วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ช็อค น้องเมย์ ความหวังแบดมินตันไทย อาจจะอดแข่งโอลิมปิก

           ความหวังอีก 1 ของไทยในกีฬาโอลิมปิก 2016 กับกีฬาแบดมินตัน น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ซึ่งโอลิมปิกครั้งนี้ น้องเมย์ ก็เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ อัญเชิญธงไตรรงค์ขึ้นู่ยอดเสาอีกด้วย แต่เมื่อมีประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่า มีการตรวจพบสารกระตุ้น ในตัวน้องเมย์ ซึ่งที่แข่งแบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย 2016 ประเทศจีน เมื่อเดืนอเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก วาด้า WADA ซึ่งถ้าไม่ผ่านจริงก็จะส่งผลให้ น้องเมย์ หมดสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งหลายกระเเสข่าวก็ออกมาบอกว่า ขณะนี้น้องเมย์ได้ถอนตัวจากการอันเชิญธงมนงานพิธีเปิด ด้วย แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งประเทศไทยได้รับสิทธิ 52 คน จาก 16 ประเภทกีฬา ซึ่งกรณีน้องเมย์นี้ ก็เป็นนักกีฬาที่เป็น 1 ความหวังของประเทศไทย กับกีฬาแบดมินตัน นายธนา ไชยประสิทธฺ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทยกล่าวว่า จากปัญหาด้งกล่าวไม่ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้ แต่ก็ยอมรับถ้าโดนตัดสิทธิ์ก็แย่ที่สุดคงต้องรอการชี้แจงจาก สมาคมแบดมินตันสโมสรบ้านทองหยอด กำลังยื่นหนังสือว่าเกิดจากความไม่ตั้งใจ คาดว่าน่าจะเป็นตัวยาสเตียรอยด์ ที่เมย์รับรักษาอาการบาดเจ็บก่อนไปแข่งขันที่เมืองจีน ซึ่งแพทย์ของทีมเป็นคนฉีดให้ เป็นเพียงการักษาอาการปวดเข่า ที่ไม่ใช่แพทย์ด้านกีฬา ซึ่งก่อนฉีดเมย์ก็ถามว่าฉีดได้หรือไม่ ฉีดได้จริงๆ หรือ แพทย์ก็บอกว่าได้ไม่มีปัญหา จนท้ายที่สุดก็เข้ามาจนถึงกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ นักแบดชาวมาเลเซีย มือวางอันดับ 1 ของโลก ก็โดนตรวจเจอ ยาบำรุงกำลัง โดนแบนไป 8 เดือน ถ้าเป็น สเตียรอยด์ ลงโทษหนักกว่า 2 ถึง 4 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังไม่มีคำตัดสินออกมา เราก็ยังถือว่ายังบริสุทธิ์อยู่ ซึ่งเมื่อน้องเมย์ ก็ได้โพสต์ในอินสตาแกรม ส่วนตัวว่า I'm faded ซึ่งก็หมายถึง ความท้อแท้ เหมือนดวงดาวที่ค่อยๆดับแสง
            อย่างไรก็ตามเมื่อนายเเพทย์ มีชัย อินวู๊ด ผอ.กองกีฬาเวชศาสตร์ ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่าได้มีการตรวจสารต้องห้ามกับนักกีฬาไทย ทั้ง 52 คนที่ได้ควอลิฟาย ไปโอลิมปิก ตลอด 2 เดือนไม่ผลเป็น + แม้แต่คนเดียว ส่วนเรื่องของน้องเมย์ ยังไม่มีการแจ้งผลมาแต่อย่างไร ถ้าตรวจพบจริงจะต้องแจ้งไปยังสมาคม แล้วจึงแจ้งมายัง กกท. อีกครั้ง ซึ่งเมื่อก่อนนั้น น้องเมย์บาดเจ็บที่เข่า แล้วเข้าไปพบแพทย์ ได้ระบุว่า เข้ามีน้ำมาก