วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เลือกข่าวอ่านอย่างไร ถึงจะเป็นเรื่องจริง

              ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีการสื่อสารที่ทันสมัย ฉับไว แต่ถ้าเราเคยบ้างแน่ๆ ที่เวลาที่เรานั้น อ่านข่างเดียวกัน แต่ที่เวลา ยิ่งได้อ่านหลายๆเวบ หรือหลายๆสื่อ เรานั้นก็จะ รู้ว่าข่าวนั้น ไม่เหมือนกันเลย จนบางครั้ง อดไปคิดไม่ได้ว่า ตอกไข่ ใส่ข่าวนั้นเป็นแบบไหน อะไรคือความจริง หรือเพียงเพื่อเขียน เพื่อเพียงให้คนสนใจเท่านั้น ถ้าเรานั้นได้อ่านข่าว เรื่องเดียวกัน แต่อ่านจากหลายสำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นไทยรัฐ , เดลินิวส์ , ข่าวสด , มติชน , คมชัดลึก หรือแม้แต่กระทั้งข่าวทาง ทีวี ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 3 , 5 ,7 , 9 ,11 ซึ่งหลายครั้งที่ข่างนั้น ก็จะเขียนไม่เหมือนกัน และก็เสนอข่างแบบเชิงวิเคราะห์ บางครั้งก็ดีบางทีก็ไม่ดี เพราะว่าจะมีแนวทางว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นแบบนี้ ทำให้เนื้อหาของข่าวนั้น เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เหมือนหลายครั้งที่มีการวิจารณ์ เชิงวิเคราะห์ หลายครั้งก็สร้างความงุนงงมากเลยทุกวันนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะออกความคิดเห็นได้อย่างอิสระ เพียงแต่อย่าไปเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นก็เป็นพอ ทุกวันนี้สื่อออนไลน์ นั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลก
                เมื่อสังคมเปลี่ยน แต่บรรยากาศเดิมๆที่ยังติดอยู่นั้น ก็เห็นจะบอกได้ว่าเป็นเสน่ห์มากที่ เมื่อก่อนนั้น ก็จะมีหนังสือพิมพ์ เพียงสองฉบับที่มีขายทุกวัน และขายดีเป็นที่สุด นั่นก็จะเป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและเดลินิวส์ ที่คนไทยนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี  สีสันก็ตรงที่หนังสือพิมพ์นั้นเป็นสีขาว-ดำ แต่หลายคนนั้นยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาของหนังสือพิมพ์ มาก่อน มาเล่าแบบประวัติรอบโลกกันเลยดีกว่า คล้ายกับการลอกแถลวงการณ์เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนคริสต์กาล ช่วงนั้น โรมันครองอำนาจ จักรพรรดิจูเลียส ซีซ่าร์ บัญชาให้ อาลักษณ์ คัดลอกแถลงการณ์ของพระองค์ ติดไว้ตามกำแพงต่างๆในที่ชุมชนเพื่อให้ประชาชนได้อ่านกันทั่วหน้า นี่คือต้นแบบทางตะวันตก แต่หนังสือพิมพ์ของจีน คือ ซิงเป้า ตีพิมพ์เรื่องของราชสำนัก เมื่อ พ.ศ. 1043 แล้วประเทศเยอรมัน ก็พัฒนาเป็นหนังสือพิมพ์ โดดยประทศเยอรมันเป็นผู้คิดค้นเครื่องพิมพ์ แล้วนำมาใช้ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ ค.ศ. 1997  การพัฒนาแท่นพิมพ์ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนถึงหนังสือพิมพ์ที่เกิดจากแท่นพิมพ์ เกิดขึ้นฉบับแรกที่  Avisa Relation Order Zeitung พิมพ์ขึ้นที่ประเทศเยอรมันไม่ใช่หนังสือพิมพ์รายวัน แต่เมื่อหนังสือพิมพ์ของโลกออกมาในรายสัปดาห์ ชื่อ A Weekly News London ถือเป็นหนังสือพิมพ์ รายแรกของโลก หนังสือพิมพ์รายวัน ฉบับแรกของโลกก็คือ เอ็ดวาร์ด มอลเลตหนังสือพิมพ์ The Daily Courant ออกดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2245 เริ่มด้วยการบทความวิจารย์สังคม บทวิจารย์โจมตีรัฐบาล
                                                                       
             หนังสือพิมพ์ประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อ สมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีชาวอเมริกัน เป็นเจ้าของและบรรณาธิการ  และหนังสือพิมพ์ ฉบับแรกในประเทศไทย เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ ชื่อ หนังสือจดหมายเหตุ ( บางกอกกรีคอเดอ The Bangkok Recorder) ซึ่งก็พิมพ์เป็น สองภาษา ทั้งอังกฤษและไทย ทำการได้เพียง 2 ปี ก็ปิดตัวลง และหลังจากนั้นก็มีหนังสือพิมพ์เปิดตัวตามมาอีกหลายฉบับ แล้วต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงเป็นผู้จัดทำ หนังสือพิมพ์รายวัน ภาษาไทย ชื่อ ราชกิจจานุเบกษา เพื่อเป็นการชี้แจงข้อผิดพลาด ที่ตึพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของหมอบรัดเล่ย์ และเพื่อแจ้งข่าวสารการบริหารราชภารกิจทางการเมือง  และในสมัยต่อมารัชกาลที่ 5 ก็ได้เริ่มมีการพิมพ์หนังสือพิมพ์ภาษาไทยฉบับแรก และเผยแพร่สู่ประชาชน ชื่อ ดรุโณวาท และมียอดจำหน่ายที่สูงมาก จนต้องมีระบบจัดการส่ง และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นของกิจการ ไปรษณีย์ไทย คือ ข่าวราชการ Court ยุคนี้หนังสือพิมพ์ตื่นตัวมาก มีการออกหนังสือพิมพ์ถึง 59 ฉบับ ครั้นมาถึงราชกาลที่ 6 หนังสือพิมพ์รุ่งเรืองมาก หนังสือพิมพ์มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และเสนอความคิดเห็นได้อย่างเสรีเรื่องการบริหารประเทศด้านต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ จีนโนสยามวารศัพท์ กรุงเทพเดลิเมล์ หนังสือพิมพ์ไทย เป็นต้น ครั้นมาถึงรัชกาลที่ 7 หนังสือพิมพ์ทีน่าเชื่อถือมากที่สุด คือ ประชาชาติรายวัน ซึ่งมีอิทธิพลต่อผู้อ่านมากสุด โดยเฉพาะปัญญาชน ที่ตื่นตัวทางด้าน เศรฐษกิจ การเมือง สังคม  มาถึงรัชกาลที่ 8 หนังสือพิมพ์และสื่อได้ถูกควลคุมโดยรัลบาล เมื่อปี พ.ศ. 2501 เกิดรัฐประหารโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนัรัชต์ และหนังสือพิมพ์ตกอยู่ในการควบคุมของประกาศคณะปฎิวัติ  ที่เหลือหนังสือพิมพ์ระดับต้นๆ ก็คือ เกียรติศักดิ์ ( 2495 ) เดลินิวส์ ( 2507 ถึงปัจจุบัน ) เดลิเมย์ ( 2493-2501) ไทยรัฐ ( 2492 ถึงปัจจุบัน ) และก็มีหนังสือพิมพ์อีกหลายฉบับ
                                                                 
                   หนังสือพิมพ์และสื่อทีวี วิทยุ ทุกครั้งที่มีการปฎวัติหรือควบคุมอำนาจนั้น ก็มักที่จะถูกควบคุมแทบทั้งสิ้น เพราะเป็นการที่จะระงับการออกกากาศ หรือข่าวที่จะทำให้ภาคประชาชน ตื่นกลัวนั่นเอง
และก็ไม่ให้ประชาชนนั้น เกิดการต่อต้านนั่นเอง   การปฎิวัติ หรือการทำรัฐประหาร หรือการยึดอำนาจแต่ละครั้งนั้น ก็ล้วนแต่มีเหตุผลทั้งสิ้น ถ้าว่ากันตามหลักความจริงแล้ว ยังไม่มีการปฎิวัติครั้งไหน สำเร็จอย่างแท้จริง เพราะโดยมากก็จะทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองแทบทั้งสิ้น เพราะปัญหาที่ดูๆกันมานั้น ต่่างก็มีข้ออ้างว่าทำเพื่อความกูกต้อง แต่หลังจากนั้น ก็จะกลับมาเป็นปัญหาเหมือนเดิม การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก็เกิดขึ้นอยู่อย่างนั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนั้น นักการเมืองก็ทำเหื่อประโยขน์ส่วนตัวทั้งสิ้น เพียงคนไม่กี่ร้อยคน แต่คนที่เดือดร้อนจริงนั้น หลายสิบล้านคน โดยส่วนมากก็จะทำกาปฎิรูป แต่ก็ด้วยเหตุที่ว่าผลประโยขน์ ที่มากมายมหาศาลนั้น ก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้งเดียว แต่บางตำรานั้น ก็รวบรวมการทำรัฐประหารไว้ดังนี้ ครั้งที่ ๑ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ได้ประกาศพระราชกฤษฏีกา ปิดสภาพร้อมงดใช้รัฐธรรมนูญ บางมาตราครั้งที่ ๒ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 โดยพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ยึดอำนาจรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ครั้งที่ ๓ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 โดยพลโทผิน ชุนหะวัณ ยึดอำนาจรัฐบาล พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ครั้งที่ ๔ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 นำโดยกลุ่มพลโทผิน บังคับให้นาย ควง อภัยวงศ์ ลาออกและมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ให้กับ จอมพล ป พิบูลสงคราม ครั้งที่ ๕ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 จอมพล ป ยึดอำนาจตัวเอง
ครั้งที่ ๖ วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจรัฐบาลจอมพล ป พิบูลสงคราม  ครั้งที่ ๗ วันที่ 20 ตุลาคม พศ 2501 จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจจอมพล ถนอมกิตติขจร ตามที่ตกลงกันไว้ ครั้งที่ ๘ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ 2514 จอมพลถนอม ยึดอำนาจตัวเอง  ครั้งที่ ๙ วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 โดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาล หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ครั้งที่ ๑0 วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 โดยพลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ครั้งที่ ๑๑ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534  พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาล พลเอก ชาติชาย ชุนหะวัณ ครั้งที่ ๑๒ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549โดย พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ยึดอำนาจรักษาการ พันตำรวจโท ทักษิน ชินวัตร มาถึงครั้งนี้ ล่าสุด ครั้งที่ ๑๓ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา รัฐบาลรักษาการณ์นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฎิบัติหน้าที่แทน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อเกิดการวุ่นวายทางการเมือง โดยเกิดปัญหา ม็อบที่ต้ังอยู่แทบจะทั่วกรุงเทพฯ ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และอีกฝ่ายที่ตั้งอยู่ที่ ถนนอักษะ และผู้คนที่ทำมาหากินได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว
                เมื่อทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร ยึดอำนาจ ต่างก็อ้างว่าทำเพื่อประชาชน แม้กระทั่งการตั้งม็อบ ก็ตามที แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพียงผลประโยชน์ ทั้งนั้น ไม่มีใครที่จะแก้ปัญหาได้จริง
ทั้งที่คนส่วนใหญ่ที่เดือดร้อนจริงๆนั้น มีมากมายมหาศาล แต่ที่วุ่นวายนั้น ก็เพียงผลประโยชน์ ของนักการเมือง ปัญหาของคนไทยนั้น ก็คือ นักการเมืองที่มีอำนาจมากเกินไป เลยเมื่อขึ้นมาแล้วกก็จ้องแต่
แสวงหาผลประโยชน์ ถ้าสังเกตุให้ดี จะพบว่า ไม่มีนักการเมืองคนไหน ที่ทำเพื่อประชาชนชาวไทยเลย แม้แต่คนเดียว การที่จะแก้ปัญหา ไมม่ให้มีการปฎิวัติอีกนั้น คิดว่าประเทศไทยคงไม่มีวันที่จะพ้นไปได้ เพราะปัญหานั้น ก็มาจากผู้ใช้กฎหมายนั้น ต่างก็เอื้อเผื้อ แก่พรรคพวก และคนมีเงิน มีความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้น มากไปคนมีเงินมีอำนาจก็มักจะใช้อำนาจในทางที่ผิด และนักการเมืองนั้น ก็มีแต่คนหน้าเดิม คนเดิม หรือไม่ก็ลูกหลายมานั่นเอง การซื้อเสียงนั้น ก็มีมามากทุกยุคทุกสมัย คงอีกนานกว่าจะมีคนที่จะทำเพื่อประชาชน และประชาชนนั้น ก็จะต้องยึดเอาความถูกต้องเป็นหลัก จึงจะเกิดเรื่องดีขึ้นมาได้
ประเทศไทยนั้น ไมมีการแก้กฎหมายมานาน เรียกได้ว่าใช้กฎหมายฉบับเดียว ไม่มีการแก้ไขให้ทันยุค เป็นเหตุให้หลายครั้ง คนเรานั้นจึงต้องทำการปฎิวัติ แต่ที่ประเทศ อเมริกานั้น เขสให้คำตัดสินของศาล
เป็นกฎหมายด้วยเลย ถ้าเห็นว่าดีพอ นี่เป็นข้อคิดที่ดีมากสำหรับประทเศไทย แม้ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ห่วงสุขตัวคุณเองด้วย อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสมอๆ

