สิ่งที่ศิลปิน คาดหวังมากก็คือการที่มีคนมาแทน เพื่อจะเป็นการสานต่องานและผลงาน ออกสู่สังคมและสายตาของผู้ที่ชื่นชอบงานด้านศิลปะ ซึ่งานด้านศิลปะ แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ วิจิตรศิลป ซึ่งก็เป็นความรู้ทั่วไป เป็นงานที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเน้น ในเรื่องของความงาม ค่าเป็นสำคัญ แต่จะเน้นความปราณีต ให้วิจิตรพิศดารหรูหราเกินการใช้สอย อาจเรียกได้ว่า ปราณีตศิลป์ และอีกอย่างก็เป็น ประยุกต์ศิลป์ ซึ่งก็เน้นด้านประโยชน์ใช้สอย ควมสวยงามเป็นอันดับรอง ก็จะมีทั้ง พานิชย์ศิลป์ มัณฑนศิลป์ รวมถึง การตกแต่งภายใน สถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และผังเมือง อุตสาหกรรมศิลป์ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งงานที่ทางด้านท่าน อ.เฉลิมชัยนั้นก็ได้ทุกรูปแบบ เพราะไม่ว่าจะเป็นด้านการวาดรูป การสร้างถาวรวัตถุ และพระเครื่อง ที่เรียกกันว่า พุทธศิลป ซึ่งหลายท่านก็อาจจะงง ว่าทำไม ชาวพระเเครื่องชอบเอาคำนี้มาอ้างเพื่อเป็นการค้าขาย แต่ในส่วนลึกแล้ว ก็รู้กันดีว่า ส่วนมากที่เล่นหา เช่าพระนั้นก็มาจากเชื่อในอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งก็มักจะเรียกว่า พุทธคุณ ซึ่งก็จะมีทั้ง หนังเหนียว คงกระพันชาตรี ฟันแทง ปืน ยิงไม่เข้า เมตตามหานิยม คือใครพบเห็นเกิดความรักใคร่ เมตตาปรานีต่อตน แคล้วคลาด ก็หมายถึง
การที่รอดพ้นปราศจากโภยภัยทั้งมวล ซึ่งทุกวันนี้ ก็มีอีกหลายอย่างที่ทุกวันนี้ หามาได้ไม่ว่าจะเป็น โคตรรวย โคตรเศรษฐี มหาเศรษฐี เรียกทรัพย์ ซึ่งก็เป็นชื่อที่แล้วแต่ท่านจะตั้งชื่อเพื่อเป็นศิริมงคล กับพระเครื่องรุ่นนั้นๆ ซึ่งก็จะได้รับความนิยมตามชื่อหรือไม่ก็อยู่ที่ลูกศิษย์ลูกหาปั่นราคากันละครานี้ ซึ่งงานพุทธศิลป ของศิลปินดังนั้น ส่วนมากเมื่อออกมาจำหน่ายแล้ว ก็หมดตั้งแต่การสั่งจอง ปาลจัตฉักษ์ แล้วคนก็มาขายใบสั่งจองแล้ว ราคาก็พุ่งขึ้นแบบหลายเท่าตัว หรือบางชิ้นหลายร้อยเท่าเลยก็มี
ศิลปิน ที่จะรังสรรค์งานศิลปะนั้น ต้องมีทั้งพรสวรรค์ พรแสวง และความมุมานะ อุตสาหะเป็นอย่างมาก ที่เราเห็นรูปที่เหล่าศิลปินรังสรรค์ผลงานออกมานั้น เขาไม่ได้เขียนหรือทำออกมาง่ายๆ เพราะต้องใช้เวลา ค่อยๆทำไปวันละนิด วันละหน่อย ซึ่งวันนี้ ก็ได้มีแววของเด็กอัจฉริยะ ในด้านการวาดภาพพุทธประวัติ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งก็มีอายุเพียง ๖ ขวบ ด้วยความสามารถที่จะวาดภาพพุทธประวัติ โดยที่ผสมกับลายไทย มีอยู่หลายลายไม่ว่าจะเป็นลายกณก ซึ่งก็มี ๖๖ ปาง และแบ่งได้เป็น ๓ อิริยาบถ อย่างพระเครื่องที่นิยมก็เป็น ปางสมาธิ ที่เรียกว่าปางตรัสรู้ และส่วนเนื่องราวของเด็กมหัศจรรย์ ก็เพราะว่า น้องไอซ์ สามารถวาดรูปพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่มีใครสอน และการจับดินสอวาดที่เป็นการกำ ไม่ได้เป็นการจับแบบปรกติ และบ้านของน้องไอซ์ ด.