอดยาว ไม่มีแขน ไม่มีหู ไม่มีม่านตา เวลาที่มันนอน รูตาดำ ( pupil ) ในตาของมันก็จะปิด ปากสามารถที่จะอ้าและขยายออกได้กว้างกว่าส่วนหัวหลายเท่า เพราะว่าหลายครั้งที่มีข่าวงูกินสุนัข หรือบางครั้งก็มีที่กินวัวด้วยก็ยังมี สวนลิ้นงูนั้น มีสองแฉกเอาไว้จับทิศทางและความร้อน ระบบภายใน ก็จะีระบบสืบพันธุ์ รวมทั้งระบบหายใจ และการไหลเวียนของโลหิต งูนั้นหายใจทางปากและหลอดลม เชื่อมกับปอดที่อยู่ด้านขวาเพียงด้านเดียว ซุ้งปรกติงูจะมีปอดใหญ่โดยเฉพาะ งูน้ำ งูมีหัวใจ สามห้อง ระบบย่อยอาหารของงูนั้น จะเป็นแบบกลืนเหงื่อเข้าไป แล้วจะขับน้ำย่อยออกมา เพื่อเป็นการย่อยเหยื่อ ส่วนอาหารที่ไม่ย่อยก็จะถูกขับออกมาทางทวาร ในผิวหนังของงูโดยส่วนมากนั้นก็จะมีเห็บงู เกาะตามผิวหนังด้วย ซึ่งก็คคอยที่จะกินอาหารจากผิวงู หรือไม่ก็ดูดเลือดงูก็เป็นได้ การสังเกตุส่วนมากงูที่มีพิษ จะเลื้อยช้า อาหารงูนั้นก็หลากหลาย ทั้งสัตว์ ตัวเล็กอย่าง ลูกไก่ จิ้งจก หนู กระต่าย ไก่ป่า เก้ง และแม้แต่สัตว์ใหญ่ หมู กวาง ก็เป็นอาหารงูได้ทั้งสิ้น การผสมพันธุ์ ของงูนั้น พอถึงฤดู ก็จะออกมารวมกลุ่ม แต่งูตัวเมียนั้น สามารถที่จะเก็ยสเปิร์มของตัวผู้ไว้ในตัว จะกว่าจะถึงภาวะที่เหมาะสมแล้วจึงค่อยผสมพันธุ์ก็ได้
                                                                               
                      ส่วนงูที่เจอกันมากที่คล้ายงูอนาคอนดามีขนาดใหญ่ และก็มีอยู่ชนิดหนึ่งที่คนชอบนำมาเลี้ยงก็มี อย่างงูหลาม นี่เป็นงูที่ คล้ายกับงูเหลือม แต่งูเหลือมนั้นจะดุกว่า ไม่มีพิษ แต่เจอเหยื่อก็จะใช้วิธีการรัดจนเหยื่อน้้นกระดูกแหลกละเอียด และสามารถที่จะกลืนเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวได้หลายเท่า งูนั้นชอบอยู่ในที่รกชื้น ในบางประเทศบางศาสนานั้น นับถือกันแบบแปลก ที่เมื่อลูกเด็ก ก็จะนำเข้าไปใกล้งู คือปล่อยเด็ก เอาไว้กับงูเห่า ถ้างูไม่ฉกก็ถือว่า เด็กจะมีสุขภาพที่แข็งแรง ถ้าโดนฉกก็ถือว่า แล้วกันไป ซึ่งก็มีลงทาง ยูทรูบ ให้เห็นกันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั่วโลกแอนตี้อยู่เหมือนกัน ส่วนมากก็จะออกมาทางโชเชี่ยลกันมาก ทุกวันนี้สำคัญตรงที่โครงสร้างบ้านด้วย ที่ส่วนมากมักจะเห็นงูเข้ามาที่ซักโครก ขดตัวอยู่นั้น ก็จะเป้นการจัดการกับระบบบำบัดน้ำ เพราะว่าเขาไม่ขุดท่อสำหรับกักอุจาระ แต่จะอาศัยท่อเดียวกับระบบ ออกท่อระบาายน้ำ ทำให้งูนั้นเข้ามากินหนู และวก็จะตรงเข้ามายังท่อห้องน้ำได้อย่างง่ายนั้นเอง งูนั้นเป็นสัตว์ที่ถ้าเราเจอแบบประชิดตัว คืออยู่ในระยะที่จะโดนฉกได้นั้น ให้เรานั้นยืนอยู่เฉยๆ ห้ามขยับ
ห้ามก้าว วิ่ง เพราะจะทำให้งูนั้นตกใจและจะฉกเราได้ เมื่องูเข้าบ้านโบราณก็บอกว่าเป็นเรื่องดี แต่ประทศลาวบอกว่าไม่ดี ต้องทำบุญ และถ้าเห็นงู ให้บอกคำว่าโชค เพราะว่าเชื่อกันอย่างนั้น แต่ทางที่ดี งูนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นถ้ามีบ้านก็ให้เอาน้ำมันเครื่องเก่านั้น ไปราดรดบริเวณรอบบ้านก็ยังดี เพราะกลิ่นนั้นจะทำให้งูนั้นไม่อยากจะเข้ามาใกล้ งูเป็นสัตว์ที่กลัวคนมากกว่า และชอบอยู่ในที่รกชื้น และสงบ ดังนั้น ให้หมั่นกวาดบ้าน เก็บบ้านอย่าให้รก และหมั่นสำรวจดูรอบบ้านด้วยนะคะ จะเป็นการป้องกันที่ดีคะ ถ้างูเข้าบ้านให้รีบโทรหากู้ภัย หรือไม่ก็หน่วยงานดับเพลิงซึ่งตอนนี้ก็มีบริการด้วยนะคะ และด้าน อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็ขอเป็นส่วนเล็กๆที่จะช่วยให้ทุกท่นได้อุ่นใจ เมื่อยามภัยมานะคะ แต่ถ้าเจองูแปลกนั้นอย่างงูเห่าเผือก จงอางเผือกนั้น อย่าไปฆ่านะคะ เพราะว่ามีราคาแพงมากนะคะ พบหาได้ยากมากคะ เขาว่าแค่ลูกก็ราคาเริ่มที่แสนแล้ว คำว่าสัตว์เผือกนั้น ตา ต้องมีสีแดงด้วยนะคะ สัตว์ป่านั้น ก็ถือว่าเป็นอันตรายกับคนแทบจะทุกชนิด ฝากท่านที่ชอบเลี้ยงสัตว์ ด้วยว่า การเลี้ยงนั้นก็มีสัตว์หลายประเภทที่เป็นสัตว์คุ้มครองและสงวน ควรศึกษากันก่อนนะคะ

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

กีฬานำมาซึ่งความสุข จริงๆนะ

                    เมื่อตอนนี้ประเทศไทยก็ต้องบอกว่า มีความนิยมการเชียร์กีฬามากขึ้น วัดได้จากการที่เวลามรการแข่งขันกีฬา นัดสำคัญนั้น ก็จะทำให้รถนั้นว่าง ( ไม่ถึงกับรถติดคือ ไปได้แบบโล่งๆ ) ซึ่งนานๆเกิดครั้ง เหมือนกับเหตุมหัศจรรย์ ก็ไม่ปาน ไทยนั้นกีฬาที่เก่งที่ว่าอยู่แถวหน้าอาเชี่ยน ก็เป็นเซปักตะกร้อ การกีฬานั้นก็สร้างคนให้รวยกันมานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไทเกอร์วู๊ด นักกอร์ฟ เดวิด เบกแคมป์ นักฟุตบอล แมชชี่ นักฟุตบอลระดับโลกชาวอาร์เจนติน่า โรนัลโด้ นักฟุตบอลชั้นแนวหน้าของโลก เหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้คนนั้นมีแรงบันดาลใจที่จะเล่นกีฬาให้เก่ง และจะได้มีเงินทองตามมาด้วยนั่นเอง ส่วนชื่อเสียงก็เป็นของแถม ถึงแม้ว่าเศรษกิจจะไม่ดี การทำมาหากินฝืดเคือง แต่ด้านความสุขที่ได้เชียร์กีฬานั้น ก็ทำให้มีความสุขได้บ้างเป็นครั้งครา แล้วก็ลืมทุกข์ไปได้บ้างด้วย เมื่อมีเรื่องของกีฬาก็ไม่พ้นเรื่องของการเดิมพัน และการพนัน
เข้ามามีส่วนด้วยเสมอ การทายผลบางส่วนก็เล่นเพียงเพื่อความสนุกกับเพื่อนฝูง และคนรู้จัก แต่หลายคนก็เล่นแบบติดเป็นอาชีพกันเลยทีเดียว แต่ก็เป็นการเพิ่มรสชาดให้กับการเชียร์กีฬานั่นเอง เมื่อคนไทยตอนนี้ ก้เริ่มที่จะเชียร์ฟุตบอล ทั้งวอลเล่ย์บอล ซึ่งก็ต้องถือว่ามีฝีมือระดับที่ว่า ดูแล้วสนุก มีลุ้นมีเสียวตลอด ที่ฮอตที่สุดตอนนี้ก็ไม่หนี แมชชี่ เจ ของไทยที่ตัวเล็กแต่คล่องตัว เป็นขวัญใจและแรงบันดาลใจให้น้องๆที่ตัวเล็กมีกำลังใจ มากขึ้นเมื่อกล่าวไปก็รวมไปถึงนักวอลเล่ย์บอลหลายคนที่นำความสุขมาให้กับนไทย ที่ทคุ้นๆก็จะเป็น ปลื้มจิต ที่เวลาลงเล่น บอลเร็วต้องยกให้เลย ส่วนมือเซตที่ติดอันดับโลกก็อยู่ในทีมชาติไทยชุดนี้เอง มาดูกันว่าทั้งสองทีมที่ทำให้คนไทยมีความสุขนั้นมีอะไรและใครเป็นใครบ้างนะคะ
                                                                        