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ยานพาหนะ ขนส่ง และอุบัติเหตุ แห่งประเทศไทย

               ทุกวันนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการเร่งรีบในการดำเนินชีวิต จึงได้มีการคิดค้น ยานยนต์ที่มีความเร็วสูง กระทัดรัดขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างตอนนี้ ที่ฮิตก็จะเป็นจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซึ่งสนนก็ฒีหลายราคาหลายขนาดให้เลือก และหลากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น ดูคาติ ( ducati ) ยามาฮ่า ฮอนด้า คาวาซากิ ฮาเลย์ ( Haraey Davidson ) หลายค่ายที่ออกแบบรถประเภทบิ๊กไบค์ เพื่อการตลาดนั้นก็มีราคาน่าจะเริ่มที่หลักแสนบาทเลยทีเดียว แต่สมรรถนะ นั้นแรงหายห่วง ความสวยนั้น ก็ไม่ต้องพูดถึง สามารถวิ่งแซงรถใหญ่อย่างกระบะ เก๋งได้อย่างสบายเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้ไม่กล่าวถึงก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นที่นิยมเหลือเกิน แต่กระนั้นก็มีหลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ โดยส่วนมากก็จะถึงขั้นพิการและเสียชีวิต เพราะอย่างที่เรารู้อยู่ว่า คำขวัญสำหรับผู้ที่ใช้ มอเตอร์ไซน์ ก็คือ เนื้อหุ้มเหล็ก นั่นก็หมายถึงต้องทำใจกับเรื่องอันตรายที่จะเกิด แต่กระนั้นความจำเป็นสำหรับเมืองหลวงอย่าง บางกอก ก็ถือว่าสะดวกและรวดเร็ว เป็นอย่างมาก เพราะว่ารถนั้นติดเหลือเกิน จนชนิดที่เรียกว่า เร็วที่สุดแค่ไหน มาวิ่งกรุงก็น่าที่จะได้ไม่เกิน ๖0 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง  หรือแม้แต่กระทั่งบางสาย บางเส้นทาง เชื่อหรือไม่แต่มีอยู่จริง อย่างสุขุมวิท เดินไปไวกว่าการนั่งรถ นี่เป็นเรื่องจริง การจราจร ที่นับวันจะแก้ไม่ตกด้วยการหาแนวคิดที่หามาได้และทำไปนั้น ก็ยังไม่อาจที่จะทำให้รถนั้นไม่ติดได้ ปัญหาที่บอกว่าเหมือนถามว่า ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ปัญหาโลกแตกไปเสียแล้ว แต่ด้วยการเดินทางที่ต้องการความรวดเร็ว และทันเวลานั้นก็ย่อมทำให้ การใช้รจักรยานยนต์นั้น เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก และทำให้คนขับรถจักรยานยนต์ มีอาชีพขึ้นมาอีกด้วย นั่นก็คือจักรยานยนต์รับจ้าง นั่นเอง ที่ผู้ประกอบการเองก็สามารถที่จะเลี้ยงชีพตัวเองได้อย่างสบายโดยที่ไม่ถึงกับรวย แต่ก็ไม่เดือดร้อน แต่กระนั้น การเหมาไปไหนหรือนั่งไปไกลราคาเท่าไหร่นั้น ไม่ได้มีมิเตอร์บอก เพียงแต่ใช้คำพูดที่ตกลงกันเอง นั่นเป็นคล้ายๆ ดังสัญญามหาชนการเดินทางนั้น ทุกวันนี้ ไม่ว่ายุคไหน รัฐบาลใด ก็เร่งแก้ปัญหา กันอย่างมาก ที่ได้ทำทางด่วน ขยายมางด่วนบ้าง เพิ่มรถขนส่งสาธารณะ ทำรถไฟฟ้า แม้กระทั่งรถไฟรางคู่ และตอนนี้ แม้กระทั่งสามยการบินที่เมื่อเทียบกันแล้ว การเดินทางค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าการขับรถไปเองเสียอีก
                                                                       
          ไม่กล่าวก็อาจจะไม่ได้เพราะตอนนี้ ประเทศไทยกำลังจะทำรถไฟรางคู่ ที่จะวิ่งเริ่มจาก หนองคาย - แก่งคอย - มาบตาพุด ระยะทาง 734 กิโลเมตร ซึ่งก็จะสร้าง ปี พ.ศ. 2558 ซึ่งถ้าแล้วเสร็จก็จะสะดวกกับคนไทยเป็นอย่างยิ่งเพราะว่าจะลดการเดินทางผ่านเข้ามาเมืองกรุงบางส่วน และการขนส่งก็จะช่วยเรื่องการขนส่งลดการใช้น้ำมัน แต่ก็มีตรงที่ว่าไม่ให้ขนสินค้าทางการเกษตร ซึ่งก็หวังว่าในอนาคตก็น่าจะมีการขนส่ง เช่นกันต้องเข้าใจก่อนนะคะว่ารถไฟรางคู่ไม่ใช่ รถไฟความเร็วสูง BTS เพราะการทำรางนั้นแตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ เคยมีบริษัทของญี่ปุ่น ยื่นข้อเสนอเข้ามาอยู่เหมือนกัน ด้วยทุกวันนี้ ทางด้านตลาดน้ำมันโลก ได้ผลิตน้ำมันออกมามากเกิน ทำให้น้ำมันล้นตลาดและราคาน้ำมันลดลงบ้าง โดยเฉพาะประเทศรัสเซีย แต่กระนั้นการแข่งขัน ก็มีหลายสายการบินที่เข้ามาให้บริการภายในประเทศ ซึ่งถ้าคำนวนดูแล้ว ก็ประหยัดเวลากว่าการนั่งรถและราคานั้นก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่นัก ทำให้มีผู้นิยมใช้บริการเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยสารการบินหลักที่รู้จักกันก็จะเป็น สายการบิน นกแอร์ ซึ่งบริหารงานโดยคนไทย ถ้าอยากได้ราคาประหยัด ต้องจองล่วงหน้าสักสองอาทิตย์ หรือเดือน มาตอนนี้ ก็มีสายการบอนที่เป็นทางเลือกคือ แอร์เอเชีย ที่ก็ให้บริการทั้งในและต่างประเทศ แต่ระบบการจองผ่านแอฟและอินเตอร์เนต ยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่กระนั้นถ้าสังเกตุดูก็จะได้รับความสนใจมากกว่าสายการบิน ของนกแอร์ เพราะว่า ราคาที่ถูกกว่า นั่นเอง แต่ต้องบอกว่าเมื่อถูกก็จะต้องมีข้อจำกัดมากเช่นกัน อย่างเช่นการซื้อน้ำหนักเพิ่ม เป็นต้น เล่าสู่กันฟัง ว่ากันว่ารถไฟประเทศไทยนั้น มีใช้มานานกว่าร้อยปี แต่ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ด้วยเหตุที่ว่า เมื่อก่อนนนั้นไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่พอตอนนี้เมื่อมีรถไฟฟ้าเหนือเสียง เหมือนรถไฟฟ้าเหนือเสียงต่างๆ ลองคิดเล่นๆว่าถ้าประเทศไทยมี ก็ดีสินะ จังหวัดที่อยู่ห่างไกลก็จะได้รับสินค้าที่สะดวกใหม่ สด และถูก อย่างอาหารทะเล พืชผลทางการเกษตร ผัก ผลไม้ ลฯล แต่ตอนนี้รอไปกอ่นนะคะ การที่รถไฟไทย ขาดทุนนั้น ก็จะย่อมส่งผลต่อการพัฒนาอย่างแน่นอนแต่กระนั้น ถ้าบริหารแบบจริงจังไม่ยึดติด การรถไฟนั้น ก็มีที่ๆมีอยู่อย่างมากมาย เปิดให้เช่าก็คงจะเป็นเรื่องดี เป็นอย่างมากเลย เพราาะจะทำให้การรถไฟมีรายได้เข้ามาพัฒนาองค์กร ต่อไป ตอนนี้รถไฟฟ้า ที่มีอยู่ที่บางกอกก็เป็นทางเลือกที่เรียกได้ว่า ตรงเวลา และสะดวกอย่างมาก แต่กระนั้นสำหรับคนทั่วไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะนั่งได้บ่อยนัก เพราะถ้าเปรียบไปก็มีราคาที่พอประมาณ ด้วยความสะดวกที่มีมาก ก็เลยทำให้ มีการขยายออกไปเรื่อยๆ ซ่ึ่งก็คาดว่า ไม่น่าเกิน 10 ปีนี้ ก็จะได้นั่งแบบทั่วกรุง และก็น่าจะเป็นทางเลือกของคนที่จะออกรถใหม่ อีกทางหนึ่ง ตอนนี้มีทั้งสายสีแดง สายสีม่วง ที่คิดว่าท่าจะรองรับการจราจร
ในเมืองหลวงได้เป็นอย่างมากเลยนะคะ
                                                                     
