เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับชื่อของอาจารย์ประมาณ ทนายความชื่อดังที่ออกรายการทางทีวีให้ความรู้กับประชาชนบ่อยๆ เรื่องของเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เอง อาจารย์ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความชื่อดัง โพสต์ facebook วันนี้มาดอนเมืองจะไปเชียงราย จะโหลดกระเป๋าไม่ทัน เลยต้องหิ้วกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องไปด้วย ก็คงจะเป็นใบใหญ่ไม่เบา แต่ปรากฏว่าในกระเป๋ามีครีมมีของเหลว ซึ่งแต่ละขวดมีขนาด 120 กรัม กับ 150 กรัม ห้ามนำขึ้นเครื่อง ( แต่ถ้าไม่เกิน 100 กรัม สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ) ก็เป็นกรดสายการบินของประเทศไทยแต่เมืองนอกน่าจะใกล้ๆกันนะคะ ห้ามนำขึ้นเครื่องอันนี้ก็เป็นเรื่องสิคะ การประมาณก็เลยได้บอกว่า ผมขอฝากไว้ก่อนเดี๋ยวให้คนมาเอา เขาบอกไม่รับฝาก อาจารย์ประมาณก็น้อยใจตรงที่ว่าดูเอาเถอะครับพี่ขนาดเป็นเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยกัน น้ำใจหาไม่ได้เลยครับ เดี๋ยวผมเอาไปฝากไว้ที่ร้านค้าเองวันหลังค่อยมาเอา เขาก็บอกไม่ได้เพราะอยู่ในเขตตรวจสัมภาระ ให้เราก็จะไม่ทันขึ้นเครืองเลยต้องหยุดสนทนาผมเลยดึงเอาเข็มล้างหน้ากับน้ำมันรกแกะ กองไว้ที่โต๊ะใกล้ๆที่ตรวจสัมภาระ เพราะกลัวจะตกเครื่อง ได้กล่าวไว้ว่า ถือว่าลักทรัพย์แล้วก็ถ่ายภาพไว้ ใครผ่านไปช่วยดูหน่อยนะครับของผมยังอยู่หรือเปล่า ซึ่งกันและข้อความดังกล่าวไป ได้มีชาวโลก social เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่าก่อนขึ้นเครื่องควรที่จะรู้กฎการแพ็คกระเป๋า ถ้าทุกๆคนก็มีกฎหมายอยู่แล้วถ้าของเหลวปริมาณมากเกินไปก็ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้
บางครั้งคนเราก็ต้องทะเลาะกันก่อนถึงจะรู้เรื่อง จะให้รู้หมดทุกอย่างก็คงเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ ก็ต้องมีผิดมีภาพมีเรื่องที่ไม่รู้กันได้เหมือนกัน เมื่อก่อนนั้นไม่มีข้อห้ามตรงนี้หรอกค่ะ แต่มาติดตรงที่ว่าโลกและพัฒนาขึ้นได้คิดระเบิดที่ทำมาจากเจลผสมกัน ไม่เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเลยห้ามนี่แหละ แต่ก็น่าน้อยใจจริงๆ ที่บางครั้งเราต้องซื้อมาด้วยเงินที่ไหลแพงหลายอยู่เหมือนกัน แล้วแต่ด้วยที่โหลดกระเป๋าไม่ทัน เลยทำให้ต้องทิ้งของเรานี้ไปไม่มีการรับฝากจริงๆ เพราะการขึ้นเครื่อง ก็ต้องให้เช็คอินก่อนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็ต้องเดินซื้อของ ก็เป็นการช็อปปิ้งเสียเงินอีก ถ้าวันนั้น ก็ตกเครื่องอีก แต่ถ้าเอกขเนกที่เราเช็คอินทางโทรศัพท์เลย อันนี้เราก็ไม่สามารถที่จะโหลดกระเป๋าได้ หรือเราได้เราก็ต้องมาก่อน 1 ชั่วโมงอีก แต่ถ้าเช็คอินก่อนแล้วเราไม่โหลดกระเป๋า เราก็สามารถมาได้ก่อนครึ่งชั่วโมง แต่ถ้ามาไม่ทันจริงๆ เราได้เช็คอินไปแล้ว ไม่ย้ายไม่เคลื่อนตัวไม่เลื่อนตั๋ว ถือว่าเสียหรือเสียเปล่า เงินเปล่าเลย โดย อาหารเสริมผู้ชาย ขอบคุณมากค่ะ อุทาหรณ์สอนคนที่ยังไม่รู้ค่ะ
ทาง อาหารเสริมผู้ชาย ต้องขอขอบคุณ อาจารย์ประมาณ ที่เผยแพร่เรื่องนี้ เพราะผลายคนที่ยังไม่รู้ และก็ต้องเสียเงิน เสียทอง ส่วนของนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาเอาไปทิ้ง หรือว่าเอาไปขายต่อ แต่ที่แน่ๆ เจ้าของต้องทิ้งอย่างแน่นอน ควรทีจะมีการบอกกล่าวประชาสัมพันธ์ หรือก็ติดเอาไว้ด้านนอก ก่อนที่จะถึงเข่ตตรวจสัมภาระ ก็ได้นะคะ