ช.นัทธกรณ์ ศรีพะลาน มีอายุเพียง ๖ ขวบ มีการวาดรูปโดยการได้ไปจดจำ มาจากหนังสือพระ ตามผนังโบสถ์ ซึงเมื่อมีการวาดที่ออกมาแล้วก็เก็บรายละเอียดด้วยลายกณก และลายไทย เข้าไปดูสวยงาม เกินกว่าที่เด็กจะวาดได้ ซึ่งเมื่อได้ข่าวออกโชเชียล ท่าน อ.เฉลิมชัย ก็ได้ออกมาบอกว่าจะให้เงิน 1 หมื่นบาท ไว้เป็นการเดินทางมาหา อาจารย์ที่วัดร่องขุ่น และท่านจะไ้ดรับเป็นศิษย์ และจะสอนการเทคนิคต่างๆ รวมไปถึงการจับให้ใหม่เพราะเกรงว่าการจับแบบน้อง ก็ยังวาดภาพได้ก็ถือว่าเก่งมาก แต่ถ้าวาดบนผ้าใบและเป็นภาพแนวตั้งก็อาจจะลำบาก ซึ่งก็จะได้ส่งเสริมกันต่อไป เพราะเด็กที่มีพรสวรรค์แบบนี้หายาก และยังกล่าวอีกว่า อยากให้มีศิลปินแบบนี้ อยู่ในเมืองไทยเยอะๆ
ซึ่งก็ได้สร้างความปลาบปลื้มให้กับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเราก็ต้องรอดดูว่าอนาคต เราจะได้เห็นผลงานของน้องไอซ์ ในระดับโลกและจะมีผลงานที่วันหนึ่งข้างหน้าอาจจะเป็นผลงานของโลกสักอย่างใครจะรู้ได้ เพราะด้วยที่ว่าการมีเวลาอีกมา ซึ่งน้องตอนนี้ อายุเพียง ๖ ขวบเขียนได้ขนาดนี้ แล้วถ้ามีการสนับสนุน และส่งเสริมจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว คาดว่าประเทศไทยจะมีศิลปินระดับโลก และได้เห็นผลงานี่เรียกว่าชื่อก้องโลก ก็ได้ เพราะอย่าง อ.เฉลิมชัยนั้น กว่าจะถึงวันนี้ ก็ไม่ได้มาแบบง่ายๆ ได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว อุปสรรคนานัปประการ ซึ่งเมื่อตอนที่ท่านมีเงินแล้ว นั้นท่านก็ได้เล่าว่า ไอ้รถเบนส์ เนี่ยมันดียังงัย มันขับนิ่มแค่ไหน ก็ได้ซื้อมาคันหนึ่งป้ายแดง แต่ซื้อมาแล้วก็ได้จอด และได้ทำคอกกั้นเอาไว้ เพราะขับไม่เป็นจน หนูกัดสายไฟขาดหมด ซึ่งก็เป็นศิลปินที่อารมณ์ดี และเวลาที่พูดแกมตะโกนของท่านก็เป็นเอกลักษณ์ ปาลจัตฉักษ์ ส่วนตัวไปเลยก็มีเสน่ห์ ไปอีกแบบ ซึ่งลูกศิษย์ที่มีอยู่กับท่านก็มีเก่งๆ อีกหลายคนแต่ท่านก็บอกว่าต้องหาเอกลักษณ์ของตัวเองให้เจอ แล้วก็จะเก่ง ซึ่งเราก็หวังว่าอนาคตผลงานของน้องไอซ์ จะออกมาเป็นแบบไหน แล้วเราก็อย่าลืมน้องไอซ์ ก่อนนะคะ เพราะศิลปินน้อยๆ กำลังหล่อหลอมอยู่ อาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆคะรอดูผลงานอยู่นะคะ