เหมือนเอเชียเรา และการที่อยู่ก่อนแต่งก็เป็นการอยู่แบบมีการวางแผน ครอบครัว คือเมื่อพร้อมก็จะแต่งกัน แต่ส่วนมากก็จะเลิกกันไปก่อน แต่เอเชียซึ่งประเทศไทย สมัยก่อนก็เรียกได้ว่า พอได้เสียใคร ตนนั้นก็จะเป็นเมียโดยพฤตินัยไปจนวันตายกันเชียว ซึ่งเมื่อสมัยปู่ สมัยตา ก็เลยมีการฉุดมาทำเมีย ซึ่งก็ไม่ได้มีการฟ้องร้องกันเหมือนทุกวันนี้ เพราะเมื่อก่อนนั้น สิ่งที่ทำ เขาก็รับผิดชอบคือใจนักเลงด้วย ว่างั้นหละ ก็จะอยู่กินกันไปจนตายไปข้างเลยหละ มาเข้าเรื่องกัน เรื่องที่มีคนเห็น รูปที่คุณมาร์กี้ ถ่ายกับคุณป็อก บ่อยๆ เป็นรูป ที่อยู่ในลิฟท์ ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอญยู่ว่า น้องมาร์กี้ ราศรี กับคุณ ป๊อก ภัสสรกรณ์ หนุ่มไฮโซ ซึ่งเป็นทายาท ตระกูลดัง และเป็นลูกชายของคุณอาภัสรา ด้วย ซึ่งต่างก็คบหาเป็นแฟนกัน ซึ่งต่างก็ไม่ได้ปิดอะไร และเมื่อมีคนมาคอมเม้นต์ รูปที่ถ่ายที่บริเวณลิฟท์ นั้นบอกว่าคงจะอยู่ด้วยกัน
ซึ่งทางตัวน้องกี้เองก็บอกว่า ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพียงแต่บ้านใกล้กัน ไม่ถึง 1 ร้อยเมตร ก็เลยไปมาหาสู่กัน เพราะมีหลายครั้งที่ไปกินข้าวบ้านคุณป็อก และคุณป็อกก็มาทานข้าวที่บ้านมาร์กี้ แต่ก็ไปกันหลายคน โดยเพื่อนฝูงก็ไปด้วย โดยการให้สัมภาษณ์เมื่อมาร์กี้ ได้ไปเปิดตัว มิวสิกเพลง เซตแล้วตบ เพลงประกอบการแข่งขันวอลเล่ย์บอล ซึ่งเนื้อเรื่องก็เป็นการปิ๊งกันของนักวอลเลย์บอลกับโค๊ช ซึ่งถามมาร์กี้ ว่า นอยด์มั๊ยก็ตอบว่าไม่นอยด์ เพราะเนือ้หาเป็นแบบนั้น และมาร์กี้ก็ได้ฝากบอกแฟนที่เป็นห่วงด้วยว่า สิ่งที่ทำนั้น บริสุทธื์ใจ ไม่มีอะไร อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ไม่มีอะไรปิดปัง บ้านเราอยู่ใกล้กัน ก็ไปมาหาสู่กันปรกติ และไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี ไม่ซีเรียส ค่ะ ส่วนทางด้านคุณ ป็อก ก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรมาก เพียงแต่ว่ากลัวแต่มาร์กี้ จะเสียหาย และเราก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี ซึ่งมาร์กี้ก็ได้ฝากขอบคุณ แฟนที่อยากให้มีครอบครัว ซึ่งทางด้านมาร์กี้ ก็ได้บอกว่า ตนก็อายุไม่น้อยแล้วนะ ซึ่งก็ขอให้คณมาร์กี้ สุขสมหวัง แต่งงานไวๆนะคะ
เมื่อประเด็นของคุณมาร์กี้ ถึงแม้จะเป็นลูกครึ่งฝรั่ง แต่เธอก็ยังให้การเคารพ ขนบธรรมเนียมของไทย มาดูสังคมไทยทุกวันนี้ ตรงกันข้าวเลยทีเดียวเพราะว่า จากสถิติแล้วผู้หญิงไทยเสียตัว เฉลี่ยอายุน้อยที่สุดในเอเชีย ควรจะภูมืใจดีมั๊ยเนี่ย แต่สิ่งที่มากกว่านั้น ก็จะเป็น การที่นักศึกษา ที่ส่วนใหญ๋ พ่อ แม่ หาเงินให้เล่าเรียนนั้น ต่างก็อยู่หอ โดยที่จะอยู่กินกันกับแฟน โดยที่ทางบ้านนั้นไม่เคยรู้กันมาก่อนเลย ถ้าลองไปสำรวจดูก็จะรู้ได้เลยว่า มีตริงอละเยอะด้วย ซึ่งบางรายก็มีลูกและเลี้ยงลูกไปด้วยเรียนไปด้วยก็มี ซึ่งสิ่งนี้ก็ไม่ควร เพราะจะทำให้เสียหลายด้าน ไม่ว่าด้านจิตใจ และด้านการศึกษา แต่เมื่อมาอยู่ห่างไกลตา ปู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ ก็เป็นไปตามกระแส โดยจากการสำรวจของทาง บริษัท อาหารเสริมลดน้ำหนัก สำรวจมานั้น ก็ได้รับคำตอบว่า มีไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ ที่เมื่อนักเรียนนักศึกษาเป็นแฟนกันและได้เสียกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นรื่องปรกติ แล้วในทุกวันนี้ เพียงแต่ไม่มีใครที่ทำกล้ายอมรับกัน ที่จะอยู่ด้วยกัน และะสร้างครอบครัวด้วยกัน ส่วนมากแล้วเมื่อจบแล้วก็จะเลิกรากันไปในที่สุด ด้วยเหตุผลฟลายปรการเพราะ ตอนที่เรียนอยู่นั้น ต่างก็ไม่ต้องดิ้นรน หาเงิน หางาน และไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่เมื่อเรียนจบแล้ว ต้องดิ้นรนกัน มุ่งหวังจะสร้างฐานะ และอยากมีรายได้ จึงมีแนวทางที่เป็นจริงมากขึ้น และจะสนใจกับอนาคตมากกว่าก็เท่นั้นเอง แต่ ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ผู้หญิงก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่า
ถ้ามีลูก ก็อยากจะสอนลูก แต่เมื่ออยู่ไกลลับหูลับตา ก็คงต้องปล่อยไป เพียงแต่ว่าเราได้สอนดีที่สุดแล้วก็พอ