         เมื่อมีเทคโนโลยี ที่ทันสมัย บวกกับการทำงานที่ต้องรีบเร่ง ทำให้เราแทบจะเห็นข่าวอยู่ทุกวันที่มีมักจะเกิดการสูญเสีย ด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งโดยมากก็จะเกิดจากสุราบ้าง หลับในบ้าง ซึ่งก็จะเห็นจากข่าวอยู่แทบทุกวันแต่ละครั้งนั้น ก็จะมีผู้เสียชีวิต หรือไม่ก็พิการ และหลายครั้งก็มักจะเกิดกับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อนนั้นนะคะได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศเวียตนาม มานะคะ สังเกตุว่าการขับขี่รถไม่มีระเบีบยเอาเสียเลยแต่ว่าก็เป็นไปแบบฝีมือนะคะ เพราะว่าไม่มีการกระทบกระทั่ง ชนกันเลยสักครั้ง เหมือนกับว่ามั่วแต่ระวังตัว หรือที่เรียกว่า มั่วอย่างมีระเบียบมากกว่า เพราะได้นั่งสังเกตุ 2 ชั่วโมงกว่า ปรากฎว่า ไม่มีการชน หรือกระทบกระทั่งกันเลยทั้งที่ไม่มีตำรวจจรจรเลยด้วยซ้ำ แต่การขับขี่ก็ไม่ได้เร็วมากนักแต่ถ้าคิดตรงนี้ก็คงจะไม่ใช่ แต่ด้วยการจราจรที่ติดขัด และสวนมากก็จะเป็นรถจักรยานยนต์ เสียมากกว่า ไฟแดงก็มีน้อย แต่อุบัติเหตุกลับมีน้อยมากๆ ต่างหกับประเทศไทยมากที่ตอนนี้ อุบ้ติเหตุ ติดอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้วนะคะ และด้วยประเทศเวียตนามนั้น มีการปฎิบัติตามกฎหมายที่เคร่งด้วยรีเปล่า ไม่มีการผ่อนผัน ถ้าผิดครั้งที่ 1 ก็จะปรับและทำตำหนิที่ใบขับขี่ ครั้งสอง ก้ทำตำหนิ
ส่วนครั้งที่สามนั้น ก็จะยึดใบขับขี่อย่างถาวร คือห้ามขับรถอีกตลอดชีวิต และด้วยเคร่งครัดต่อกฎระเบียบนี่เอง ทำให้เรานั้นไม่ได้เจอกับอุบัติเหตุที่เวียตนาม กลับกันกับประเทศไทย ที่แค่ขับรถ ปาดหน้ากัน
ถึงกับ ยิงหัน ฆ่ากัน ชกต่อยกัน เมาเหล้าขับรถกันไป โดยที่ ไม่มีความรับผิดชอบ นี่เป็นเรื่องที่คนไทยนั้นไม่มีกันเลย ก็คือการมีวินัย ไม่ว่าจะต่อตัวเองหรือผู้อื่น
                 ถ้าคนไทยนั้น มีวินัยมากขึ้นประเทศไทยก็น่าอยู่มากขึ้น การเมาแล้วขับก็จะไม่มี แต่ถ้ารู้จักการบำรุงสุขภาพด้วย อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็จะเป็นการทำให้ร่างกายของเรานั้นแข็งแรง พร้อมที่จะสู้งาน แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกกำลังกายด้วยนะคะ เมื่อคนเราต่างคนที่จะอยู่ ต่างคนที่จะทำงาน แต่เรื่องของน้ำใจ และการใจเย็นในการใช้รถ และการรู้ตัวเอง สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็จะเป็นเรื่องของวินัย ประเทศไทยก็จะน่าอยู่ขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว นะคะ ต้องบอกด้วยว่าเมื่อทางเท้าเป็นของคนเดินเท้าแต่ว่าเมื่อมอเตอร์ไซน์ ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้า ผู้คนนั้นส่วนมากเขาก็ไม่่ระวังกันหรอกนะคะ ให้เรานั้นยอมเสียเวลาบ้าง ทำสิ่งที่ถูกจะได้มีความสุขกันถ้วนหน้าคะ

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อาหารไทย ที่ง่ายๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

             ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่ปลูกข้าวมากเป็นหลัก และมีหลายหลายพันธ์ มีท้ังข้าวเหนียวและข้าวสวย ข้าวที่ปลูกก็จะมีมากเช่นกัน ดังนั้้น อาหารที่มีส่วนมากแล้วก็มักที่จะทานกับข้าวและก็มีที่จะนำข้าวมาทำเป็นแป้ง เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นขนมจีน เส้นหมี่ และอีกหลากหลาย แต่อาหารที่ขึ้นชื่อนั้น ก็น่าจะเป็นาหารที่คนต่างชาตินิยมนนั้น ก็จะมีผัดไทย ซึ่งก็จะทำเป็นเส้น ก็แล้วแต่ประเภทอาหาร ถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีการปลูกข้าวมากและเพื่อการส่งออก แต่ทั้งนี้ แม้จะเป็นข้าวที่มีคุณภาพก็ตามที แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ส่งออก ไม่ว่าจะเป็นเวียตนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย เป็นต้น แต่กระนั้นการแข่งขัน ก็เกิดเพราะว่าแม้คุณภาพข้าวที่ดี ขึ้นชื่อกว่า แต่ราคานั้นก็จะต้องแพงตามไปด้วย อย่างข้าวหอมมะลิ ก็ยังเคยมีปัญหากับประเทศสหรัฐอเมริกา กับพันธ์ข้าวหอมมะลิ ที่ประเทศอเมริกา นำเข้าไปปลูกที่ประเทศของตัวเอง โดยนำพ่อ แม่ พันธ์ มาจากประเทศไทย แต่ก็ไปจดสิทธิบัตรเป็นของตัวเอง ถึงแมัจะมีการฟ้องร้อง ก็ไม่เป็นผล เพราะประเทศไทยไม่ได้จดนั่นเอง แต่กระนั้น ก็คงไม่ซีเรียส เพราะว่าทั้งโลก ย่อมรู้ดี ว่าอะไรคือความจริง มาคุยกันต่อเรื่อง อาหารที่ว่าง่ายและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความนิยม ก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทย  โดยที่ผัดไทยนั้น การปรับปรึวรสชาติ และการปรุงเครื่องแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ร้านแล้วแต่พื้นที่ เพราะอาหารไม่มีสูตรที่ตายตัว แล้วแต่ว่าจะใส่อะไรลงไป ทุกวันนี้ จะไปทานอะไร ต้องถามราคาใหห้แน่นอน เพราะว่าทุกวันนี้ วัตถุดิบที่ใส่เข้าไปเพื่อให้ออกรสชาดนั้น ก็ฒีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุ้งมังกร ที่เรียกว่า กุ้งลอปสเตอร์ เมื่อใส่เข้าไป ก็ตกจานนึง หลายร้อยหรือไปร่วมพันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นราดหน้าที่เราเคยคิดว่าไม่เท่าไหร่ แต่พอใส่พวกของทะเลที่มีราคาแพงเข้าไป ตกจานละหลายร้อย บางทีอาจจะถึงหลักพันเลยทีเดียว อาหารทุกวันนี้ เขาคิดให้แตกต่าง และแปลกเป็นจุดขาย ที่จะดึงดูครั้งหรือหลายครั้งที่เขาเรียกว่าอาหารสิ้นคิด ก็คือลูกค้าเข้าร้านเท่านั้นเองเพียงแต่จะขายได้นานมั้ยนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ภาวะของเศรษกิจด้วยเป็นหลัก ถึงกระนั้นถ้าขายราคาทึ่ถูกและอร่อยนั้น ก็จะอยู่ยาว
                                                                         
               อาหารที่คนไทยมักคุ้นและแนะนำ จนบางครั้งหรืออาจจะหลายครั้ง คนไม่สั่งว่าผัดกระเพรา ราดข้าว แต่ว่าสั่งเป็น อาหารสิ้นคิด นั่นก็จะเป็นกะเพราราดข้าว เพิ่มไข่หรือไม่เพิ่มก็แล้วแต่เลยทีเดียว
กระเพรานั้นเป็นพืชที่หาได้ง่าย ปลูกริมรั้ว ก็กินได้ทั้งปีแล้ว จะมีรสชาดเผ็ดนิดๆ เป็นสมุนไพร สรรพคุณขับลม แก้ปวดท้อง หาง่าย ทำให้เข้ากับอาหารไทยได้ดีทีเดียว เป็นมาตรฐานที่ดีอย่างที่บอกว่าเวลาที่เรานั้นไป เที่ยวประเทศไหน เราต้องรู้จักการปรับตัว ต้องทานอาหารและอยู่อย่างประทศนั้นให้ได้ จะเป็นการเข้าถึงอารยะธรรม และประเพณีของประเทศนั้นด้วย เพราะว่าถ้าเราอยากกินอย่างที่เรากินนั้น เรายังมีโอกาสอีกมาก อาหารพื้นๆและง่ายๆที่คนไทยเรานั้น มักจะสั่งทานและมีอยู่อย่างมากมายก็คือ กระเพรา ราดหน้า ไข่ดาว ไข่เจียว คะน้าหมูกรอบ หมูธรรมดา ข้าวผัด ปู กุ้ง ผัดผัก เป็นต้น อาหารทั่วๆไปก็มีทั้ง ของหวาน อาหารคาวกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว อาหารไททยนั้น มักจะทำมาจากวัสดุดิบ ธรรมชาติมากกว่า ถึงแม้อาหารบางส่วที่มาจากแป้งหมักบ้างก็จะเป็นหนมจีน ชื่อนั้นก็บอกแล้วว่าขนมจีน แต่ว่าเมื่อมีการปรับปรุงให้เข้าไปกับรสชาดอาหารของไทย ไม่ว่าจะมีปริมาณผักใส่หมู กุ้ง ซึ่งขนาดนั้นก็แล้วแต่ว่าใครจะเอาไปทำให้ออกมารสชาดแบบไหน แต่กระนั้นหลักๆ ก็เป็นหนมจีน นั่นเอง อาหารไทยที่อิ่มท้อง ราคาสบายกระเป๋า อาหารคาวก็ส่วนใหญ่ที่คนเขานิยมกันก็น่าจะเป็น ผัดกระเพราราดข้าว ไม่ว่าจะเป็น หมู เนื้อ ไก่ ปลา ตามด้วยไข่ดาว ไข่เจียว แล้วก็มี ราดหน้า หมูสะเต๊ะ ข้าวผัด ข้าดราดแกง เป็นต้น เพราะอาหารจานด่วน มีมากมายหลากหลาย ครั้งต่อไปจะเสนอต่อไป ตามด้วยของหวาน ที่ส่วนมากด้วยความหวานที่หวานแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ข้าวเหนียวที่มีทั้งทุเรียน มะม่วง ที่มีตามฤดูกาล นั่นก็เป็นของหวานที่จะมักจะนิยมรับประทานหลังอาหารหลักอาหารไทยที่ขึ้นชื่ออีกหลายอย่างท่เมื่อก่อนนั้น ชาวต่างประเทศต่างก้รู้จักกันดีก็เป็น ต้มยำกุ้ง ซึ่งมกจะติดปากคนทั่วไป แต่มาวันนี้ ก็เห็นจะเป็น มัสมั่น ที่ขึ้นชื่อที่เวลาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยเป็นอย่างมากเลย แต่พื้นๆ ที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน นั่นก็จะเป็นอาหารหลักของภาคอีสาน ก็จะเป็น ส้มตำ ซึ่งดั้งเดิม ของแท้ก็จะเป็น ตำปู ปลาร้า แต่ทุกวันนี้มีมากมายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ปู ปลาร้า ทะเล  แม้แต่ผลไม้ ที่นำมาตำรวมกัน แต่ที่จะใส่ให้มีรสชาดนั้นก็จะเป็น ปลาร้า ซึ่งเแป็นส่วนผสมหลัก
                                                                       
                    อาหารไทยนั้น มีมากมายหลากหลายเพียงแต่ว่า คนส่วนมากบางครั้งคิดว่าอาหารแพงถึงจะอร่อย แต่ก็ไม่แน่นอน เสมอไป เพราะว่าอาหารที่ถูก และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ก็มีมากมาย
เพียงแต่เรานั้น รู้ที่จะเลือกรับประทาน อาหารเสริมลดน้ำหนัก อีกทางเลือกที่เรานั้นสามารถดูแลตัวเอง เพีงอย่าไปยึดติดก็เท่านั้น อาหารยิ่งมีคุณค่าอยู่ที่ว่าเรานั้น ทานกับใครมากกว่า ไทยนั้นก็มีอาหารที่หาง่ายแบบสำเร็จนั้น ก็มีมากมายตามร้านสะดวกซื้อที่คุ้นเคยันดี และมีอยู่แทบทุกหัวระแหง ก็จะเป็น 7-11 ( เซเว่น อิเลฟเว่น ) ติดปากคนไทย แต่ที่แน่นอน ก็น่าจะเป็น ชั่วลูกหลานกันเลยทีเดียว อาหารไทยนั้น
ถ้าเลือกดีๆ ก็น่าจะมีคุณค่าเป็นอย่างมาก อย่างพริกที่คนโบราณให้ทานก้านพริกด้วยก็เพราะว่า  ก้านพริกมีสรรพคุณ แก้ท้องเสีย ส่วนขิง ข่า ก็ช่วยในการขับลม มะนาวก็มากด้วยวิตามิน ซึ่งปัจจุบัน ก็จะเห็นมี
การนำน้ำมะนาวเทียมมาใช้กันเป็นอย่างมาก ให้รสชาด แต่ความหอมก็ต่างกันเป็นอย่างมาก ธรรมชาติ ของคุ่าทางอาหาร เราไม่ต้องคิดอะไรมากเพียงแค่รู้ว่า เขายกให้ประเทศไทยนั้น เป็นคลังอาหารโลกได้
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้รู้แล้วว่า ประเทศไทยนั้น ยังอุดมสมบูรณ์ มากแค่ไหน เรียกมาแต่ครั้งโบราณว่า อู่ข้าว อู่น้ำ หรือที่เรียกว่า ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ ก็มีอยู่อย่างมากมาย ถึงกระนั้น สิ่งที่อยากให้คงอยู่นั้นก็จะเป็นเรื่องของน้ำใจ ที่นับวันจะจางหาย เพราะเราคิดว่า ไม่มีเวลา นั่นเอง ปัจจุบันก็จะอ้างว่า มัวแต่ทำงาน ข้างบ้านยังไม่รู้จักกันเลย ทั้งที่อยู่ติดกันมาเป็นสิบๆปี ซึ่งเมื่อก่อนนั้น ก็จะเป็น ข้าวปลาถ้าไม่มียังขอกันกินได้เลยอยากให้คนไทย มีซึ่งน้ำใจ อย่าไปยึดติดกับคุณค่าวัฒนธรรมต่างประเทศที่คิดว่าดี เพราะว่าสิ่งที่ดีนั้น บรรพบุรุษ ของเราได้คิดไว้ให้เราแล้ว ควรรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป ฝากด้วยนะคะ ด้วยรอยยิ้มที่มีคู่กันมาโดยก่อนนั้น คนไทยนั้น ก็จะเป็นยิ้มสยาม แต่เดี๋ยวนี้ เรื่องดีๆ เหล่านี้เริ่มจะจางหายไปแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ท่องเที่ยว ใจกลางกรุง จตุจักร เยาวราช สำเพ็ง พาหุรัด กรุงเทพฯ