                   มาเริ่มด้วย ทีมฟุตยอลทีมชายก่อน ฟุตบอลทีมชาติไทยก่อตั้งมานานแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 ในนามคณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม แข่งขันครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการ แต่เรานั้นไม่อาจรำลึกถึงได้ แต่ตอนนี้ มาแรงอย่างคาดไม่ถถึงเพราะขนาดที่ผู้หญิงที่ว่าไม่อยากที่จะดูบอลก็ต้องชอบเพราะมีทั้งหน้าตาดี และฝีเท้าที่เพื่อนพาดู เมื่อก่อนไม่ชอบตอนนี้ติดจอ ติดขอบสนามกันตรึม เพราะทีมชาติชุดนี้มีทั้งหน้าตาดี การเล่นที่ได้ลุ้นตลอด อย่างมีความสุข
ซึ่งผู้เล่นนั้นประกอบไปด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ชือ่เล่นว่า ตอง อายุ 24 ปี สังกัดทีม สโมสร SCG เมืองทอง ด้วยร่างที่สูงและคล่อง จึงเหมาะกับผู้รักษาประตู ชนินทร์ แซ่เอียะ ชื่อเล่น บาส อายุ 22 ปี สังกัด สโมสรสิงห์ท่าเรือ หมสยเลข 20 วสันต์ ฮมแสน ชื่อเล่น ปิง อายุ 23 ปี สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ใส่เสือ้หมายเลข 8 สราวุธ กัลยาณบัณฑิต ชื่อเล่น แฟลต อายุ 23 ปี สังกัด สโมสรแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ใส่เสื้อหมายเลข 5 ชิติพัทธ์ แทนกลาง ชื่อเล่น แบงค์ อายุ 23 ปี หมายเลข 15  สังกัดสโมสร บุรึรัมย์ ยูไนเต็ด นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม ชื่อเล่น ต้น อายุ 20 ปี ใช้หมายเลข 13 ( เลขนำโชค ) สังกัด สโมสรบีอีซีเทโร พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ชื่อเล่น บาส อายุ 21 ปี หมายเลข 2 เล่นให้สโมสร บีอีซี เทโร  อดิศร พรหมรัตน์ ชื่อเล่น เก่ง อายุ 21 ปี สโมสร บีอีซี เทโร หมายเลข 16 สุริยา สิงห์มุ้ย ชื่อเล่น เทค อายุ 19 ปี หมายเลข 3 สังกัดสโมสร เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด ปกเกล้า อนันต์ ชื่อเล่น ปก สวมเสื้อหมายเลข 10 สังกัดสโมสร เพื่อนตำรวจ
ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ชื่อเล่น บาส อายุ 21 ปี ใช้เสื้อ 14 สังกัดสโมสร เพื่อนตำรวจ สารัช อยู่เย็น ชื่อเล่น ตังค์ หมายเลข 6 เล่นให้สโมสร เอสซีจี เมืองทอง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ชื่อเล่น ก้อง หมายเลข 4 สังกัดสโมสร ชลบุรี เอฟซี  ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ชื่อเล่น ตั้ม อายุ 21 ปี หมายเลข 17 เล่นให้สโมสร บีอีซี เทโร มาถึงขวัญใจสาวๆ ทั้งสาวแท้ สาวเทียมทั้งหลายแม้ว่าจะบอกว่ามีแฟนแล้วก็ตาม ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาคสคาย ตอนนี้ก็ดังมากมีงาน ถ่ายแบบ เข้ามามากมาย ชาริล ชัปปุยส์ อายุ 22 ปี หมายเลข 7 สังกัดสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ( ช่วงนี้ได้ข่าวว่าเจ็บ หายไวๆนะคะ )  นูรูล ศรียามเก็ม ชื่อเล่น นู อายุ 22 ปี หมายเลข 12 เล่นให้กับ สโมสร ชลบุรี เอฟซี 
มาถึงเก่งเล็ก ( เก่งมากแต่ตัวเล็ก ) แมชซี่ เจ เมืองไทย ชนาธิป สรงประสินธ์ ชื่อเล่น เจ อายุ 21 ปี หมายเลข 18 เล่นให้สโมสร บีอีซีเทโร มีเสน่ห์ เพราะเป็นคนอารมณ์ดี ขวัญใจเด็กๆ  ภิญโญ อินพินิจ ชื่อเล่น จุ๊บ อายุ 22 ปี หมายเลข 11 สังกัด สโมสร เพื่อนตำรวจ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ชื่อเล่น ทู อายุ 22 ปี หมายเลข 19 สังกัด โอสถสภา เอ็ม 150 อดิศักดิ์ ไกรสร อายุ 23 ปี หมายเลข 9 สังกัด สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี่เป็นรายนาม ชื่อนักฟุตบอลทีมชาติไทยชาย แต่ที่ไม่กล่าวถึงก็คงจะไม่ได้เพราะว่าแม้จะไม่ติดทีมชาติ เพราะติดภาระกิจ ที่ต้องไปค้าแข้งอาชีพ ที่สเปน ให้กับสโมสร อัลเมเรีย และตอนนี้ได้กลับมาแล้ว นั่นก็เป็น ธีระศิลป์ แดงดา เชื่อว่าต่อไปทีมชาติไทยคงต้องแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน  ต่อไปนี้ เป็นรายชื่อของนักฟุตบอลหญิง ที่ตอนนี้ ได้ก้าวไปสู่การเล่นระดับโลกแล้วนะ แต่ต้องเข้าใจว่า ระดับฝีมือนั้น ทีมนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยนั้น
ยังเป็นรองหลายชาติเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำให้การกีฬาของประเทศไทยนั้น คึกคักและมีแรงกระตุ้น เป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีทั้ง หมายเลข 1 วราภรณ์ บุญสิงห์ เกิด 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 อายุ 25 ปี สังกัด สโมสรวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย  หมายเลข 18 สุกัญญา ช. เจริญยิ่ง เกิด 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 อายุ 27 ปี สังกัดทหารอากาศ หมายเลข 22 ญาดา เซ่งย่อง 10 กันยายน พ.ศ. 2536 อายุ 21 ปีเล่นให้กับ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ หมายเลข 2 ดารัตน์ ช่างปลูก เกิด 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 อายุ 27 ปี หมายเลข 3 ณัฐกานต์ ชินวงศ์ ไม่ระบุวันเกิด เล่นให้กับ โรงเรียนกีฬาขอนแก่น หมายเลข 4 ดวงนภา ศรีตะลา เป็นกัปตันทีม เกิด 4 กุมภาพันธ์ พศ 2529 อายุ 29 ปี เล่นให้กับกรุงเทพธนบุรี หมายเลข 5 ขวัญฤทัย คุณูปถัมภ์ เกิด 19 ตุลาคม พ.ศ. 2533 อายุ 24 ปี อยู่ทีมวิทยาลัยบัณฑิตเอเชียหมายเลข 9 วารุณี เพ็ชรวิเศษ เกิด 13 ธันวาคม พ.ศ. 2533 อายุ 24 ปี สโมสร ชลบุรี-ศรีปทุม หมายเลข 10 สุนิสา สร้างไธสง เกิด 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 อายุ 26 ปี เล่นให้กับวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย หมายเลข 16 ขวัญฤดี แสงจ้นทร์ เกิด 10 กันยายน พ.ศ. 2536 อายุ 21 ปี มหาวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย หมายเลข 6 พิกุล เขื่อนเพชร เกิด 20 กันยายน พ.ศ. 2531 อายุ 26 ปี  วิทยาลัยบัณฑิตเอเชียหมายเลข 7 ศิลาวรรณ อินต๊ะมี เกิด 22 มกราคม พ.ศ. 2537 อายุ 21 ปี เล่นให้ชลบุรี-ศรีปทุม หมายเลข 8 นภัทร สีเสริม เกิด 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 อายุ 27 ปี เล่นไกลไปถึงต่างแดน สเปรันซษโอซะกะ-ทะกะสีกิ japan
หมายเลข 11 อินทร์อร พันธ์ชา เกิด 27 มกราคม พ.ศ. 2535 อายุ 23 ปี สโมสรชลบุรี-ศรีปทุม หมาลเลข 13 อรทัย ศรีมณี วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2531 อายุ 26 ปี มหาวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย 
หมายเลข 14 สุภาพร แก้วแบน เกิด 4 มีนาคม พ.ศ. 2528 อายุ 29 ปี วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย หมายเลข 17 อนุชศรา หมายเจริญ เกิด 14 กุมภาพันธ์ พศ 2529 อายุ 29 ปี ( เกิดวันแห่งความรัก ) เล่นให้กับทหารอากาศ หมายเลข 24 จารุวรรณ ไชยวงศ์ ไม่ระบุวันเกิด และสังกัด หมายเลข 25 ดุจดาว วาหมงคล ไม่ระบุสังกัด แต่ที่แน่ๆก็เล่นให้ทีมชาติไทย ไม่ระบุหมายเลข ธนัสถา ชาวงศ์  เกิด 19 มิถุนายน พ.ศ. 2532 อายุ 25 ปี  เล่นให้กับ ออสเตอร์ซุนนต์ดีเอฟเอฟ หมายเลข 20 รัตติกาบ ทองสมบัติ  เกิด 7 กรกฏาคม พ.ศ. 2534 อายุ 23 ปี เล่นให้กับวิทยาลัยเอเชียบัณฑิต ดาวเด่น กาญจณา สังข์เงิน เกิด 21 กันยายน พ.ศ. 2539 อายุ 28 ปี เล่นให้กับต่างประเทศ โกอินเตอร์ สเปรันซาโอซะกะ-ทะกะสึกิ หมายเลข  23 นิสา ร่มเย็น เกิด 18 มกราคม พ.ศ. 2533 อายุ 25 ปี เล่นให้กับนอร์ทกรุงเทพ นี่คือรายชื่อนักฟุตบอลหญิงของไทยนะคะ
                                                                                 

