วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

พ่อเลี้ยงชั่ว ข่มขืนลูกเลี้ยง 1 ขวบ แถมแม่ยังเอาน้ำลวก เป็นตายเท่ากัน

       ไม่น่าเชื่อว่า จะเกิดขึ้นมาแล้ว เกิดอีก เรื่องของมนุษย์ ที่บอกว่าไม่น่าเชื่อกับความเหี้ยมเกินมนุษย์มนา ต้องบอกว่าไม่บ้าก็ต้องเสียสติ เมื่อพ่อเลี้ยง ซึ่งเป็นคนไทย แต่ลูกเลี้ยงเป็นกัมพูชา วัย 1 ขวบ กับ 5 เดือน ขณะที่แม่ชาววกัมพูชา ใช้น้ำร้อนกรอกปาก จนเป็นแผลพุพองเต็มตัวอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ 2 ผัวเมียต้องสงสัย เค้นสอบอย่างหนัก จนฝ่ายสามียอมรับสารภาพว่า ได้อาศัยช่วงที่เมียไม่อยู่ ได้ข่ใขีนลูกสาว ทางด้านแม่ใจบาป ได้เสังเกตุเห็นลูกร้องไห้ไม่หยุด เลยต้มน้ำร้อน เฒกัษ  ผสมกับน้ำเย็นให้กิน ซึ่งก็น่าจะเป้นน้ำรอ้มมากกว่าเพราะว่า ปากพองเป็นแผลอย่างแรง เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด
          เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จังหวัดชลบุรี โดยทาง บก.ภ.จังหวัดชลบุรี พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 11.30 น. ได้แถลงการจับกุมตัวนายปิยะ โพธิ์สังข์ อายุ 21 ปี ที่ตามบัตรประชาชน คือ 50 หมู่ 12 ต.แพด อ. คำตากผ้า จังหวัด สกลนคร ประกอบอาขชีพคนงานก่อสร้าง ซึ่งได้มาทำงานที่อาคารแห่งหนึ่ง ถนนสายห้วยตะพาน ม.3 ต.บึง อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี และทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กับนางนิด ชินนานิด อายุ 21 ปี เท่ากัน เป็นภรรยาชาวกัมพูชา ข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุ ให้ได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส
         สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากโรงพยาบาล แหลมฉบังว่า ได้รับตัวเด็กหญิง บี ( สมมุตินาม ) อายุ 1 ขวบ กับ 5 เดือน ซึ่งมีสัญชาติกัมพูชา ได้เข้ารับการรักษา ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายแขนซ้ายท่อนบนหัก ขาท่อนบนหักทั้ง  2 ข้าง ที่สำคัญ อวัวะเพศฉีกขาดอักเสบมีเลือดไหลตลอด คล้ายถูกข่มขืน ทวารหนักเป็นแผลฉกรรจ์ ปากบวมพองคล้ายถูกน้ำร้อนลวกผิวหนังลอกถึงหน้าอกมีอาการบาดเจ็บสาหัส  ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาสอบสวน ซึ่งเมื่อภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลแล้ว เฒกัษ  จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และได้นำส่งตัวหนูน้อยส่งต่อไปยังโรงพยาบาลชลบุรีแล้ว และยังอยู่ในห้อง ไอซียู และจากการสอบสวนนางนิด ผู้เป็นแม่แท้ๆ ได้ให้การว่า ด.ญ.บี เป็นลูกของตนที่เกิดกับสามีเก่าชาวกัมพูชา และได้เลิกกันไปและได้ย้ายมาอยู่กินกับนายปิยะ
สามีใหม่ชาวไทย อาชีพทำงานก่อสร้าง ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมาตนออกจากห้องพักซึ่งเป็นแคมป์คนงานได้ออกไปซื้อกับข้าวให้กับสามี พอกลับมาก็พบลูกสาวมีบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ มีเลือดไหลไม่หยุด สอบถามสามีก็ได้ให้การว่า ไม่ได้ทำอะไร และเห็นว่าเด็กไม่เป็นอะไรมากก็เลยไม่ได้ส่งโรงพยาบาล จนเมื่อวันที่ 24 ก.ค. เห็นนายปิยะ ใช้เท้ากดที่หน้าบริเวณหน้าอกลูกสาว จึงเข้าไปห้ามปรามและต่อว่า จนมีปากเสียงกันรุนแรง จนนายปิยะโมโหจับศรีษะลูกสาวโขกกับพื้น และตนก็ได้เข้าไปอุ้มลูกออกมา แต่ก็มีการยื้อและนายปิยะดึงแขนลูกอย่างรุนแรง จนลูกร้องลั่น และที่สุดก็ได้แย่งลูกออกมาได้ และหลบหนี ซึ่งไม่คิดว่าลูกแขนหัก และได้พาลูกสาวกลับห้อง จน 26 ก.ค. ได้ต้มน้ำร้อนกับน้ำเย็นให้ลูกกินเพราะเห็นว่าร้องไห้ไม่หยุด เฒกัษ หลังจากกินเสร็จเด็กแน่นิ่งไป สักพักจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนงาน นำส่ง ร.พ.และต่อมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ สอบสวนจับกุม พ่อเลี้ยงมาเค้นสอบ จนให้การรับสารภาพว่าได้ ก่อเหตุข่มขืนลูกเลี้ยงจริง โดยอาศัยช่วงที่ภรรยาไม่อยู่ และตัวเองเกิดการมณ์ทางเพศ และเรื่องที่ตนดึงจนแขนเด็กหลุด ส่วนเรื่องแผลพุพองไม่รูู้เรื่อง ส่วนการสอบสวนนางนิ ยังให้การวกวน อาการเด็กขณะนี้ยังอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง แพทย์ต้องรอดูอาการ ชั่วโมงต่อชั่วโมง เลยทีเดียว
          ตอนนี้ อาหารเสริมลดน้ำหนัก หลายครั้งหลายวัน และนับวัน คดี ก็ยิ่งที่จะรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อย คงจะต้องมีสักคดีตัวอย่าง ที่จะเป็นการเตือนของผู้ที่กระทำความผิดทั้งหลาย ได้แล้วว่า เรื่องของการลงโทษอย่างรุนแรงและสาสม ยังคงจำเป็นและให้มีอยู่ เพราะถ้าไม่มี ก็จะมีเหตุรุนแรง แบบนี้ต่อไป อีกไม่รู้ถึงเมื่อไหร่ การข่มขีนเด็กซึ่งเป็นลูกเลี้ยง และกระทำอย่างโหดเหี้ยม ผิดวิสัยของมนุษย์มนา ไม่มีคำตอบใดจะมาอธิบายได้ กับการสังเวยตัณหาของคนเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แล้วการค้าประเวณีนั้น ควรที่จะมีมั๊ย เพื่อเป็นการลดอาชญากรรม และเป็นการเพิ่มอาชีพซึ่งบางครั้ง เราก็น่าที่จะเปิดโลกทัศน์เพื่อที่จะเป็นการทำให้ประเทศ น่าอยู่ยิ่งขึ้น ทั้งการลงโทษที่จริงจัง เด็ดขาด ไม่ต้องมีการลด ไม่ว่ากรณีใดๆ ตัดสินแล้วก็จัดการเลย อย่ารอเพื่อลดโทษ ซึ่งเราก็ไม่ได้เห้นข่าวการประหารในเมืองไทย นานแล้วนะคะ ซึ่งแล้วอาจด้วยที่ เมืองไทยโทษไม่หนัก อีกหน่อยคนผิดคงแห่กันมาเมืองไทยอย่างแน่นอน