           ยุคนี้แม้ว่าเศรษกิจโดยรวมของประเทศจะยังไม่ดีนัก และเป็นการช่วยประเทศในการที่จะไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศ เราจึงขอพาและแนะนำแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง ที่มีอยู่ในประเทศไทย ถึงแม้ว่าสินค้าโดยส่วนมากจะ นำเข้ามาจากต่างประเทศก็ตามที แต่ก็ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คู่กับประเทศไทยมายาวนานมีการค้าขาย ทั้งปลีกส่ง ที่คนไทยนั้นรู้จักกันดี และด้วยเป็นแหล่งที่มีราคาที่ดินที่อาจจะเรียกว่า แพงมากๆที่หนึ่งในประเทศไทยเลยทีเดียว  กล่าวถึงจตุจักร ที่คนคนส่วนมากก็เรียกกันติดปากว่าสวนจตุจักร นั้น มีความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่สมัยจอมพล ป พิบูลสงคราม เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2491 ก็มีมากว่า 66 ปี ด้วยที่มีเนื้อที่อยู่มากทางการรถไฟ จึงจัดให้เนื้อที่บางส่วนเป็นตลาดนัด โดยที่มีท้งหมด 27 โครงการ  แต่เพราะว่าด้วยเนื้อที่ที่เป็นการนัดเจอของนักชอ้ปปิ้งทั้งหลาย ที่เวลาหากันไม่เจอก็จะบอกกันไปที่หอนาฬิกา ซึ่งก็จะมีเพียงที่เดียว ในสวนจตุจักร เมื่อก่อนช่วงที่เริ่มมีตลาดมาใหม่ๆนั้น ก็จะมีการนำสินค้ามือสองที่เป็นของบริจาค จากต่างประเทศ เพื่อที่จะมาช่วยเหลือผู้ยากไร้ในประเทศที่สาม ทั้งพม่า กัมพูชา แต่ด้วยที่ประเทศเหล่านั้นต้องการเงินมากกว่า ก็เลยได้จัดสินค้าที่ส่งบริจาค โดยส่วนมากกก็จะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ซึ่งก็จะมาทางเรือ มีทั้งเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า กระเป๋า เป็นต้น โดยที่ใครที่อยากจะใช้ของแบรนเนมที่มีราคาถูก ก็จะไปกันที่สวนจตุจักรโดยที่พ่อค้า แม่ค้าส่วนมากก็จะซื้อเข้ามาทางอรัญประเทศ ซึ่งมีเนื้อที่ติดกับประเทศกัมพูชา แต่ด้วยของที่บริจากมานั้น เมื่อก่อนนั้น จะเป็นของดี มียี่ห้อ แต่ว่าจะมีมาเพียงชิ้นเดียว ถ้าเราชอบ ขนาดอาจจะใส่ไม่ได้ เพราะว่าขนาดนั้นก็จะเป็นไซน์ฝรั่ง คือใหญ่ ถ้าคนไหนตัวใหญ่นั้นก็จะได้เปรียญ ซึ่งก่อนนั้นก็จะเป็นของที่มาทั้งของที่ลักขโมยมาบ้าง แต่ก็ยังเป็นสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก เพราะมีรถเมล์หลายสายที่ผ่าน สายรถธรรมดาสาย3,8,26,27,28,29,34,38,39,44,52,59,63,77,90,96,104,108,122,126,134,136,138,145,182,188 แล้วก็ยังมีสายปรับอาาศ มี ปอ 3 ,28,29,34,39,44,59,63,77,104,126,134,138,145,157,177,502,503,309,510,512,517,524,529 แต่ด้วยปัจจุบันก็ได้มีรถไฟฟ้า BTS ปัจจุบัน็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้ไปได้อย่างไม่ต้องเสียเวลารถติด สิน้คาที่มีขายก็จะมากมายหลายอย่าง ทั้งสัตย์เลี้ยง รวมไปจนถึงของตกแต่งบ้าน ซึ่งหลายครั้งที่จะเห็นการวางขายตามแบกะดิน ก็มีซึ่งก็จะอณุญาติให้ขายในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป การชอ้ปปิ้งก็จะได้บรยากาศแบบ ถ้าหน้าร้อนก็จะร้อน ถ้าฝนก็จะฝน คือรับไปโดยที่เป็นการเดินที่เข้าไปถึงการเดินช้อปแบบ เก่าแก่จริงๆ  การซื้อขายแบบบ้านๆ ก็สามารถที่จะต่อรองราคากันได้ โดยตรง ซึ่งการจัดการของตลาดนั้น
ก็จะเป็ฯการฮั้วร้านค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ คือมีการเปิดจอง แต่ก็มีผู้เข้าไปจองถือสิทธิ์ แต่ก็จะให้คนขายเช่าต่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งก็เป็นราคาที่แพงขึ้นหลายเท่า ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สินค้านั้น ต้องอัพราคาขึ้นตามไปอย่างแน่นอน และหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แต่เสน่ห์ ของพ่อค้าแม่ขายก็จะอยู่ที่การ พูดจาที่ดึงดูดลูกค้าแบบ ที่เรียกว่า มันส์หยด
                                                                       
                    มาอีกแหล่งที่อยู่ใกล้กัน และเป็นแหล่งที่ค้าส่งเป็นส่วนมาก รวมไปถึง ตลาดคลองถมและตลาดขายส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปตลาดโบ้เบ้ เป็ฯย่านการค้าที่เรียกว่า มีทั้งของอย่างทองคำที่เป็นแหล่งนักช้อปที่รู้กันดี  กล่าวถึงคลองถมหลายคนก็ต้องคิดไปถึงของมือสองและของเก่า ทั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ และมอเตอร์ไซน์  เป็นย่านที่ตั้งระหว่าง ถนนวรจักรกับเจริญกรุงและเยาวราช เมื่อก่อนชื่อคลองสำเพ็ง และมีการทำถนนชาวบ้านจึงเรียกติดปากกันต่อมาว่า คลองถม ใกล้ๆกันนั้นก็จะเป็นถนนเยาวราช ที่ถ้าพูดถึงคนต้องคิดถุึง ทองคำ ที่มีร้านค้าขาย ทองคำรูปพรรณ กันอย่างมากมาย ที่ขึ้นชื่อก็เป็น ห้างทองเยาวราช และห้างทองฮั่วเซ่งเฮง  ความยาวของถนนยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และสร้างขึ้นสมัยพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว เหมือนกับต่างประเทศที่จะมีคนไทยเชื้อสายจีนมาอยู่มาก และจะเรียกว่า ไชน่าทาวน์ ของไทย เป็นแหล่งที่ไม่ว่าจะมีร้านทองมากมายแล้วยังมีภัตราคารอาหารที่แพง และอร่อยรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น รังนกกระจอก หูฉลามน้ำแดง แม้กระทั้งอาหารพื้นๆ ก็มีและก็อร่อยด้วย นั่นเอง
อย่างเช่น เกาลัต ที่มีขายอยู่แทบตลอดปี รวมไปถึงอุปกรณ์ ที่ใช้เวลาไหว้ตามเทศกาลต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ไหว้พระจันทร์ เชงเม้ง รวมไปถึงการไหว้การทำบุญ ที่วัดเล่งเน้ยยี่ รวมไปถึงการทำบุญบริจาคกับทางร่วมกตัญญูด้วย ทองคำที่นิยมไปซื้อนั้นก็ด้วยเหตุผลว่า ทองคำที่มาตรฐาน คือมีส่วนผสมของทองที่มีมากกว่านั่นเอง ตามมาด้วยย่านสำเพ็ง ซึ่งกอ่นหน้านั้นก็น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า สามแผ่น ซึ่งเมื่อก่อนนนั้น คนจีนอาศัยอยู่มากจึงย้ายไปที่ใหม่ คือสำเพ็งในปัจจุบันนั่นเอง ในภาษาจีน คิดว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า ซาเพ็ง แปลว่า ความดีสามประการ เป็นที่รวมของอุปกรณ์เครื่องมือ สมัยก่อนนั้นก็จะมีบ้านโคมเขียว ( ซ่องโสเภณี ) รวมอยู่ด้วย ที่ว่าจำนานร้านทองที่อยู่มานาน
ก็เห็นจะเป็นห้างทองโต๊ะกังนั่นเอง ติดกันที่ขายผ้ากันเป็นที่เลื่องลือก็น่าจะเป็น ถนนพาหุรัด ( Thanon Phahurat ) ที่ใครที่อยากได้ผ้าไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ราคาถูกแพง ถ้าหาที่อื่นไม่มี ที่นี่มีให้ครบแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผ้ากไมะหยี่ หนังแท้ หนังเทียม ผ้าไหม มัดหมี่ รวมไปถึงอุปกรณ์การตัดเย็บแทบจะทุกรูปแบบ รวมทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งอาจจะทำสำเร็จส่งไปยังตลาดโบ้เบ้ อีกด้วย ทุกวันนี้ยังมีการแสดง นาฎศิลป์ ชุดจีน โดยส่วนมากก็จะเป็นคนอินเดีย ( แขก ) ที่มาตั้งแต่สมัยก่อน ที่เข้ามาขายผ้าและรวมตัวกันจนถึงปัจจุบัน ที่ใกล้ๆกันนั้นก็เห็นจะเป็น บ้านหม้อ ซึ่งเมื่อก่อนนั้น มีคำพูดที่ว่า ถ้าจะเครื่องเสียง ต้องที่บ้านหม้อ แต่ทุกวันนี้ ก็มีรา้นขายเพชร ที่เป็นแหล่งขายส่งที่มากด้วยเช่นกัน โดยสามารถที่จะสั่งแบบได้เลยทีเดียว โดยเป็นปหล่งที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งแหล่งเหล่านี้ การเดินทางค่อนข้างรถจะติด จึงมีการนิยมใช้บริการรถสามล้อ ที่ชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อว่า ตุ๊กๆ นั่นเอง โดยมีขนาดเล็กและค่าบริการระยะใกล้ๆ นั้นไม่แพงนั่นเอง ถึงกระนั้น แหล่งที่ช้อปปิ้งนั้นยังมีอรกมากมาย แล้วแต่ว่าเรานั้นต้องการอะไร
                                                                         
       เมื่อมีแหล่งที่จะดึงเงินในกระเป๋าเรา การไปนั้น ก็ต้องระวัง มิจฉาชีพ ที่มีมาหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการล้วงกระเป๋า และการคิดค่าโดยสารที่แพงเกินไป แต่สิ่งที่ท่านขาดไม่ได้สำหรับท่านที่ชื่นชอบ ยาจีน ก็สามารถที่จะหาได้มากจากที่นี่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เก๋ากี็ รังนก หูฉลาม อาหารเสริมลดน้ำหนัก
ได้ด้วยเช่นกัน การเลือกซื้อสินค้าที่นี่นั้น ก็ไม่เหมือนในห้าง สามารถที่จะต่อราคาได้ แต่โดยส่วนมากนั้ให้เลือกร้านมาตรฐานจะบอกราคาเป็นจริง สินค้าที่นี่มักจะเป็นสินค้าที่มีราคาแพงก็อาจเป็นเพราะ ที่ดินในย่านแถบนี้นั้น ตารางวาละ ว่ากันเป็นแสนเป็นล้านกันเลยทีเดียวก็เป็นได้ การเลือกซื้อสินค้าที่คนส่วนใหญ่นั้นซื้อไปขายต่อยังแหล่งต่างๆ ทั่วไปนั้น ก็มักจะมาจากแหล่งค้าส่งเหล่านี้ เพราะว่าเป็นตลาดค้าส่ง ที่มีการส่งของออกไปต่างจังหวัดเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว การเดินทางนั้น ขากลับเข้าเขตในเมืองนั้น ก็มักจะไปหารถแท็กซี่ได้ที่ หัวลำโพง เพ่ราะว่ารถบริการนั้น ส่วนมากไม่เข้าไป เพราะว่ารถติด และส่วนมากเ็นทาง วันเวย์ การจะขับรถส่วนตัวไปนั้น ก็หาที่จอดรถยากลำบากอีกด้วย อดที่จะเล่าไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งสมัยก่อน พวกนักกเลงอั้งยี่ ก็มาจากเยาวราช นี่เอง ซึ่งสมัยก่อนก็ถือว่าเป็นอหล่งนักเลงอีกแหล่งทีเดียว แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วนะคะ การเดินทางควรใส่รองเท้าที่เดินง่าย เพราะว่า คุณจะได้เดินด้วยเท้าเป็นส่วนใหญ่ จะสนุกกว่านะคะ เงินในกระเป๋าก็สำคัญ ควรที่จะมีเงินปลีก ที่สามารถจ่ายค่ารถได้โดยที่ไม่่ต้องทอนเพราะจะเป็นการเสียเวลา เพราะว่ารุถติดมากเลย แหล่งนี้ก็ยังเป็นแหล่งที่มีการจำหน่ายอาวุธปืน ไม่ว่าจะเป็นปืนสั้น ปืนยาว แต่ก็ต้องมีใบอณุญาต จากรัฐก่อนนะคะ ถึงจะเป็นแหล่งซ์้อ ขายอาวุธ แต่ว่าการก่ออาชญากรรมนั้น ก็แทบจะไม่มีให้เห็นกันเลยอาจจะเป็นด้วยการที่มีความปลอดภัยสูงนั่นเอง เทศกาลตรุษจีนที่จัดอย่างยิ่งใหญ่รวมไปถึงได้กินอาหารเฮงๆ อร่อยๆ ก็ต้องที่นี่อย่างแน่นอน ที่นี่ที่ยังพลาดไม่ได้กับการได้เจอพระทองคำ น้ำหนัก 14 ตัน ที่วดไตรมิตรด้วย ตามความเป็นมานั้น ได้มีการเล่าว่า เป็นพระสมัยก่อนโบกปูนปิดไว้ ซึ่งเจ้าโอวาสในสมัยนั้นได้อยากจะบริจาคให้วัดในต่างงจังหวัด แต่ว่าไม่มีวัดไหนอยากได้ แล้วเมื่อนานเข้าปูนกระเทาะออก จึงเห็นเนื้อทองคำด้านใน เมื่อกระเทาะปูนออกทั้งหมด จึงเป็นทองคำเหลืองอร่ามทั้งองค์ อย่าลืมนะคะ ไปเที่ยวทั้งทีต้องมีสติ ทั้งอาหารอร่อย และของให้คุณต้องจ่ายเงินอีมมากมาย หรือว่าจะเป็นการทำเป็นธุระกิจได้ เพราะมีรถเมล์หลายสายที่ผ่านเป็นแหล่งค้าของส่งมากมายรับรองไม่ผิดหวังคะ   ตำนานถนนมังกร

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผลไม้ไทย ที่แสนดี มีประโยชน์

              ผลไม้ที่เป็นราชาแห่งผลไม่ไทย ที่หลายตนชื่นชอบ แต่สำหรับบางคนก็เหม็นเพราะว่ากลิ่นแรง ทั้งนี้ทั้งนั้น ก้เป็นของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ลักษณะของทุเรียน เป็นผลขนาดใหญ่ มีหนามแหลมแข็งอยู่รอบผล  สีของผลจะออกเหลืองอมเขียวปนน้ำตาล น้ำหนัก 1 ถึง 3 กิโลกรัม อาจมีใหญ่กว่าแต่ไม่มาก เนื้อใน สีเหลือง เป็นผลไม้ที่มีกลิ่นเแพาะตัว เป็นส่วนผสมของสารระเหยประกอบไปด้วย เอสเทอร์ คีโตน และกำมะถัน เป็นผลไม่มีน้ำตาลสูง มากไปด้วยไขมันและกำมะถัน ผู้ที่เป็นเบาหวานจึงไม่ควรรับประทาน เมืองไทย ถือว่าปลูกทุเรียนได้ดี และมีผลผลิตต่อปีนั้นมาก แต่ทุเรียนนั้น ไท่ใช่ผลไม้พื้นเมืองของไทย ทุเรียนนั้นเป็นผลไม้พื้นเมืองของประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่เมื่อ 600 ปีท่ผ่านมาเป็นที่รู้จักของประเทศตะวันตก ในศตวรรตที่ 19 อัลเฟรด รัสเซล วออเลซ นักธรรมชาติวิทยา ชาวอังกฤษ ได้กล่าวไว้ว่า เนื้อในเหมือน คัสตาร์ด ส่วนรสชาติ คล้าย อาลมอนสด์ แต่ในประเทศไทยนั้นก็นำมาทำเป็นของหวาน ที่มีราคา พอไปกันได้ นั่นก็คือ ข้าวเหนียวทุเรียน ซึ่งประกอบด้วยน้ำกะทิที่หอมกรุ่น ช้าวเหนียวที่หอมหวาน เป็นอาหารที่คนนิยมรับประทาน แต่ไม่เหมาะกับผผู้ที่เป็นเบาหวาน ทุเรียนมีมากว่า 30 ชนิด ที่รับประทานได้มี 9 ชนิด แต่มีเพียงชนิดเดียวที่ได้รับความนิยม มีสายพันธ์ มากกว่า 100 สายพันธ์  ประเทศไทยนั้น นิยมมากที่คนไทยนั้นรู้จักดีก็น่าจะเป็น พันธ์ก้านยาว ที่มีราคาแพงมาก ซึ่งบางฤดู นั้นที่มีผลผลิต ออกมาน้อยก็จะมีราคาสูงถึง ลูกละ 1,000 กว่าบาทเลยทีเดียว ซึ่งที่มีอยู่มากเป็น ที่จังหวัด นนทบุรี ส่วนอีกพันธ์ที่นิยมมากกว่าและราคามาตรฐานนั้น ก็จะเป็นพันธ์ หมอนทอง ที่ได้รับการปรับปรุง เรื่อยมา และเป็ฯทุเรียนที่ขึ้นชื่อและได้รับความนิยม และราคานั้น็ไม่แพงจนเกินไป เป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศมากที่สุด 
                                                          

             ทุเรียนในประเทศไทย สันนิฐานว่าน่าจะเข้ามาสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานว่าปลูกในภาคกลางของประเทศไทย ไม่มีหลักฐานว่านำมาจากไหน ครั้นสมัยรัตนโกสินทร์ ก็มี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธิบดี ( สุ่น สุนทรเวช ) ได้กล่าวถึงการกะรจายพันธ์ จากนครศรีธรรมราช มายังกรุงเทพมหานคร  ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๑๘ เป็นการขายพันธ์ด้วยเมล็ด และพัฒนามาปลูกด้วยกิ่งตอน จากการคัดเลือกพันธ์ดี 3 สายพันธ์ 1 อีบาตร 2 ทองสุก และ3 การะเกด ต่อมาก็เกิดลูกผสมขึ้นมามากมาย มึถึงกว่า 227 สายพันธ์ ทุเรียนเป็นไม้ผลยืนต้นไม่ผลัดใบ ไม่มียางเป็นใบเดี่ยว เกิดเป็นคู่ช่อบนกิ่งเดียวกัน เกิดตามลำต้น ดอกสมบูรณ์เพศ มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก 5 กลีบ บางครั้งก็มี 4 หรือ 6 กลีบ  เป็นผลชนิดเดี่ยว ผลมีหนามแหลมมีสีเขียว ครั้นสุกก็จะมีสีน้ำตาลอ่อน แตกตามส่วนของผล ซึ่งคนไทยนั้นก็จะเรียกกันว่า พู  ทุเรียนขึ้นได้ดี ในดินร่วนปนทราย และดินร่วนซุย ชอบแสงแดด น้ำปานกลาง เติบโตได้ดีในอากาศเขตร้อน ไม่ชอบอากาศที่มีอุณหภูมิ ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ซึ่งจะให้ผลหลังจากการปลูก 5 ถึง 6 ปี และให้ต่อเนื่องกว่า 10 ปี พันธ์ ี่ทนนิยมปลูกกันมาก มี ๔ พันธ์ คือ ๑. พันธ์ก้านยาว มีรสหวานมัน เมล็ดใหญ่ และมีราคาที่แพงมาก  ๒. พันธ์หมอนทอง มีผลใหญ๋ พูมักไม่ค่อยเต็มทุกพู ระหว่างหนามใหญ่จะมีหนามเล็ก แซมอยู่ทั้วไปซึ่งเรียกหนามชนิดนี้ว่า เขี้ยวงู ก้านผลแข็งแรงเนื้อหนา มีผล ละเอียด หวานมัน เม็ดเล็ก ๓.พันธ์ชะนี มีรูปทรงหวด กลางผลป่อง หัวเรียว มักจะปลูกทางภาคใต้ ๔ . พันธ์กระดุม ร่องพูค่อนข้างลึก รสชาติหวาน ไม่ค่อยมัน เนื้อจะเละง่ายเมื่อสุกจัด อีกสายพันธ์ ที่ไม่กล่าวถึงก็ไม่ได้เพราะว่ากำลังเป็นที่นิยม นั่นคือ พันธ์ หลงลับแล จากจังหวัดอุตรดิตย์ เพราะเป็นที่นิยมกันมาก และก็มีราคาแพง ซึ่งเป็นผลเล็ก แต่รสชาติ กรอบ อร่อย และกำลังเป็นที่นิยม ทุเรียนนั้น ก็มีการปลูกเพื่อการค้า แต่ก็มีหลายครั้งที่มีปัญหาด้านการตลาด จึงทำให้มีผลผลิต ตกค้าง ขาวสวนจึงได้นำมาแปรรูป หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด
เป็นต้น และเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ otop อีกด้วย และมีการนำมาำ ไอศรีม รวมทั้งขนมปัง และไส้ขนมหวานอีกด้วย เดี๋ยวนี้คงไม่มีที่ว่าเมื่อก่อนนั้น เขาจะนำเอาเมล็ดมาต้มกิน อร่อยดีนักแล 
           ตอนนี้ขอกล่วถึง มังคุด ที่เรีกกันและยกย่องให้เป็น ราชินี แห่งผลไม้ไทย ( Queen of Fruits )  โดยที่คนส่วนมาก สอนกันมาว่า ถ้ากินทุเรียนมากจะร้อนใน ให้แก้ด้วยการกินมังคุด ซึ่งแก้การร้อนใน ซึ่งก็ตัดกับทุเรียนพอดี นั่นเอง ภาษาอังกฤษ ( mangosteem ) ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า  (  Garcinia mangostana )มังคุดเป็นพืช ที่ต้องการอากาศที่มีอุณหภูมิ มากกว่า 4 องศาเซลเซียส เป็นไม้ยืนต้น สูง 10 ถึง 12 เมตร ใบเดี่ยว มียางเหลือง ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือวงรี ผลเป็นผลสด ค่อนข้างแข็งกลม แก่เต็มที่ออกสีม่วงแดง จำนวนกลีบเนื้อเท่ากับกลีบดอก ส่วนที่กินได้อยู่ในเปลือก มีสีขาวหอม รสชาติ หอมหวาน ละมุนลิ้น
เมล็ดทานไม่ได้ แต่โดยส่วนมากผู้บริโภค ก็มักที่จะกลืนกินเข้าไปด้วย การเลือกซื้อ ต้องลองบีบดู ถ้านิ่มติดนิ้ว ก็ถือว่าใช้ได้ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ หมู่เกาะโมลุกกะ และหมู่เกาะ ซุนดา กระจายจนถึงหมู่เกาะอินดิสตะวันนตก แล้วเข้ามาสู่ ฮอนดูรัส , ปานามา , กัวเตมาลา , เอกวาดอร์ ถึง ฮาวาย ประเทศไทยมีการปลูกมานานแล้ว และใน โรงพยาบาล ศิริราช ยังมีวังชื่อ วังสวนมังคุด และเป็ฯผลไม้ชนิดหนึ่งที่นำออกมารองรับคณะทูต ในสมัยรัชกาลที่ ๑ หลายคนให้มังคุดเป็นราชินี แห่งผลไม้ ก็อาจเพราะว่า กลีบเลี้ยงติดที่หัวขั้วของผล คล้ายมงกุฎของราชินี และรสชาติ ที่อร่อยจนยากที่จะหาผลไม้อื่น มาเทียบ ประโยชน์ ก็ทำได้หลายอย่าง ทั้งอาหาร คาว , หวาน เช่น แกง , ยำ มีประโยชน์ ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ สดใสเปล่งปลั่งอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน ได้มีการสกัดสารที่ได้จากเปลือกมังคุด คือสาร แทนนิน แซนโทน มีฤทธิ์ฝาด สมานแผล ส่วนเปลือกตากแห้ง ต้มกับน้ำ ฝนกับน้ำปูนใส ทานแกก้ท้องเสีย และยังใช้ทารักษาอาการน้ำกัดเท้า ( ฮ่องกงฟุต ) แล้วเปลือกยังมีสารกันเชื้อรา เหมาะแก่การหมักปุ๋ย ชาวโอลังอัสลี ในมาเลเซีย ใช้เปลือกรักษาแผลเปิดอีกด้วย   ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการนำมังคุด มาทดลอง และสามารถกำจัดเซลล์มะเร็ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลอดทดลอง  และที่คณะแพทย์ศาสตร์ ม. เชียงใหม่ ได้ทดสอบผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยให้รับประทานอาหารสูตรธรรมชาติและน้ำมังคุดสกัด ร้อยละ 80 มีความเปลี่ยนแปลงชีวิตดีขึ้น สามารถทานอาหารได้ และลดอาการเจ็บปวด บางรายสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่ยังไม่ได้เป็นการรักษาแต่มีภูมิคุ้มกันดีขึ้น 
นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงอีกด้วย และป้องกันสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ โรคซึมเศร้า มีสารชนิดหนึ่งที่ได้จากการสกัดจากมังคุด ช่วยสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด TH 1 และ TH 17 มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดและก็ยังมีการนำมาทำสบู่ เพื่อเป็นการรักษาสิวและแผลบนใบหน้าอีกด้วย ช่วยรักษาอาการ เข่าข้ออักเสบ ป้องกันตับเสื่อม ไตวาย 
                                                                              

           ประเทศไทยนั้น เป็นประเทศมีการปลูกมังคุดกันมาก ตามจังหวัด ระยอง และจันทบุรี ซึ่งราคาทั้งผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 35 ภึง 70 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม โดยการชั่งทั้งเปลือกนะคะ แต่ในความเป็นจริงนั้น ก็จะมาแพงตรงที่ 1 ไม่ใช้หน้า คือหน้าฝน หรือหน้าหนาวนิดๆ ก็จะมีการปลูกนอกฤดู ที่จะนำออกมาจำหน่าย ในราคาที่สูง แต่ถ้าอยากก็คงจะต้องซื้อ ส่วนทางด้าน มังคุดนั้น ก็อยู่ที่ประมาณ โลละ 40 บาท แต่ถ้าซื้อต้นทางก็จะถูกลง เพราะว่าไม่มีค่าขนส่ง หรือว่าค่าขนส่งถูกกว่านั่นเอง ผลไม้นั่นมีดีในตัว และประโยชน์มากมาย แต่คนส่วนมากนั้น ก็จะไม่ค่อยที่จะชอบรับประทนกัน อาจจะเป็นเพราะว่ายากแก่การรับประทาน และเดี๋ยวนี้ ก็มีอาหารทางเลือกที่ไม่มีประโยชน์ และนำกลิ่นผลไม้ มาปรุงแต่ง ให้คนสะดวกแก่การทานมากขึึ้น นั่นเอง การส่งออกนั้น ผลไม้ประเทศไทยนั้น ก็จะมีการส่งออกไปยังประเทศ จีน เป็นอันดับต้นๆ เพราะว่านิยมบริโภคกันมาก ด้วยที่ถูกตั้งให้เป็นทั้งราชาและราชินี แห่งผลไม้ไทย  คงจะเป็นเพราะเรื่องของรสชาติ ที่หวานอร่อยนั่นเอง จึงทำให้เป็นราชาและราชินีแห่งผลไม้ไป ประเทศไทยนั้นอุดมด้วยผลไม้ ที่หาได้ในประเทศราคาก็ไม่แพง ปต่ถ้าออกไปยังต่างประเทศแล้ว ราคาก็จะขึ้นอีกหลายเท่าตัว แต่ทั้งนี้ การส่งเสริมการส่งออกก็ต้องเน้นเหมือนกัน เพราะว่ามีข่าวมักจะออกมาบ่อยๆ ว่าชาวสวน บ่นว่าผลไม้ราคาไม่ดี ราคาตก ก็คงเป็นเพราะการขาดการส่งเาริม หรือว่าส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ ไม่ดีพอนั่นเอง ประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากมาย แต่ว่าคนกลับไม่นิยมเท่าที่ควร  อาจจะเป็นด้วยเหตุที่ว่าการเก็ยรักษาผลไม้สดนั้น เก็บได้ไม่นานด้วย นั่นเอง เกษตรกรชาวสวน คงต้องเน้นการแปรรูปสินค้าให้มีการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น และสามารถที่จะนำสารอาหารที่ได้จากตัวผลไม้นั่นคงอยู่ด้วย จะเป็นทางเลือกที่ดี ให้กับการตลาดเป็นอย่างมาก ตอนนี้ ก็อยากขอให้คนช่วยกัน บริโภคผลไม้ด้วยนะคะ เพราะประโยชน์ มีมากมายจริงๆคะ และยังเป็นการส่งเสริมให้ของดีและผลไม้ดีๆ ยังคงอยู่และราคาก็ไม่แพงด้วย ด้วยการรับประทานอาหารให้หลากหลาย ควรทาน อาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นส่วนช่วยในการดูแลคุณ เป็นอาหารเสริมที่ช่วย ให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย อีกทางเลือกที่คุณทำได้ 

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

                เมื่ออาเซียนจะรวมตัวกัน เป็นประชาคมอาเซียน หรือที่เรียกย่อว่า AEC เป็นแนวความคิดที่คิดว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดของอาเซียน ในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีการรวมตัวกันของประเทศสมาชิก วม 10 ประเทศ ดังนี้ ไทย , ลาว , พม่า , มาเลเซีย , เวียดนาม , อินโดนีเซีย , สิงคโปร , ฟิลิปปินส์ , บรูไน และกัมพูชาซึ่งจุดประสงค์ ก็เพื่อที่จะมีอำนาจต่อรองกับประเทศคู่ค้า เป้าหมาย เพื่อส่งเสริมให้เอเชีย มีความเจริญ มั่งคั่ง ประชาชนส่วนมากก็อยู่ดีกินดี และยกเว้น ภาษี สำหรับสินค้าบางชนิด และอนาคตก็จะมีการรวม จีน , เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ด้วย แต่การรวมตัว เรียกกันเต็มๆว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community – AEC) จะมีการเริ่มอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ การรวมตัวครั้งนี้ ก็เป็นการส่งเสริมนโยบายภาษี ( ยกเว้นสินค้าเพียงบางประเภท )  , ทรัพย์สินทางปัญญา( แต่บางประเทศ ก็ยังมีการละเมิดลิขลิทธฺ์สินค้าอยู่ )  , พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีการแบ่งงานและความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจนดังนี้ 1. ไทย สาขาการท่องเที่ยวและสาขาการบิน 2. สิงคโปร์ สาขาเทคโนโลยีการสนเทศ และสาขาสุขถาพ 3. เวียดนาม สาขาโลจิสติกส์ 4. อินโดนีเซีย สาขายานยนต์ และสาขาผลิตภัณฑ์ไม้ 5. พม่า สาขาผลิตภัณฑ์เกษตร และสาขาประมง 6. ฟิลิปปินส์ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ 7. มาเลเซีย สาขาผลิตภัณฑ์ยางและสิ่งทอ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ก็คือ 1. การขยายการส่งออกจากการยกเลิกภาษี บางรายการ 2. การส่งออกสามารถขยายตัว ไม่ต่ำกว่า 20 ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี 3. มีการค้าที่เข้มแข็งขึ้น 4. มีการลงทุน เพราะอุปสรรคการลงทุนระหว่างประเทศลดลง 5. ลดต้นทุนการผลิต ทั้งทางวัตถดิบ และด้านแรงงาน 6. เพิ่มอำนาจการต่อรองบนเวทีการค้าโลก 7. ยกระดับการเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งการศึกษาด้วย ผลกระทบ ที่ทางประเทศไทยเตรียมไว้ก็มีดังนี้ 1. ตั้งกองทุนเพื่อการปรับตัว เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิต และผู้ประกอบการด้านสินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม และบริการ ให้ปรับเปลี่ยนสามารถร่วมแข่งขันได้ 2. ป้องกันการนำเข้าที่มากขึ้น 3. เตรียมจัดการดำเนินการผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็มีมากมาย ประเทศที่น่จับตาก็จะเป็น ประเทศสิงดโปร์ เพราะว่าเป็นประเทศที่เหมาะกับการเป็นเมืองท่า และพลเมืองนั้นก็พูดภาษาอังกฤษ ได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นหลายๆ ประเทศต่างก็มีการตื่นตัวเรื่องการเรียนรู้ ภาษากันมากขึ้นเป็นอันมาก ไม่ว่าจะเป็นปะรเทศพม่า และเวียดนาม รวมถึงประเทศไทยเองก็มีการกระตุ้น เรื่องการเรียนภาษาและมีการแลกเปลี่ยนครู มาสอนภาษาของแต่ละประเทศด้วย เช่น คนไทยก็มีการไปเรียนภาษา พม่าด้วย พม่าและเวียดนามก็มีการเรียนถาษาไทยบ้าง แต่ภาษาที่เป็นกลางและสากลก็น่าที่จะเป็น ภาษาอังกฤษ ซึ่งแต่ละประทเศต่างก็ให้ความสำคัญ แต่ประเทศที่ได้เปรียบมากสุดก็น่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ เพราะมีการพูดเรียน ถาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางกันอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละประเทศต่างก็มีดีอยู่แตกต่างกันไป สิ่งหนึ่งที่หวังก็ไม่ว่าจะเป็นการได้ใช้วัตถุดิบ อย่างชาญฉลาด