                     ที่อยากจะกล่าวถึงอีกกีฬาประเภทที่สร้างควาใสุข ให้กับคนไทยก็คือ ทีมวอลเล่ย์บอลหญิง ที่เล่นตอนไหน ลุ้นมันส์สนุก เชียว ด้วยพัฒนาการอย่างต่อเนื่องสร้างทีมนักกีฬา ทำให้ได้เข้าชิงวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อ ค.ศ. 2007 และก็ได้สิทธิ์เข้าไปเล่นวอลเล่ย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ทีมวอลเล่ย์บอลหญิงไทยนั้น ปัจจุบันในเอเชีย ก็ต้องถือว่าเป็นรองอยู่หลายทีม ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แต่เวลาที่ลงเล่นก็ชนะบ้าง แลลที่เรียกว่าลุ้นกันสนุกทีเดียว (  ด้วยเหตุที่ชอบมวยรองด้วยกระมังคะ ) ในเอเชียที่เห็นก็น่าจะไม่เป็นรองใครแล้วกระมังคะ ยิ่งการแข่งขันซีเกมส์ ไทยเล่นแบบ มาเหนือคะหนักก็เอเชียนเกมส์ ที่มีทั้งระดับหัวๆ แต่ก็สนุกมากเพราะว่ามีลุ้นตลอดไม่ว่าจะเล่นกับทีมทีเหนือกว่าากเพียงไหน ทีมวอลเล่ย์บอลหญิงไทยประกอบไปด้วย 1 วรรณา บัวแก้ว เกิด 2 มกราคม พ.ศ. 2524
สูง 173 เล่นให้ ไอเดีย -ขอนแก่น ตำแหน่งตัวรับอิสระ เบอร์ 2 ปิยะนุช แป้นน้อย เกิด 10พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 สูง 171 เล่นให้ สุพรีม-ชลบุรึ วีซี ตำแหน่งตัวรับอิสระ เบอร์ 3 เอมอร พานุสิทธฺ์ เกิด 7 ตุลาคม พ.ศ. 2531 สูง 179 เล่นให้ ไอเดีย-ขอนแก่น ตำแหน่งบอลหลัก เบอร์ 3 ยุพา สวิทกลาง 14 สิงหาคม พ.ศ. 2534 สูง 166 เล่นให้ อยุธยา-เอ ที.ซี.ซี ตัวรับอิสระ เบอร์ 4 ทัดดาว นึกแจ้ง เกิด 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 สูง 183 cm เล่นให้ ไอเดีย-ขอนแก่น เล่นบอลเร็ว  เบอร์ 5 ที่ทั้งเก่งและสวย ปลื้มจิตร์ ถินขาว เกิด 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 สูง 180 เซนติเมตร เล่นให้ทีม บางกอกกล๊าส วีซี ตำแหน่ง บอลเร็ว ซึ่งบอลที่ถนัดมากก็จะเป็นการขึ้นเร็ว เบอร์ 6 อรอุมา สิทธิรักษ์ เกิด 13 มิถุนายน พ.ศ. 2539 สูง 175  เล่นที่สโมสรญี่ปุ่น เจที มาร์เวลลัส ตำแหน่งบอลหัวเสาหลัก มีลูกตบ และลูกเสิร์ฟที่หนักหน่วงมาก ( มีแฟนๆต้องเกรงใจมากคะ ) เบอร์ 7 หัตยา บำรุงสุข เกิด 12 สิงหาคม พ.ศ. 2536 สูง 180 เล่นให้ทีมนครสีมา วีซี เบอร์ 8 สินีนาฎ โพธิ์เจริญ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 สูง 174 ศรีสะเกษ42 วีซี เบอร์ 9 ชัชชุอร โมกศรี เกิด 6 พฤศจิกายน พศ 2542 สูง 177 เบอร์ 9 คัทลีย์ ปิ่นสุวรรณ เกิด 30 ตุลาคม พ.ศ. 2537 สูง 177 สโมสร ไอเดีย-ขอนแก่น  เบอร์ 16 วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ เกิด 6 มิถุนายน พ.ศ. 2527 สูง 177 เล่นสโมสรนครราชสีมา วีซี เบอร์ 11 วณิชยา หลวงทองหลาง เกิด 8 ตุลาคม พ.ศ. 2535 สูง 177 เบอร์ 12 ฐาปไพพรรณ ไชยศรี เกิด 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 สูง 168 เล่นให้ศรีสะเกษ วีซี  เบอร์ 13 นุศรา ต้อมคำ เกิด 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 สูง 169 เล่นให้ ราบิดา บากู  ซึ่งมีหน้าตาที่เรียกได้ว่า สวยน่ารักคนนึงของทีมเลยก็ว่าได้ และด้วยฝีมือ ตำแหน่งตัวเซตระดับโลก เลยทีเดียว  เบอร์ 14 จรัสพร บรรดาศักดิ์ เกิด 1 มีนาคม พ.ศ. 2537 สูง 182  เล่นให้ บางกอกกล๊าส วีซี เบอร์ 15 มัลลิกา กันทอง เกิด 8 มกราคม พ.ศ. 2530 สูง 177 เล่นให้ นครนนท์ 3BB เบอร์ 16 พรพรรณ เกิดปราชญ์ เกิด 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 สูง 173 เล่นให้บางกอก กล๊าส วีซี  เบอร์ 17 แก้วกัลยา กมุลทะลา เกิด 7 สิงหาคม พ.ศ. 2537 สูง 180 เบอร์ 17 กิตติกา แก้วพิน เกิด 7 สิงหาคม พศ 2537 สูง 168 เบอร์ 18 อัจฉราพร คงยศ เกิด 18 มิถุนายน พ.ศ. 2538 สูง 180 เบอร์ 19 กรรณิการ์ ธิปะโชติ เกิด 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 สูง 167 เล่นให้ อยุธยา- เอ ที ซี ซี เบอร์ 19 ปริญญา พานแก้ว เกิด 27 ธันวาคม พ.ศ. 2538 สูง 170 เบอร์ 20 โสรยา พรมหล้า เกิด 16 สิงหาคม พ.ศ. 2535 สูง 169 เบอร์ 21 วนิดา โคตรเรือง เกิด 29 มิถุนายน พ.ศ. 2533 สูง 170 เบอร์ 22 ฑิฑัมพร ช้างเขียว เกิด 12 ธันวาคม พศ 2527 สูง 168 นี่เป็นผู้เล่นทีมชาติ ที่ถือว่าดีทึีสุดเท่าที่ไทยมีมา
แต่ด้วยต้องใส่ใจต่อร่างกาย อาหารเสริมลดน้ำหนัก มีส่วนในการช่วยบำรุงร่างกายเป็นอย่างยิ่ง 
                    เมื่อประเทศไทย มีการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาครั้งใด ประชาชนโดยส่วนมากก็จะ เฝ้าหน้าจอทีวี เพื่อที่จะส่งแรวใจ แรงเชียร์ และเติมเต็มวามสุข ที่ได้ดู แต่กระนั้น ก็ไม่พ้นเรื่องของการพนัน ที่มักจะมี จะมีให้เห็นกันอยู่ด้วยเสมอ แต่ด้วยเป็นการเล่นเพียงเพื่อความสนุกสนาน ซึ่งตามธรรมเนียมที่มีกันมานาน ประเทศไทยนั้น ก็มักจะมีการละเล่น ซึ่งส่วนมากก็มักจะเล่นตามงานมหรสพ ต่างๆ ซึ่งนานๆครั้งก็จะเป็นการเล่นที่มีมาแต่ครั้งนานรุ่น ปู่ ย่า มาแล้ว แต่ทุกวันนี้ ด้วยพัฒนาการของด้านกีฬา ไม่ว่าจะมี เทคนิคที่เรียกว่า วืทยาศาสตร์การกีฬา เข้ามาช่วยแล้วก็ตาม แต่กระนั้นความอดทน ฝึกฝนมาอย่างโชกโซนที่เรียกว่า หนักกว่าคนทั่วไป ก็มีส่วนให้ร่างกาย ทั้งแข็งแรง แต่ว่าอย่างที่บอกว่า เมื่อเล่นกีฬาก็ย่อมต้องมีการกระทบกระทั่ง แต่ด้วยอารมณ์ ที่รุนแรง รุ่มร้อน มักจะทำลายบรรยากาศ ของการแข่งขันอยู่เสมอ ปัญหาบอลระดับสโมสรของไทยนั้น ก็จะเป็น เรื่องของการตัดสิน ที่กรรมการผู้ตัดสินกับผู้เล่นนั้น มีความเห็นที่ไม่ลงรอย ทำใ้หลายครั้ง ทำให้แฟนบอลนั้น ทะเลาะกันไปด้วย เกิดเหตุจราจล ขึ้นหลายครั้งนี่เป็นปัญหาที่เรานั้น ต้องร่วมมือการแก้ปัญหาร่วมกัน และให้เป็นมาตรฐาน ที่จะให้เป็นมาตรฐานต่อไปในอนาคต ด้วยเช่นกัน อย่าให้อารมณ์ อยู่เหนือจิตใจ   กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ  

