เมืองไทย ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งเป็นการก่อการร้าย ที่ไม่คิดว่าจะมีมาก่อนเช่นกัน แต่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการวางระเบิดที่รุนแรง ที่มีผู้เสียชีวิตที่แยกราชประสงค์ 20 คน โดยการก่อการร้ายครั้งนี้ นั้น ได้มีการระบุว่า มีการวางไว้หลายจุด แต่ระเบิดเพียง 2 จุดคือที่แยกราชประสงค์ และที่ท่าน้ำสาธร แต่ที่ท่าน้ำสาธรนั้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก็ทำการหวดวิตก ให้ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเห็นการท้าทายในยุคนี้ แต่ทั้งนี้ ก็เคยมีประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจับตัวผ้ค้าแรงงาน และการส่งตัวชาวอุยกูร์ กลับไปของรัฐบาลมีการลงความเห็นของสื่อต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศกันอย่างมากมาย การที่ส่งชาวอุยกูร์ กลับประเทศ นั้นก็เคยเกิดการประท้วงที่ประเทศ ตุรกี ซึ่งก็มีการทำลายสถานทูตของไทย และจนได้รับการยกเลิก เพราะเกรงจะไม่ปลออดภัย แต่เมื่อการประท้วงเกิดได้ไม่นาน ที่แยกราชประสงค์ ก็เกิดมีการระเบิดเกิดขึ้น ซึ่งก็ทำให้มีผู้เสียชีวิต ถึง 20 คน นับว่าเป็นการก่อเหตุการครั้งรุนแรงครั้งหนึ่งในใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย มีการสกัดจับและให้รางวัลแก่ผู้นำจับ เป็นเงินรวมแล้วถึง 3 ล้านบาท เลยทีเดียว การระเบิดครั้งนี้ ทำให้ท้าวศาลมหาพรหม ได้รับความเสียหายบางส่วนซึ่งต่อมาก็มีการบูรณะในเวลาต่อมา ท้าวมหาพรหม เป็นสิ่งที่มีผู้คนศรัทธาจากทั่วสารทิศ และเป็นจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นคนไทย จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ก็เป็นที่รวมของชาวต่างชาติจุดหนึ่งเลยทีเดียว โดยการวางระเบิดนั้น อาจจะมีเป้าหมายเพื่อที่จะเอาชีวิต ชาวจีนเป็นส่วนใหญ่
เมื่อเกิดระเบิด ขึ้นมาแล้ว ทำให้เกิดการเฝ้าระวังไปทั่วประเทศ เพราะคิดว่าคงจะไม่หยุดแค่จุดเดียว และไม่รู้เป้าปมายว่าประสงค์ อะไร ทำให้ทั้งหทาร ตำรวจ ต่างก็ออกมาเฝ้าระวังแทบจะทุกจุดในกรุงเทพฯ สร้างความหวาดวิตกเป็ฯอย่างมาก มีการสกัดด่านเข้าออกทั่วประเทศทุกจุด แต่กระนั้นคนไทยก็ยังท่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไป การระวังตอนแรกนั้น ก็มีหลายกระแส โยงไปถึงผู้ก่อการร้ายทางภาคใต้ การทำงานของเจ้าหน้าที่เข้มข้นมาก แต่กระนั้นก็ไม่ค่อยจะมีการให้น้ำหนักกับการก่อการร้ายข้ามชาติมากนัก คิดแต่เพียงการก่อการร้ายภายในประเทศ เมื่อเหตุการณ์ คลี่คลายมาถึงวันนี้ ทางตำรวจ ก็ได้สามารถจับตัวคนร้ายได้แล้ว ซึ่งสามารถจับได้ที่ด่านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งก็มีผู้ต้องสงสัยและถูกออกหมายจับด้วยกัน 8 คน แต่มือวางระเบิดนั้น ที่ยอมรับสารภาพโดยการจับกุมของเจ้าที่ คือนายอาเดม ราซัค ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้วางระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งเมื่อวานก็นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งนายอาเดม บอกว่าเป็นชายเสื้อเหลืองที่อยู่ในกล้องวงจรปิด และวางระเบิดเพราะโกรธแค้นแทนชาอุยกูร์ และตัวเองก็เป็นชาวอุยกูร์ ด้วยเช่นกัน การก่อการร้ายครั้งนี้ มีผู้ร่วมขบวนการอยู่หลายคนแต่ตัวนายอาเดม เองเป็นผู้วางระเบิด ซึ่งก็มีการรวมมือทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่มีการออกมายืนยันของผู้ก่อการร้าย ที่ออกมาแสดงตัว โทษครั้งนี้ก็น่าจะต้องโทษประหารชีวิต อย่างแน่นอน โดยที่ผู้ต้องหาให้การว่า ได้เอาระเบิดมาวางและมีอีกคนจุดชนวนระเบิด บนสถานี BTS ส่วนตนก็ได้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่ลุมพินี แล้วก็ได้ไปวางระเบดอีกลูกที่ท่าน้ำสาธร การวางระเบิดสองครั้งก็อาจจะเป็นการทำให้เจ้าหน้าที่สบสน และหาทางหลบหนีอออกนอกประเทศนั่นเอง แต่เมื่อจับได้แล้วก็ต้องสืบหา ตัวคนร้ายที่เหลือกันต่อไปนั่นเอง
ประเทศไทยนั้น ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ เพราะว่าเป็นประเทศที่สงบ และไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง มาก่อน การเฝ้าระวังจึงไม่แน่นหนาเท่าที่ควร ไม่ว่าวัตถุที่ประกอบระเบิดนั้น ก็หาได้ในประเทศ และชายแดนนั้น ก็มีทางติดต่อกับหลายประเทศ างออกก็มีอยู่หลายทางการเฝ้าระวังจึงยากมาก คงต้องให้พี่ น้องชาวไทยนั้น สามัคคี และเป็นเ็นหูเป็นตา เฝ้าระวังกันด้วยอีกทางหนึ่ง สังคมก็จะเป็นที่น่าอยู่ และจะยังคงเป็นแหล่งน่ามาพักผ่อนไม่ว่าทั้งคนไทยเองและชาวต่างประเทศ การที่จะให้เพียงรัฐ เข้ามาจัดการเองนั้น ก็จะเป็นการลำบากสักหน่อย เพียงถ้าเรามีความรัก สามัคคี เป็นผิดเป็นผิด อย่ายึดติดเพียง อำนาจของเงินทอง การเป็นอยู่ก็จะดีขึ้น เป็นผลตามมาเอง ต่างชาติที่เข้ามานั้น ก็มักจะมีหมดไม่ว่าจะประสงค์ร้ายเพียงใด ถ้าเรานั้นรักกัน สร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้น และสร้างรวยยิ้ม สร้างความน่าอยู่ให้กับประเทศ ซึ่งทุกวันนี้ คำว่าสยามเมืองยิ้มนั้น ก็แทบที่จะเลือนไปจากสังคมไทยไปเสียแล้ว อยากให้มีสิ่งดีๆ และสังคมรวมถึงประเทศ ที่น่าอยู่ เราต้องร่วมมือกัน ทำวันนี้ให้ดี ด้วยมือน้อย อาหารเสริมผิวขาว และหวังว่าถ้าทุกคน หรือแม้แต่ส่วนใหญ่ที่ทำได้ ประเทศก็จะน่าอยู่อย่างแน่นอน