              ตอนนี้ ทุกประเทศที่เข้าร่วม ต่างก็มีการวางแปลนไว้ ทั้งสำหรับปัญหาที่จะเกิดและนโยบายที่จะดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นเอง ดังเช่นประเทศไทยเองก็กำลังที่จะขยายถาษาให้คนไทยนั้นได้เรียนรู้ภาษาอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย ออกไปสู่อาจจะทุกพื้นที่ของประเทศ คือการเรียนรู้แบบจริงจัง และนำไปใช้ได้จริง เพื่อว่าจะเป็นการรองรับ นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในอนาคตนั้นเอง โดยประเทศส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีการตื่นตัวเรื่องการศัช฿กษากันเท่าไหร่นัก เว้นแต่ประเทศที่พัฒนาไปและก็จะเน้นเรื่องของการเข้าถึง ICT หรือ อินเตอร์เนตความเร็วสูง โดยรัฐจัดการให้ทุกโรงเรียน แต่ประเทศอื่นเขาทำกันล่วงหน้าไทยไปปี สองปีแล้ว แต่น้อยใจประเทศไทยที่เด็ก ป ๑ เพิ่งจะได้ใช้แค่ Tablet กับเด็กเพียงบางกลุ่มเม่านั้น รวมทั้งต้องปรับหลักสูตรการศึกษาเพื่อเป็นแบบเรียนที่เป็นมาตรฐานไปทั่วประเทศโดยเท่าเทียมกัน ครูก็ต้องไม่หมกเม็ด ในการเรียนการสอน ไม่ต้องคอยที่จะให้แต่การบ้าน
และคอยที่จะสอนพิเศษ และเมื่อพูดถึงประเทศลาว แม้จะมีประชากรที่น้อยกว่าประเทศไทยมาก เขาก็สามารถที่จะจัดการเสร็จไปกอ่นประเทศไทยร่วมปี ตอนนี้ อินเตอร์เนต เขาก็ใช้ระบบ 4 G ไปแล้ว ส่วนประเทศไทย 3 G ก็ยังไม่สมบูรณ์เลย  ในภาพรวมเป็นว่าประเทศไทยนั้นยังไม่ตื่นตัวพอ และในด้านอาหารที่ประเทศไทยนั้นก็ต้องเร่งที่จะต้องทำความเข้าใจกับอาหารฮาลาล ที่มีผู้นับถือ ศาสนาอิสลามต้องรับประทานให้ เข้าถึง ว่าอาหารประเภทใด มีกฏข้อห้ามอย่างไร และสามารถทำได้หรือไม่ ราคาเหมาะสมเพียงไร อาหาร ฮาลาล หมายถึง อาหารที่ผ่านกรรมวิธีถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลามที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน ยังรวมไปถึงผู้ผลิตยังต้องเแ็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามด้วย ถ้าผผ่านการตรวจสอบก็จะได้รับ การตราเครื่องหมาย ฮาลาลจากหน่วยงานของรัฐในแต่ละประเทศด้วย ซึ่งประเทศในเอเซีย นับถือศาสนาอิสลาม มากกว่า 400 ล้านคน ประเทศไทยก็ถือว่าเป็นประเทศที่ผลิตอาหารฮาลาลมากประเทศหนึ่ง แต่ภายในประเทศเองกลับหาทานได้น้อยมากอีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ข้อตกลงเรื่องคุณสมบัติมาตรฐานในแต่ละวิชาชีพ ที่ว่าด้วย จบปริญญาตรี มีประสบการทำงานไม่ต่ำกว่า 7 ปี สามารถโยกย้ายการทำงานในอาเซียน ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเทศไทยนั้นก็มีผู้ที่มีความสามารถอยู่มาก ส่วนประเทศที่มีพัฒนาไปมากกว่าไทย ก็มีเงินอยู่มากและก็อาจที่จะจัดจ้างผู้ที่มากดวยคุณสมบัตินี้ ให้ไปทำงานยังปะรเทศของตนโดยที่ให้ค่าตอบแทน แรวมไปถึงสวสดิการที่สูงกว่า จุดนี้ก็มีส่วนที่ระดับหัวกะทิของประเทศไทยนั้นก็อาจที่จะออกไปอยู่ยังต่างประเทศมากขึ้น หรือที่รียกว่า สมองไหล นั่นเอง เป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณถาพออกไปนั่นเอง การจัดการที่ต้องเร่งแก้

              ด้วยการรวมตัวที่กำลังจะมาถึง แต่ตอนนี้ที่ยังไม่ถึง แต่ด้วยการสื่อสารที่ทันสมัย วันี้ก็มีการขายไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมลดน้ำหนัก พืชผลทางการเกษตร ก็มีบ้างแล้ว ประเทศไทยนั้นก็ขาดด้านแรงงาน เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เห็นเมื่อครั้งรัฐได้ประกาศจัดระเบียบแรงงาน ต่างด้าวนั้น ก็ทำให้กระทบ ต่อธุรกิจ SME ขนาดเล็กไปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านที่ติดกับชายแดน แถว แม่สอด แถวติดทะเล ชุมพร และหลายๆที่นั้น ก็ทำให้ขาดคนทำงานไป หยุดไปหลายอาทิตย์ ส่วนคนไทยเองนั้น ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยสาเหตุที่ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ก็มีผลให้คนไทยนั้นเลือกงานมากขึ้น แต่ด้วยที่งานที่ใช้แรงงานนั้น โดยส่วนมากก็ยังเป็นงานที่ไม่ได้เน้นคุณภาพมากมายนัก ก็เลยทำให้ธุรกิจ ปหลายประเภท ต้องพึ่งแรงงงานต่างด้าวอย่างมาก ด้วยที่แรงงานต่างด้าว ต่างก็เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน ทำให้หลายครั้งที่ปัญหาอาซญากรรม ต่างๆเกิดขึ้นมาแล้วก็จับตัวคนร้ายไม่ได้ จึงต้องทำให้มีการจัดระเบียนแรงงานต่างด้าวด้วย นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งนั่นเอง ปัญหา ก็มีมาอีกอย่างที่ว่าหลายครั้งที่แรงงานต่างด้าว ถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ บางครั้งเอาไปออกเรือหาปลาเป็นปี ไม่ได้ค่าแรงก็มีมาก และหลายครั้งที่ มีการทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท ปัญหาอื่นอีกมากที่จะตามมา แต่ด้วยการที่ไม่รู้ว่ามครเป็นใคร นี่เองที่ทำให้หลายประเทศ ต้องคิดแก้ไว้ก่อน แล้วก็จะขอแนะนำนักธุรกิจ ทั้งหลายที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศต่างๆนั้น ก่อนอื่นก็ควรที่จะศึกษา ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมประเทศนั้นไว้ให้ดีด้วย เพราะว่าการที่จะทำอะไรนั้น บางทีบางครั้งก็เป็ฯประเทศที่มีกฎหมาย ปและบทลงโทษที่รุนแรง และอาจจะไม่ได้กลับเข้าไปยังประเทศนั้นอีกเลย หากเรานั้นไปทำผิดกฎหมายหรือ ระเบียบการของประเทศนั้น ตอนนี้เศรษฐกิจการค้ารถมือสอง ของไทยก็ประสบปัญหา อย่างมากแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ว่าเมื่อมีการเปิด AEC แล้วก็จะสามารถที่จะนำรถมือสองจากประเทศไทย ส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านได้ ด้วยการลงทุนที่มีข้อจำกัดน้อยลงนั่นเอง มีหลายจุดที่ประเทศไทยนั้นพอที่จะทำได้ที่เห็นอยู่อีกหนึ่งโครงการที่ทำไม่สำเร็จมาเป็น กว่าเกือบ 60 ปี นั้นก็คือ การขุดคอคอดกะ ซึ่งเป็นการทำท่าเรือน้ำลึกที่คาดว่าเป็นโครงการดีๆ แต่ไม่มีการทำให้สำเร็จ ยังเป็นโครงการในฝันที่จะสร้างเขตปลอดภาษี และเป็นท่าเรือที่ล่นระยะทางการเดินเรือและการขนส่งได้มากที่สุดทางหนึ่งด้วย ถ้าทำได้ ประเทศไทยก็จะเป็นการระบายสินค้า และส่งเสริมการส่งออกได้ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดครงการนี้เป็นโครงการระดับประเทศ ประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากสุกก็น่าจะเป็นประเทศสงิคโปร์ และมาเลเซีย ด้วยเพราะเหตุนี้หรือไม่ ที่โครงการนี้เกี่ยวข้องไปถึงกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย ไม่ว่าจะมีหรือไม่ก็ตามที ตอนนี้ปัญหาประเทศภายในก็วุ่นวายพอมากแล้ว ก็เพียงคนไทย มีวินัยและระเบียบมากอย่างประเทศญี่ปุ่น เราก็จะได้มีแต่รอยยิ้ม ที่จะสามารถไปไหนมาไหน อย่างปลอดภัย ไม่กลัวโจรอีกต่อไป และจะมีรอยยิ้ม ที่ออกมาจากข้างใน ที่เรียกว่า สยามเมืองยิ้ม อย่างเต็มภาคภูมิ

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

สัตว์เลี้ยง พื้นบ้าน หมา

                 สัตว์เลี้ยง ทุกวันนี้ก็มาจากสายพันธ์ของสัตว์ป่า ที่ครั้งดึกดำบรรพ์ นับหมื่นปี ที่มนุษย์ ได้นำมาเลี้ยงไว้ เพือเป็นอาหาร และนำมาเพื่อใช้เป็นพาหนะ ในการขนส่ง คิดไปว่าสมัยก่อนนั้นก็คงจะมีแต่ป่า ที่อุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน ถนนหนทางก็คงยังไม่มี พื้นโลกอุดมสมบูรณ์ พืชไม้นานาภัณฑ์ และการเริ่มที่จะเลี้ยงสุนัข ( หมา ) ก็มีมาประมาณเมื่อ 1 หมื่นปีที่แล้ว คาดว่าน่าจะนำมาเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร โดยนำสุนัขป่าเพศเมีย เพื่อที่จะได้ลูก แต่ก็ได้มีการพัฒนาการนำสัตว์จากป่ามาใช้งานเรื่อยมา ซึ่งก็ทั้งเป็นอาหาร เช่น วัว , หมู ,ไก่ , ปลา , แพะ , เป็ด ,ไก่ นำมาใช้ช่วยแบ่งด้านใช้แรง เช่น ช้าง , ม้า , ควาย ส่วนไว้ดูเล่นก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว ปลา นก โดยมีการนำสุนัข มาเลี้ยงคาดว่าจะมาจาก แถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แถวประเทศ จอร์แดน อิรัก อิหร่าน ซาอุอาระเบีย ตุรกี อิสราเอล เลบานอน ที่เรียกอีกชื่อว่า ยูเรเชีย เมื่อก่อนนั้น นำมาใช้ประโยชน์ เท่าที่จำเป็นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น การนำมาทำเครื่องนุ่งห่ม และอาหาร การเลี้ยงที่มีความผูกพันธ์กันมากขึ้น จนได้มีการให้ช่วยในการล่าสัตว์ อย่างสุนัข และนกอินทรีย์ และเหยี่ยว นั้น ทางตะวันออกกลางก็ได้ใช้ช่วยในการล่าสัตว์ มานานแล้ว แต่ว่ามาถึงยุคปัจจุบัน ก็จะเป็น สุนัข มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้ เหงา ช่วยเฝ้าบ้านด้วย ทั้งให้ความเพลิดเพลิน อดที่จะกล่าวถึงสุนัขไม่ได้ เพราะว่า มีการนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่น เป็นที่แพร่หลาย คิดว่าประเทศไทยนั้น ก็มีอยู่แทบจะทุกบ้านเลยทีเดียว สุนัขนั้นมีหลายสายพันธ์ ที่โด่งดังในประเทศไทยนั้น ก็มีหลายสายพันธ์ เช่น สุนัขพันธ์หลังอาน , พันธ์บางแก้ว  วึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีข่าวว่าได้มีโจร ขึ้นบ้านของนักร้อง ชื่อดัง ไชยา มิตรชัย และได้ถูกสุนัข พันธ์ บางแก้ว กัดจนได้รับบาดเจ็บ โดยที่ยังไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปเลย ทำให้สุนัข บ้านเราดังอีกครั้ง
                                                                                             
               ทุกวันนี้ หลายคนก็เลี้ยงเพราะว่า รักสัตว์ เลี้ยงไว้ให้ความเพลิดเดลิน โดยที่มีมากมายหลายพันธ์ ให้เลือกเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น ชิสุ , เชาเชา , ชิวาวา , ปอมเมอเรเนียน ( เป็นสุนัขทีุ่ณอั้ม พัชราภา ดาราชื่อดังเลี้ยงอยู่และรักมากด้วย ) , อเมริกัน บูลด็อก , อัลเซเซียน , พิทบลู เทอร์เรีย ( พันธ์ดุที่เลี้ยงไว้แข่งกัดสุนัขด้วยกัน ) แต่เมื่อสายพันธ์ ที่คนไทยส่วนมากนิยมก็เป็น พันธ์ไทยก็จะเป็น บางแก้ว และพันธ์ไทยหลังอาน มาทำความรู้จักกับ พันธ์ บางแก้ว สักหน่อยก่อนนะคะ ว่าเดิมทีนั้น สุนัขพันธ์บางแก้วนั้น เป็นสายเลือดผสม ระหว่าง สุนัขป่ากับสุนัขบ้าน ดดยที่ข้อมูลจากผู้ เฒ่าผู้แก่ เล่ากันให้ฟังว่า เมื่อก่อนนั้น ที่หมู่บ้าน บางแก้วบ้านชุมแสงสงคราม มีวัดบางแก้ว ตำบลท่างาม อำเภอ บางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งหลวงพ่อ มาก ได้เลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว และได้เลี้ยงสุนัขป่าไว้ด้วย ซึ่งต่อมาก็ได้ผสมพันธ์กับสุนัขที่เลี้ยงไว้ ซึ่งเมื่อออกมาก็ฒีนิสัยที่ดูร้าย และมีลักษณะที่สวยงาม ขนปุยยาว ซึ่งเมื่อก่อนนั้นก็ยังไม่ได้มีการซื้อขาย สุนัขกันซึ่งโดยมากก เมื่อสุนัขออกลูกมาคอกละหลายตัว ไม่อยากที่จะเลี้ยงไว้มาก ก็จะให้กับคนที่อยากเลี้ยง หรือไม่ก็เอาของไปแลก เป็นการตอบแทนกัน ซึ่งนิสัยส่วนตัวของสุนัข บางแก้วนั้น ก็เป็นนิสัย ที่หวงของทรัพย์สิน  และซื่อสัตย์ รักเจ้าของ สู้แบบถวายชีวิต  ทำให้มีความนิยมมาตั้งแต่ครั้งอดีต ลักษณะของ บางแก้วขนาดตัวจะไม่ใหญ่ ขนปุยยาว สง่างาม ว่องไว แข็งแรง กินง่าย หัวกะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม หูสั้นป้องไปข้างหน้า ภายในหูจะมีมีขนปลายปิดรูหู คล้ายหมาจิ้งจอก ตากลมเล็กรี จมูกดำ ฟันซี่เล็ก ขาวคม หางเป็นพวง ตั้งโค้งไปข้างหน้า นิสัย จะมีระบบประสาทที่ไวแม้กระทั่งเวลาหลับ มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเยี่ยม จำเสียงได้แม่น เป็นสุนัข ที่ชอบเล่นน้ำ แต่ตอนเล็กคือยังไม่ถึง 2 ปี นั้นก็จะเป็นสุนัขที่ชอบขุดดินเป็นอย่างมาก การเลือกซื้อ ก็ควรต้องให้มีใบ เพดดีกรี รับรองจากสมาคม ถึงแม้ราคาจะแพงขึ้นอีกหน่อย แต่ก็มั่นใจได้ว่า ได้ของแท้แน่นอน ส่วนเวลาที่ซื้อก็ต้องตกลงกันกับผู้ขายด้วยว่า ถ้าสุนัข เป็นโรคติดต่อจากผู้ขาย ผู้ขายก็จะต้องรับผิดชอบการอาบน้ำ ก็ควรที่จะอาบน้ำ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ระวังอย่าให้น้ำเข้าหู และหลังจากที่อาบเสร็จก็ควรที่จะเป่า และเช็ดขนให้แห้ง และควรที่จะนำสุนัขไปฉีดวัคซีน ตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะได้เป็นการป้องกันโรคไข้หัด ซึ่งเป็นโรคที่มักจะคร่าชีวิต สุนัขเป็นส่วนมาก มาถึงอีกสายพันธ์ที่ นิยมมากไม่แพ้กันคือพันธ์ สุนัขไทยหลังอาน ( Thai Ridgeback Dog ) เป็นสุนัขที่เรียกว่า เป็นสายพันธ์ประจำประเทศไทยเลยทีเดียว โดยจะเรียกว่า หมาไทย ( Mah Thai) มีการส่งออกไปที่ประเทศ ญี่ปุ่น , เอมริกา และอังกฤษ ความเป็นมาก็มีการบันทึกเอาไว้ว่า เป็นสุนัข พันธ์พื้นเมืองที่อยู่ในแถบ เอเชียตะวันออก กะโหลกเป็นสามเหลี่ยม กรามใหญ่ แข็งแรง หูตั้งชัน มีลักษณะพิเศษ คือ มีขนย้อนกลับที่เส้นกลางหลัง ( เป็นลักษณะเด่น ของสุนัขหลังอาน ) ในสมุดข่อยโบราณ สมัยพระพิมลธรรม ภายหลังื่อ พระเจ้าทรงธรรม เป็นเวลากว่า 300 ปี มาแล้ว ได้บันทึกไว้ว่า สุนัขตัวใหญ่ สูงเกินสองศอก มีสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน มีขนที่หางกลับ มันร้าย มันภักดีต่อผู้เลี้ยงมัน มันหากินขุดรูหาสัตว์เล็กๆ มันชอบตามผู้เลี้ยงไปป่าหากิน มันได้สัตว์มันจะนำหลับมาให้เจ้าของ ถึงต้นยางมีน้ำมัน มันมีกำลังกล้าหาญไม่กลัวใคร ธาตุสี่ทั้งหลาย รัชตะชาด มันมีโคนหาง มันมีหางเป็นดาบชาวป่า ถ้าผู้ใดมีไว้ครอบครองจะได้รับความจงรักภักดีจากมัน สุนัขหลังอานเมื่อก่อนก็มักจะเรียกว่า สุนัขพราน เพราะเอาไว้ช่วยเวลาล่าสัตว์นั่นเอง
                                                               
                   สุนัขนั้นเลี้ยงไว้ได้ทั้งเป็นเพื่อน และไว้คอยเฝ้าและปกป้องทรัพย์สิน ซึ่งต่อมาก็ฒีการพัฒนาสายพันธ์ให้มีความ สวยงามและตัวใหญ่ขึ้น และก็มีการเลี้ยงด้วยอาหารเม็ด อาหารเสริม ทั้งวิตามิน ซึ่งก็ไม่ได้รวมถึง อาหารเสริมลดน้ำหนัก การที่นิยมมาเลี้ยงเพราะว่าจะได้รับประโยชน์ และความเพลิดเพลิน
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่นิยมทานเนื้อสุนัข ซึ่งปัจจุบันนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควร แต่คนที่รับประทานสุนัข นั้น ของไทยก็มีการทำเป็นตลาดสุนัข เลยก็มี่ ท่าแร่ จังหวัด สกลนคร ซึ่งปัจจุบันก็มีการทำลดน้อยลงไปมากเพราะว่า ผู้คนส่วนมากไม่เห็นด้วยนั่นเอง และทางด้านประเทศเวียดนาม และประเทศจีนนั้น ก็จะคิดว่า สุนัขนั้น เป็นสัตว์เลือดอุ่น และจะนิยมทำเป็นอาหารรับประทานในหน้าหนาว เพราะมีความเชื่อว่า จะทำให้ร่างกายอบอุ่นนั่นเอง แต่ที่ด้วยทุกวันนี้ หลายคนที่มีความเมตตาสงสาร สุนัข ก็มักที่จะเก็บสุนัขจรจัด นำมาเลี้ยง โดยที่หลายครั้ง ต้องเดือดร้อนเพราะว่า ทั้งค่าอาหาร ค่ารักษา ซึ่งสุนัขที่ดูแลนั้น โดยส่วนใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บ หรือไม่ก็พิการ เป็นที่น่าสงสารเวทนาเป็นอย่างมาก  จึงอยากจะฝากถึงผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงสุนัข ว่า หากจะเลี้ยงสุนัข ก็ต้องคำนึงถึงด้วยว่า การเลี้ยงนั้น เรามี่ความพร้อมมากน้อยแค่ไหน และจะเลี้ยงได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะถ้าเกิดวันหนึ่ง สุนัขที่เราเลี้ยงมานั้น บาดเจ็บ
หรือพิการ เรานั้นจะยอมรับได้หรือไม่ เพราะถ้าเรานั้นมีความพร้อม ปัญหาสุนัขจรจัด และถูกทอดทิ้งก็จะหมดไป ปัญหาบางคร้งที่คนเลี้ยงโดยส่วนมากนั้น มักจะเจอก็เป็นการที่สุนัข นั้นถ่ายไม่เป็นที่ อย่างหลายครั้งที่คนพาสุนัข ไปเดินเที่ยว สวนสาธารณะ หรือแท้แต่ถนนสาธารณะ ก็มักจะเห็นกองอุจาระ
ของสุนัขอยู่บ่อยๆ ซึ่งถ้าเป็นปะรเทศที่เขาเจริญแล้ว เวลาที่เขาจะพาสุนัขไปเดินเล่น หรือออกไปนอกบ้านนั้น เขาก็จะเตรียมถุง เอาไว้ใส่เลยทีเดียว ไม่ให้ สกปรกเด็ดขาด เพราะว่าค่าปรับแพง แถมยังมีการฟ้องให้เลี้ยงไปเลยก็ยังมีมาแล้ว และอยากจะกล่าวปิดท้าย เรื่องความน่ารักของสุนัข ผู้ซื่อสัตย์
ที่รอเจ้าของ ที่ลืมไว้เป็นเวลา นับปี แล้วก็ตายตรงที่รอเจ้าของนั้นเอง เรื่องเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อว่า ฮาซิโกะ เป็นสายพันธ์ อะกิตะอินุ เจ้าของตั้งชื่อให้ว่า ฮะชิ ซึ่งเมื่อเจ้าของกลับมาจากทำงาน เจ้าฮาชิ ก็จะมานั่งคอยที่สถานี รถไฟ แต่เมื่อเจ้าของนั้นเสียชีวิต ในปี ค.ศ. ๑๙๒๕ เจ้าฮาชิ นั้นก็ยังมารอเจ้าของ
อยู่ที่สถานีรถไปนั้นทุกวัน เป็นเวลากว่า ๙ ปี จนแก่และได้เสียชีวิตที่สถานีรถไฟ ที่นั่งรอการกลับมาของเจ้าของนั่นเอง เป็นการกตัญญู มากโดยทุกวันนี้ ก็มีหลายคนที่เลี้ยงและผูกพันธ์กับสุนัขเป็นอย่างมาก โดยที่เรียกว่า ให้หลับนอน ด้วยกันเลยทีเดียว แต่ก็อยากฝากด้วยนะคะว่า การที่จะให้สุนัข หลับนอนเตียงเดียวกับเรา หรือแม้กระทั่งในห้องเดียวกันนั้น ก็ควรที่จะระวังเรื่องของ เชื้อโรค และขน ซึ่งอาจทำให้เรานั้นเกิดโรคภูมิแพ้ และมีหลายครั้งที่เจ้าของนั้น โดนเจ้าเห็บ , หมัด ที่มาจากสุนัขนั้น ทำให้ไม่สบายโดยที่ไม่รู้สาเหตุได้ด้วย