เลือกข่าวอ่านอย่างไร ถึงจะเป็นเรื่องจริง

              ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีการสื่อสารที่ทันสมัย ฉับไว แต่ถ้าเราเคยบ้างแน่ๆ ที่เวลาที่เรานั้น อ่านข่างเดียวกัน แต่ที่เวลา ยิ่งได้อ่านหลายๆเวบ หรือหลายๆสื่อ เรานั้นก็จะ รู้ว่าข่าวนั้น ไม่เหมือนกันเลย จนบางครั้ง อดไปคิดไม่ได้ว่า ตอกไข่ ใส่ข่าวนั้นเป็นแบบไหน อะไรคือความจริง หรือเพียงเพื่อเขียน เพื่อเพียงให้คนสนใจเท่านั้น ถ้าเรานั้นได้อ่านข่าว เรื่องเดียวกัน แต่อ่านจากหลายสำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นไทยรัฐ , เดลินิวส์ , ข่าวสด , มติชน , คมชัดลึก หรือแม้แต่กระทั้งข่าวทาง ทีวี ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 3 , 5 ,7 , 9 ,11 ซึ่งหลายครั้งที่ข่างนั้น ก็จะเขียนไม่เหมือนกัน และก็เสนอข่างแบบเชิงวิเคราะห์ บางครั้งก็ดีบางทีก็ไม่ดี เพราะว่าจะมีแนวทางว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นแบบนี้ ทำให้เนื้อหาของข่าวนั้น เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เหมือนหลายครั้งที่มีการวิจารณ์ เชิงวิเคราะห์ หลายครั้งก็สร้างความงุนงงมากเลยทุกวันนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นได้อย่างอิสระ เพียงแต่อย่าไปเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นก็เป็นพอ ทุกวันนี้สื่อออนไลน์ นั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลก
                เมื่อสังคมเปลี่ยน แต่บรรยากาศเดิมๆที่ยังติดอยู่นั้น ก็เห็นจะบอกได้ว่าเป็นเสน่ห์มากที่ เมื่อก่อนนั้น ก็จะมีหนังสือพิมพ์ เพียงสองฉบับที่มีขายทุกวัน และขายดีเป็นที่สุด นั่นก็จะเป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและเดลินิวส์ ที่คนไทยนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี  สีสันก็ตรงที่หนังสือพิมพ์นั้นเป็นสีขาว-ดำ แต่หลายคนนั้นยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาของหนังสือพิมพ์ มาก่อน มาเล่าแบบประวัติรอบโลกกันเลยดีกว่า คล้ายกับการลอกแถลวงการณ์เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนคริสต์กาล ช่วงนั้น โรมันครองอำนาจ จักรพรรดิจูเลียส ซีซ่าร์ บัญชาให้ อาลักษณ์ คัดลอกแถลงการณ์ของพระองค์ ติดไว้ตามกำแพงต่างๆในที่ชุมชนเพื่อให้ประชาชนได้อ่านกันทั่วหน้า นี่คือต้นแบบทางตะวันตก แต่หนังสือพิมพ์ของจีน คือ ซิงเป้า ตีพิมพ์เรื่องของราชสำนัก เมื่อ พ.ศ. 1043 แล้วประเทศเยอรมัน ก็พัฒนาเป็นหนังสือพิมพ์ โดดยประทศเยอรมันเป็นผู้คิดค้นเครื่องพิมพ์ แล้วนำมาใช้ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ ค.ศ. 1997  การพัฒนาแท่นพิมพ์ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนถึงหนังสือพิมพ์ที่เกิดจากแท่นพิมพ์ เกิดขึ้นฉบับแรกที่  Avisa Relation Order Zeitung พิมพ์ขึ้นที่ประเทศเยอรมันไม่ใช่หนังสือพิมพ์รายวัน แต่เมื่อหนังสือพิมพ์ของโลกออกมาในรายสัปดาห์ ชื่อ A Weekly News London ถือเป็นหนังสือพิมพ์ รายแรกของโลก หนังสือพิมพ์รายวัน ฉบับแรกของโลกก็คือ เอ็ดวาร์ด มอลเลตหนังสือพิมพ์ The Daily Courant ออกดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2245 เริ่มด้วยการบทความวิจารย์สังคม บทวิจารย์โจมตีรัฐบาล
                                                                       
             หนังสือพิมพ์ประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อ สมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีชาวอเมริกัน เป็นเจ้าของและบรรณาธิการ  และหนังสือพิมพ์ ฉบับแรกในประเทศไทย เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ ชื่อ หนังสือจดหมายเหตุ ( บางกอกกรีคอเดอ The Bangkok Recorder) ซึ่งก็พิมพ์เป็น สองภาษา ทั้งอังกฤษและไทย ทำการได้เพียง 2 ปี ก็ปิดตัวลง และหลังจากนั้นก็มีหนังสือพิมพ์เปิดตัวตามมาอีกหลายฉบับ แล้วต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงเป็นผู้จัดทำ หนังสือพิมพ์รายวัน ภาษาไทย ชื่อ ราชกิจจานุเบกษา เพื่อเป็นการชี้แจงข้อผิดพลาด ที่ตึพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของหมอบรัดเล่ย์ และเพื่อแจ้งข่าวสารการบริหารราชภารกิจทางการเมือง  และในสมัยต่อมารัชกาลที่ 5 ก็ได้เริ่มมีการพิมพ์หนังสือพิมพ์ภาษาไทยฉบับแรก และเผยแพร่สู่ประชาชน ชื่อ ดรุโณวาท และมียอดจำหน่ายที่สูงมาก จนต้องมีระบบจัดการส่ง และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นของกิจการ ไปรษณีย์ไทย คือ ข่าวราชการ Court ยุคนี้หนังสือพิมพ์ตื่นตัวมาก มีการออกหนังสือพิมพ์ถึง 59 ฉบับ ครั้นมาถึงราชกาลที่ 6 หนังสือพิมพ์รุ่งเรืองมาก หนังสือพิมพ์มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และเสนอความคิดเห็นได้อย่างเสรีเรื่องการบริหารประเทศด้านต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ จีนโนสยามวารศัพท์ กรุงเทพเดลิเมล์ หนังสือพิมพ์ไทย เป็นต้น ครั้นมาถึงรัชกาลที่ 7 หนังสือพิมพ์ทีน่าเชื่อถือมากที่สุด คือ ประชาชาติรายวัน ซึ่งมีอิทธิพลต่อผู้อ่านมากสุด โดยเฉพาะปัญญาชน ที่ตื่นตัวทางด้าน เศรฐษกิจ การเมือง สังคม  มาถึงรัชกาลที่ 8 หนังสือพิมพ์และสื่อได้ถูกควลคุมโดยรัลบาล เมื่อปี พ.ศ. 2501 เกิดรัฐประหารโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนัรัชต์ และหนังสือพิมพ์ตกอยู่ในการควบคุมของประกาศคณะปฎิวัติ  ที่เหลือหนังสือพิมพ์ระดับต้นๆ ก็คือ เกียรติศักดิ์ ( 2495 ) เดลินิวส์ ( 2507 ถึงปัจจุบัน ) เดลิเมย์ ( 2493-2501) ไทยรัฐ ( 2492 ถึงปัจจุบัน ) และก็มีหนังสือพิมพ์อีกหลายฉบับ
                                                                 
                   หนังสือพิมพ์และสื่อทีวี วิทยุ ทุกครั้งที่มีการปฎวัติหรือควบคุมอำนาจนั้น ก็มักที่จะถูกควบคุมแทบทั้งสิ้น เพราะเป็นการที่จะระงับการออกกากาศ หรือข่าวที่จะทำให้ภาคประชาชน ตื่นกลัวนั่นเอง
และก็ไม่ให้ประชาชนนั้น เกิดการต่อต้านนั่นเอง   การปฎิวัติ หรือการทำรัฐประหาร หรือการยึดอำนาจแต่ละครั้งนั้น ก็ล้วนแต่มีเหตุผลทั้งสิ้น ถ้าว่ากันตามหลักความจริงแล้ว ยังไม่มีการปฎิวัติครั้งไหน สำเร็จอย่างแท้จริง เพราะโดยมากก็จะทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองแทบทั้งสิ้น เพราะปัญหาที่ดูๆกันมานั้น ต่่างก็มีข้ออ้างว่าทำเพื่อความกูกต้อง แต่หลังจากนั้น ก็จะกลับมาเป็นปัญหาเหมือนเดิม การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก็เกิดขึ้นอยู่อย่างนั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนั้น นักการเมืองก็ทำเหื่อประโยขน์ส่วนตัวทั้งสิ้น เพียงคนไม่กี่ร้อยคน แต่คนที่เดือดร้อนจริงนั้น หลายสิบล้านคน โดยส่วนมากก็จะทำกาปฎิรูป แต่ก็ด้วยเหตุที่ว่าผลประโยขน์ ที่มากมายมหาศาลนั้น ก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้งเดียว แต่บางตำรานั้น ก็รวบรวมการทำรัฐประหารไว้ดังนี้ ครั้งที่ ๑ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ได้ประกาศพระราชกฤษฏีกา ปิดสภาพร้อมงดใช้รัฐธรรมนูญ บางมาตราครั้งที่ ๒ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 โดยพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ยึดอำนาจรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ครั้งที่ ๓ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 โดยพลโทผิน ชุนหะวัณ ยึดอำนาจรัฐบาล พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ครั้งที่ ๔ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 นำโดยกลุ่มพลโทผิน บังคับให้นาย ควง อภัยวงศ์ ลาออกและมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ให้กับ จอมพล ป พิบูลสงคราม ครั้งที่ ๕ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 จอมพล ป ยึดอำนาจตัวเอง
ครั้งที่ ๖ วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจรัฐบาลจอมพล ป พิบูลสงคราม  ครั้งที่ ๗ วันที่ 20 ตุลาคม พศ 2501 จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจจอมพล ถนอมกิตติขจร ตามที่ตกลงกันไว้ ครั้งที่ ๘ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ 2514 จอมพลถนอม ยึดอำนาจตัวเอง  ครั้งที่ ๙ วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 โดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาล หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ครั้งที่ ๑0 วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 โดยพลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ครั้งที่ ๑๑ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534  พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาล พลเอก ชาติชาย ชุนหะวัณ ครั้งที่ ๑๒ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549โดย พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ยึดอำนาจรักษาการ พันตำรวจโท ทักษิน ชินวัตร มาถึงครั้งนี้ ล่าสุด ครั้งที่ ๑๓ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา รัฐบาลรักษาการณ์นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฎิบัติหน้าที่แทน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อเกิดการวุ่นวายทางการเมือง โดยเกิดปัญหา ม็อบที่ต้ังอยู่แทบจะทั่วกรุงเทพฯ ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และอีกฝ่ายที่ตั้งอยู่ที่ ถนนอักษะ และผู้คนที่ทำมาหากินได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว
                เมื่อทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร ยึดอำนาจ ต่างก็อ้างว่าทำเพื่อประชาชน แม้กระทั่งการตั้งม็อบ ก็ตามที แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพียงผลประโยชน์ ทั้งนั้น ไม่มีใครที่จะแก้ปัญหาได้จริง
ทั้งที่คนส่วนใหญ่ที่เดือดร้อนจริงๆนั้น มีมากมายมหาศาล แต่ที่วุ่นวายนั้น ก็เพียงผลประโยชน์ ของนักการเมือง ปัญหาของคนไทยนั้น ก็คือ นักการเมืองที่มีอำนาจมากเกินไป เลยเมื่อขึ้นมาแล้วกก็จ้องแต่
แสวงหาผลประโยชน์ ถ้าสังเกตุให้ดี จะพบว่า ไม่มีนักการเมืองคนไหน ที่ทำเพื่อประชาชนชาวไทยเลย แม้แต่คนเดียว การที่จะแก้ปัญหา ไมม่ให้มีการปฎิวัติอีกนั้น คิดว่าประเทศไทยคงไม่มีวันที่จะพ้นไปได้ เพราะปัญหานั้น ก็มาจากผู้ใช้กฎหมายนั้น ต่างก็เอื้อเผื้อ แก่พรรคพวก และคนมีเงิน มีความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้น มากไปคนมีเงินมีอำนาจก็มักจะใช้อำนาจในทางที่ผิด และนักการเมืองนั้น ก็มีแต่คนหน้าเดิม คนเดิม หรือไม่ก็ลูกหลายมานั่นเอง การซื้อเสียงนั้น ก็มีมามากทุกยุคทุกสมัย คงอีกนานกว่าจะมีคนที่จะทำเพื่อประชาชน และประชาชนนั้น ก็จะต้องยึดเอาความถูกต้องเป็นหลัก จึงจะเกิดเรื่องดีขึ้นมาได้
ประเทศไทยนั้น ไมมีการแก้กฎหมายมานาน เรียกได้ว่าใช้กฎหมายฉบับเดียว ไม่มีการแก้ไขให้ทันยุค เป็นเหตุให้หลายครั้ง คนเรานั้นจึงต้องทำการปฎิวัติ แต่ที่ประเทศ อเมริกานั้น เขสให้คำตัดสินของศาล
เป็นกฎหมายด้วยเลย ถ้าเห็นว่าดีพอ นี่เป็นข้อคิดที่ดีมากสำหรับประทเศไทย แม้ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ห่วงสุขตัวคุณเองด้วย อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสมอๆ

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ยานพาหนะ ขนส่ง และอุบัติเหตุ แห่งประเทศไทย

               ทุกวันนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการเร่งรีบในการดำเนินชีวิต จึงได้มีการคิดค้น ยานยนต์ที่มีความเร็วสูง กระทัดรัดขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ ที่ฮิตก็จะเป็นจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซึ่งสนนก็ฒีหลายราคาหลายขนาดให้เลือก และหลากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น ดูคาติ ( ducati ) ยามาฮ่า ฮอนด้า คาวาซากิ ฮาเลย์ ( Haraey Davidson ) หลายค่ายที่ออกแบบรถประเภทบิ๊กไบค์ เพื่อการตลาดนั้นก็มีราคาน่าจะเริ่มที่หลักแสนบาทเลยทีเดียว แต่สมรรถนะ นั้นแรงหายห่วง ความสวยนั้น ก็ไม่ต้องพูดถึง สามารถวิ่งแซงรถใหญ่อย่างกระบะ เก๋งได้อย่างสบายเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้ไม่กล่าวถึงก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นที่นิยมเหลือเกิน แต่กระนั้นก็มีหลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ โดยส่วนมากก็จะถึงขั้นพิการและเสียชีวิต เพราะอย่างที่เรารู้อยู่ว่า คำขวัญสำหรับผู้ที่ใช้ มอเตอร์ไซน์ ก็คือ เนื้อหุ้มเหล็ก นั่นก็หมายถึงต้องทำใจกับเรื่องอันตรายที่จะเกิด แต่กระนั้นความจำเป็นสำหรับเมืองหลวงอย่าง บางกอก ก็ถือว่าสะดวกและรวดเร็ว เป็นอย่างมาก เพราะว่ารถนั้นติดเหลือเกิน จนชนิดที่เรียกว่า เร็วที่สุดแค่ไหน มาวิ่งกรุงก็น่าที่จะได้ไม่เกิน ๖0 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง  หรือแม้แต่กระทั่งบางสาย บางเส้นทาง เชื่อหรือไม่แต่มีอยู่จริง อย่างสุขุมวิท เดินไปไวกว่าการนั่งรถ นี่เป็นเรื่องจริง การจราจร ที่นับวันจะแก้ไม่ตกด้วยการหาแนวคิดที่หามาได้และทำไปนั้น ก็ยังไม่อาจที่จะทำให้รถนั้นไม่ติดได้ ปัญหาที่บอกว่าเหมือนถามว่า ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ปัญหาโลกแตกไปเสียแล้ว แต่ด้วยการเดินทางที่ต้องการความรวดเร็ว และทันเวลานั้นก็ย่อมทำให้ การใช้รจักรยานยนต์นั้น เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก และทำให้คนขับรถจักรยานยนต์ มีอาชีพขึ้นมาอีกด้วย นั่นก็คือจักรยานยนต์รับจ้าง นั่นเอง ที่ผู้ประกอบการเองก็สามารถที่จะเลี้ยงชีพตัวเองได้อย่างสบายโดยที่ไม่ถึงกับรวย แต่ก็ไม่เดือดร้อน แต่กระนั้น การเหมาไปไหนหรือนั่งไปไกลราคาเท่าไหร่นั้น ไม่ได้มีมิเตอร์บอก เพียงแต่ใช้คำพูดที่ตกลงกันเอง นั่นเป็นคล้ายๆ ดังสัญญามหาชนการเดินทางนั้น ทุกวันนี้ ไม่ว่ายุคไหน รัฐบาลใด ก็เร่งแก้ปัญหา กันอย่างมาก ที่ได้ทำทางด่วน ขยายมางด่วนบ้าง เพิ่มรถขนส่งสาธารณะ ทำรถไฟฟ้า แม้กระทั่งรถไฟรางคู่ และตอนนี้ แม้กระทั่งสามยการบินที่เมื่อเทียบกันแล้ว การเดินทางค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าการขับรถไปเองเสียอีก
                                                                       
          ไม่กล่าวก็อาจจะไม่ได้เพราะตอนนี้ ประเทศไทยกำลังจะทำรถไฟรางคู่ ที่จะวิ่งเริ่มจาก หนองคาย - แก่งคอย - มาบตาพุด ระยะทาง 734 กิโลเมตร ซึ่งก็จะสร้าง ปี พ.ศ. 2558 ซึ่งถ้าแล้วเสร็จก็จะสะดวกกับคนไทยเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าจะลดการเดินทางผ่านเข้ามาเมืองกรุงบางส่วน และการขนส่งก็จะช่วยเรื่องการขนส่งลดการใช้น้ำมัน แต่ก็มีตรงที่ว่าไม่ให้ขนสินค้าทางการเกษตร ซึ่งก็หวังว่าในอนาคตก็น่าจะมีการขนส่ง เช่นกันต้องเข้าใจก่อนนะคะว่ารถไฟรางคู่ไม่ใช่ รถไฟความเร็วสูง BTS เพราะการทำรางนั้นแตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ เคยมีบริษัทของญี่ปุ่น ยื่นข้อเสนอเข้ามาอยู่เหมือนกัน ด้วยทุกวันนี้ ทางด้านตลาดน้ำมันโลก ได้ผลิตน้ำมันออกมามากเกิน ทำให้น้ำมันล้นตลาดและราคาน้ำมันลดลงบ้าง โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย แต่กระนั้นการแข่งขัน ก็มีหลายสายการบินที่เข้ามาให้บริการภายในประเทศ ซึ่งถ้าคำนวนดูแล้ว ก็ประหยัดเวลากว่าการนั่งรถและราคานั้นก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่นัก ทำให้มีผู้นิยมใช้บริการเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยสารการบินหลักที่รู้จักกันก็จะเป็น สายการบิน นกแอร์ ซึ่งบริหารงานโดยคนไทย ถ้าอยากได้ราคาประหยัด ต้องจองล่วงหน้าสักสองอาทิตย์ หรือเดือน มาตอนนี้ ก็มีสายการบอนที่เป็นทางเลือกคือ แอร์เอเชีย ที่ก็ให้บริการทั้งในและต่างประเทศ แต่ระบบการจองผ่านแอฟและอินเตอร์เนต ยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่กระนั้นถ้าสังเกตุดูก็จะได้รับความสนใจมากกว่าสายการบิน ของนกแอร์ เพราะว่า ราคาที่ถูกกว่า นั่นเอง แต่ต้องบอกว่าเมื่อถูกก็จะต้องมีข้อจำกัดมากเช่นกัน อย่างเช่นการซื้อน้ำหนักเพิ่ม เป็นต้น เล่าสู่กันฟัง ว่ากันว่ารถไฟประเทศไทยนั้น มีใช้มานานกว่าร้อยปี แต่ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ด้วยเหตุที่ว่า เมื่อก่อนนนั้นไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่พอตอนนี้เมื่อมีรถไฟฟ้าเหนือเสียง เหมือนรถไฟฟ้าเหนือเสียงต่างๆ ลองคิดเล่นๆว่าถ้าประเทศไทยมี ก็ดีสินะ จังหวัดที่อยู่ห่างไกลก็จะได้รับสินค้าที่สะดวกใหม่ สด และถูก อย่างอาหารทะเล พืชผลทางการเกษตร ผัก ผลไม้ ลฯล แต่ตอนนี้รอไปกอ่นนะคะ การที่รถไฟไทย ขาดทุนนั้น ก็จะย่อมส่งผลต่อการพัฒนาอย่างแน่นอนแต่กระนั้น ถ้าบริหารแบบจริงจังไม่ยึดติด การรถไฟนั้น ก็มีที่ๆมีอยู่อย่างมากมาย เปิดให้เช่าก็คงจะเป็นเรื่องดี เป็นอย่างมากเลย เพราาะจะทำให้การรถไฟมีรายได้เข้ามาพัฒนาองค์กร ต่อไป ตอนนี้รถไฟฟ้า ที่มีอยู่ที่บางกอกก็เป็นทางเลือกที่เรียกได้ว่า ตรงเวลา และสะดวกอย่างมาก แต่กระนั้นสำหรับคนทั่วไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะนั่งได้บ่อยนัก เพราะถ้าเปรียบไปก็มีราคาที่พอประมาณ ด้วยความสะดวกที่มีมาก ก็เลยทำให้ มีการขยายออกไปเรื่อยๆ ซ่ึ่งก็คาดว่า ไม่น่าเกิน 10 ปีนี้ ก็จะได้นั่งแบบทั่วกรุง และก็น่าจะเป็นทางเลือกของคนที่จะออกรถใหม่ อีกทางหนึ่ง ตอนนี้มีทั้งสายสีแดง สายสีม่วง ที่คิดว่าท่าจะรองรับการจราจร
ในเมืองหลวงได้เป็นอย่างมากเลยนะคะ
                                                                     
         เมื่อมีเทคโนโลยี ที่ทันสมัย บวกกับการทำงานที่ต้องรีบเร่ง ทำให้เราแทบจะเห็นข่าวอยู่ทุกวันที่มีมักจะเกิดการสูญเสีย ด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งโดยมากก็จะเกิดจากสุราบ้าง หลับในบ้าง ซึ่งก็จะเห็นจากข่าวอยู่แทบทุกวันแต่ละครั้งนั้น ก็จะมีผู้เสียชีวิต หรือไม่ก็พิการ และหลายครั้งก็มักจะเกิดกับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนนั้นนะคะได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศเวียตนาม มานะคะ สังเกตุว่าการขับขี่รถไม่มีระเบีบยเอาเสียเลยแต่ว่าก็เป็นไปแบบฝีมือนะคะ เพราะว่าไม่มีการกระทบกระทั่ง ชนกันเลยสักครั้ง เหมือนกับว่ามั่วแต่ระวังตัว หรือที่เรียกว่า มั่วอย่างมีระเบียบมากกว่า เพราะได้นั่งสังเกตุ 2 ชั่วโมงกว่า ปรากฎว่า ไม่มีการชน หรือกระทบกระทั่งกันเลยทั้งที่ไม่มีตำรวจจรจรเลยด้วยซ้ำ แต่การขับขี่ก็ไม่ได้เร็วมากนักแต่ถ้าคิดตรงนี้ก็คงจะไม่ใช่ แต่ด้วยการจราจรที่ติดขัด และสวนมากก็จะเป็นรถจักรยานยนต์ เสียมากกว่า ไฟแดงก็มีน้อย แต่อุบัติเหตุกลับมีน้อยมากๆ ต่างหกับประเทศไทยมากที่ตอนนี้ อุบ้ติเหตุ ติดอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้วนะคะ และด้วยประเทศเวียตนามนั้น มีการปฎิบัติตามกฎหมายที่เคร่งด้วยรีเปล่า ไม่มีการผ่อนผัน ถ้าผิดครั้งที่ 1 ก็จะปรับและทำตำหนิที่ใบขับขี่ ครั้งสอง ก้ทำตำหนิ
ส่วนครั้งที่สามนั้น ก็จะยึดใบขับขี่อย่างถาวร คือห้ามขับรถอีกตลอดชีวิต และด้วยเคร่งครัดต่อกฎระเบียบนี่เอง ทำให้เรานั้นไม่ได้เจอกับอุบัติเหตุที่เวียตนาม กลับกันกับประเทศไทย ที่แค่ขับรถ ปาดหน้ากัน
ถึงกับ ยิงหัน ฆ่ากัน ชกต่อยกัน เมาเหล้าขับรถกันไป โดยที่ ไม่มีความรับผิดชอบ นี่เป็นเรื่องที่คนไทยนั้นไม่มีกันเลย ก็คือการมีวินัย ไม่ว่าจะต่อตัวเองหรือผู้อื่น
                 ถ้าคนไทยนั้น มีวินัยมากขึ้นประเทศไทยก็น่าอยู่มากขึ้น การเมาแล้วขับก็จะไม่มี แต่ถ้ารู้จักการบำรุงสุขภาพด้วย อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็จะเป็นการทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรง พร้อมที่จะสู้งาน แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกกำลังกายด้วยนะคะ เมื่อคนเราต่างคนที่จะอยู่ ต่างคนที่จะทำงาน แต่เรื่องของน้ำใจ และการใจเย็นในการใช้รถ และการรู้ตัวเอง สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็จะเป็นเรื่องของวินัย ประเทศไทยก็จะน่าอยู่ขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว นะคะ ต้องบอกด้วยว่าเมื่อทางเท้าเป็นของคนเดินเท้าแต่ว่าเมื่อมอเตอร์ไซน์ ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้า ผู้คนนั้นส่วนมากเขาก็ไม่่ระวังกันหรอกนะคะ ให้เรานั้นยอมเสียเวลาบ้าง ทำสิ่งที่ถูกจะได้มีความสุขกันถ้วนหน้าคะ

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อาหารไทย ที่ง่ายๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

             ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลูกข้าวมากเป็นหลัก และมีหลายหลายพันธ์ มีท้ังข้าวเหนียวและข้าวสวย ข้าวที่ปลูกก็จะมีมากเช่นกัน ดังนั้้น อาหารที่มีส่วนมากแล้วก็มักที่จะทานกับข้าวและก็มีที่จะนำข้าวมาทำเป็นแป้ง เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นขนมจีน เส้นหมี่ และอีกหลากหลาย แต่อาหารที่ขึ้นชื่อนั้น ก็น่าจะเป็นาหารที่คนต่างชาตินิยมนนั้น ก็จะมีผัดไทย ซึ่งก็จะทำเป็นเส้น ก็แล้วแต่ประเภทอาหาร ถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีการปลูกข้าวมากและเพื่อการส่งออก แต่ทั้งนี้ แม้จะเป็นข้าวที่มีคุณภาพก็ตามที แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ส่งออก ไม่ว่าจะเป็นเวียตนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย เป็นต้น แต่กระนั้นการแข่งขัน ก็เกิดเพราะว่าแม้คุณภาพข้าวที่ดี ขึ้นชื่อกว่า แต่ราคานั้นก็จะต้องแพงตามไปด้วย อย่างข้าวหอมมะลิ ก็ยังเคยมีปัญหากับประเทศสหรัฐอเมริกา กับพันธ์ข้าวหอมมะลิ ที่ประเทศอเมริกา นำเข้าไปปลูกที่ประเทศของตัวเอง โดยนำพ่อ แม่ พันธ์ มาจากประเทศไทย แต่ก็ไปจดสิทธิบัตรเป็นของตัวเอง ถึงแมัจะมีการฟ้องร้อง ก็ไม่เป็นผล เพราะประเทศไทยไม่ได้จดนั่นเอง แต่กระนั้น ก็คงไม่ซีเรียส เพราะว่าทั้งโลก ย่อมรู้ดี ว่าอะไรคือความจริง มาคุยกันต่อเรื่อง อาหารที่ว่าง่ายและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความนิยม ก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทย  โดยที่ผัดไทยนั้น การปรับปรึวรสชาติ และการปรุงเครื่องแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ร้านแล้วแต่พื้นที่ เพราะอาหารไม่มีสูตรที่ตายตัว แล้วแต่ว่าจะใส่อะไรลงไป ทุกวันนี้ จะไปทานอะไร ต้องถามราคาใหห้แน่นอน เพราะว่าทุกวันนี้ วัตถุดิบที่ใส่เข้าไปเพื่อให้ออกรสชาดนั้น ก็ฒีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุ้งมังกร ที่เรียกว่า กุ้งลอปสเตอร์ เมื่อใส่เข้าไป ก็ตกจานนึง หลายร้อยหรือไปร่วมพันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นราดหน้าที่เราเคยคิดว่าไม่เท่าไหร่ แต่พอใส่พวกของทะเลที่มีราคาแพงเข้าไป ตกจานละหลายร้อย บางทีอาจจะถึงหลักพันเลยทีเดียว อาหารทุกวันนี้ เขาคิดให้แตกต่าง และแปลกเป็นจุดขาย ที่จะดึงดูครั้งหรือหลายครั้งที่เขาเรียกว่าอาหารสิ้นคิด ก็คือลูกค้าเข้าร้านเท่านั้นเองเพียงแต่จะขายได้นานมั้ยนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ภาวะของเศรษกิจด้วยเป็นหลัก ถึงกระนั้นถ้าขายราคาทึ่ถูกและอร่อยนั้น ก็จะอยู่ยาว
                                                                         
               อาหารที่คนไทยมักคุ้นและแนะนำ จนบางครั้งหรืออาจจะหลายครั้ง คนไม่สั่งว่าผัดกระเพรา ราดข้าว แต่ว่าสั่งเป็น อาหารสิ้นคิด นั่นก็จะเป็นกะเพราราดข้าว เพิ่มไข่หรือไม่เพิ่มก็แล้วแต่เลยทีเดียว
กระเพรานั้นเป็นพืชที่หาได้ง่าย ปลูกริมรั้ว ก็กินได้ทั้งปีแล้ว จะมีรสชาดเผ็ดนิดๆ เป็นสมุนไพร สรรพคุณขับลม แก้ปวดท้อง หาง่าย ทำให้เข้ากับอาหารไทยได้ดีทีเดียว เป็นมาตรฐานที่ดีอย่างที่บอกว่าเวลาที่เรานั้นไป เที่ยวประเทศไหน เราต้องรู้จักการปรับตัว ต้องทานอาหารและอยู่อย่างประทศนั้นให้ได้ จะเป็นการเข้าถึงอารยะธรรม และประเพณีของประเทศนั้นด้วย เพราะว่าถ้าเราอยากกินอย่างที่เรากินนั้น เรายังมีโอกาสอีกมาก อาหารพื้นๆและง่ายๆที่คนไทยเรานั้น มักจะสั่งทานและมีอยู่อย่างมากมายก็คือ กระเพรา ราดหน้า ไข่ดาว ไข่เจียว คะน้าหมูกรอบ หมูธรรมดา ข้าวผัด ปู กุ้ง ผัดผัก เป็นต้น อาหารทั่วๆไปก็มีทั้ง ของหวาน อาหารคาวกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว อาหารไททยนั้น มักจะทำมาจากวัสดุดิบ ธรรมชาติมากกว่า ถึงแม้อาหารบางส่วที่มาจากแป้งหมักบ้างก็จะเป็นหนมจีน ชื่อนั้นก็บอกแล้วว่าขนมจีน แต่ว่าเมื่อมีการปรับปรุงให้เข้าไปกับรสชาดอาหารของไทย ไม่ว่าจะมีปริมาณผักใส่หมู กุ้ง ซึ่งขนาดนั้นก็แล้วแต่ว่าใครจะเอาไปทำให้ออกมารสชาดแบบไหน แต่กระนั้นหลักๆ ก็เป็นหนมจีน นั่นเอง อาหารไทยที่อิ่มท้อง ราคาสบายกระเป๋า อาหารคาวก็ส่วนใหญ่ที่คนเขานิยมกันก็น่าจะเป็น ผัดกระเพราราดข้าว ไม่ว่าจะเป็น หมู เนื้อ ไก่ ปลา ตามด้วยไข่ดาว ไข่เจียว แล้วก็มี ราดหน้า หมูสะเต๊ะ ข้าวผัด ข้าดราดแกง เป็นต้น เพราะอาหารจานด่วน มีมากมายหลากหลาย ครั้งต่อไปจะเสนอต่อไป ตามด้วยของหวาน ที่ส่วนมากด้วยความหวานที่หวานแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ข้าวเหนียวที่มีทั้งทุเรียน มะม่วง ที่มีตามฤดูกาล นั่นก็เป็นของหวานที่จะมักจะนิยมรับประทานหลังอาหารหลักอาหารไทยที่ขึ้นชื่ออีกหลายอย่างท่เมื่อก่อนนั้น ชาวต่างประเทศต่างก้รู้จักกันดีก็เป็น ต้มยำกุ้ง ซึ่งมกจะติดปากคนทั่วไป แต่มาวันนี้ ก็เห็นจะเป็น มัสมั่น ที่ขึ้นชื่อที่เวลาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยเป็นอย่างมากเลย แต่พื้นๆ ที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน นั่นก็จะเป็นอาหารหลักของภาคอีสาน ก็จะเป็น ส้มตำ ซึ่งดั้งเดิม ของแท้ก็จะเป็น ตำปู ปลาร้า แต่ทุกวันนี้มีมากมายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ปู ปลาร้า ทะเล  แม้แต่ผลไม้ ที่นำมาตำรวมกัน แต่ที่จะใส่ให้มีรสชาดนั้นก็จะเป็น ปลาร้า ซึ่งเแป็นส่วนผสมหลัก
                                                                       
                    อาหารไทยนั้น มีมากมายหลากหลายเพียงแต่ว่า คนส่วนมากบางครั้งคิดว่าอาหารแพงถึงจะอร่อย แต่ก็ไม่แน่นอน เสมอไป เพราะว่าอาหารที่ถูก และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ก็มีมากมาย
เพียงแต่เรานั้น รู้ที่จะเลือกรับประทาน อาหารเสริมลดน้ำหนัก อีกทางเลือกที่เรานั้นสามารถดูแลตัวเอง เพีงอย่าไปยึดติดก็เท่านั้น อาหารยิ่งมีคุณค่าอยู่ที่ว่าเรานั้น ทานกับใครมากกว่า ไทยนั้นก็มีอาหารที่หาง่ายแบบสำเร็จนั้น ก็มีมากมายตามร้านสะดวกซื้อที่คุ้นเคยันดี และมีอยู่แทบทุกหัวระแหง ก็จะเป็น 7-11 ( เซเว่น อิเลฟเว่น ) ติดปากคนไทย แต่ที่แน่นอน ก็น่าจะเป็น ชั่วลูกหลานกันเลยทีเดียว อาหารไทยนั้น
ถ้าเลือกดีๆ ก็น่าจะมีคุณค่าเป็นอย่างมาก อย่างพริกที่คนโบราณให้ทานก้านพริกด้วยก็เพราะว่า  ก้านพริกมีสรรพคุณ แก้ท้องเสีย ส่วนขิง ข่า ก็ช่วยในการขับลม มะนาวก็มากด้วยวิตามิน ซึ่งปัจจุบัน ก็จะเห็นมี
การนำน้ำมะนาวเทียมมาใช้กันเป็นอย่างมาก ให้รสชาด แต่ความหอมก็ต่างกันเป็นอย่างมาก ธรรมชาติ ของคุ่าทางอาหาร เราไม่ต้องคิดอะไรมากเพียงแค่รู้ว่า เขายกให้ประเทศไทยนั้น เป็นคลังอาหารโลกได้
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้รู้แล้วว่า ประเทศไทยนั้น ยังอุดมสมบูรณ์ มากแค่ไหน เรียกมาแต่ครั้งโบราณว่า อู่ข้าว อู่น้ำ หรือที่เรียกว่า ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ ก็มีอยู่อย่างมากมาย ถึงกระนั้น สิ่งที่อยากให้คงอยู่นั้นก็จะเป็นเรื่องของน้ำใจ ที่นับวันจะจางหาย เพราะเราคิดว่า ไม่มีเวลา นั่นเอง ปัจจุบันก็จะอ้างว่า มัวแต่ทำงาน ข้างบ้านยังไม่รู้จักกันเลย ทั้งที่อยู่ติดกันมาเป็นสิบๆปี ซึ่งเมื่อก่อนนั้น ก็จะเป็น ข้าวปลาถ้าไม่มียังขอกันกินได้เลยอยากให้คนไทย มีซึ่งน้ำใจ อย่าไปยึดติดกับคุณค่าวัฒนธรรมต่างประเทศที่คิดว่าดี เพราะว่าสิ่งที่ดีนั้น บรรพบุรุษ ของเราได้คิดไว้ให้เราแล้ว ควรรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป ฝากด้วยนะคะ ด้วยรอยยิ้มที่มีคู่กันมาโดยก่อนนั้น คนไทยนั้น ก็จะเป็นยิ้มสยาม แต่เดี๋ยวนี้ เรื่องดีๆ เหล่านี้เริ่มจะจางหายไปแล้ว