เนื่องจากใช้งานหนักเกินไป และมีรายงานด้วยว่ารักษาโดยการฉีดยา ซึ่งก็ส่งผลให้ไม่ผ่านในการแข่งขันที่จีน และทางด้านนาง กมลา ทองกร กล่าวว่าเรื่องนี้ ยังไม่ขอออกความเห็นแต่อย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โอลิมปิกสากลยังไม่มีการตัดชื่อน้องเมย์ ออกจากการแข่งขันโอลิมปิกและคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยกำลังติดตามเรื่องนี้ อย่างใกล้ชิด
           ถ้าเรื่องนี้ ทางวาด้า ตัดสินออกมาว่าน้องเมย์ ผิดจริง ไม่ใข่แต่น้องเมย์เท่านั้น ที่เสียใจ มีทั้ง อาหารเสริมลดน้ำหนัก และคนไทยทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ เพราะน้องเมบ์ ก็เป็นอีก 1 ความหวัง ของคนไทยในโอลิมปิกในครั้งนี้ด้วย และน้องเมย์ก็อาจจะไม่รู้ ว่ายาที่ฉีดรักษานั้นจะร้ายแรงขนาดนี้ เพราะถ้ารู้เชื่อได้เลยว่าไม่ฉีดอย่างแน่นอน ซึ่งก่อนนี้ ก็มีคำตัดสิน ที่นักเทนนิส ระดับโลกตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน ก็คือ มาเรีย ซาราโปวา จากการตรวจปัสสาวะที่ออสเตรเรีย แล้วก็โดนแบน 2 ปี รวมไปถึงโอลิมปิก ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งซาราโปวา มีสารเมลโดเนียม ในร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หัวใจใช้ออกซิเจนน้อยลง และทำให้เนื้อเยื่อของกล้าวเมื้อไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งเราก็คาดหวังว่า ผลตรวจจะออกมาในทางที่ดี เพราะว่าถ้ารู้คงไม่เสี่ยงกับการรักษาแบบนี้ อย่างแน่นอน ซึ่งขนาดยาบำรุง ยังโดนเลย การตรวจนี้ ก็ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่กีฬาครั้งนี้ ก็มีนักก๊ฬาถอนตัว หลายคนนะคะ เพราะเป็นเรื่องของโรคระบาดของไวรัสซิกา ด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องเมย์ สู้ๆนะคะ ศาลยังไม่ตัดสิน ก็ยังถือว่าบริสุทธิ์ อยู่นะคะ
           เพิ่มเติม เรื่องน้อเมย์อีกนิดนะคะ เพิ่งจะคิดได้คะ ว่า ถ้าเกิดนะคะ ว่าน้องเมย์โดนแบน 4 ปี คือเป็นการทำโทษ มาคำนวณดูแล้ว ก็เท่ากะว่า น้องเมย์ก็จะหมดสิทธิ์ เล่นโอลิมปิกในสมัยหน้าด้วย เพราะ 4 ปี แล้วพอพ้นโทษมาได้ก็จะมีเวลาเก็บคะแนน แค่เดือน 2 เดือน ซึ่งก็น่าจะเป็นช่วงที่ ไม่มีการแข่งขันเสียด้วย เท่ากับว่าได้เริ่มเล่นโอลิมปิก ตอนอายุ 29 แล้ว ซึ่งก็คิดว่า สำรหรับนักกีฬาระดับโลกแล้ว ยากมากๆ หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย  แล้วลงแข่งรายการไหนก็ไม่ได้ แล้วรายได้น้องเมย์ก็จะต้องลดลง สปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนทั้งหลายก็คงต้องถอนตัวออกมา ซึ่งก็ต้องถือว่าโทษหนักเกินไปจริงๆ แต่ในที่นี้ยังไม่สรุปออกมาก็ไม่เป็นไรคะเพียงคิดเผื่อเอาไว้ แต่เมื่อคิดไว้ด้วยนะคะว่า ถ้าเป็นจริง ก็คงเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะคงไม่มีใครที่รู้ทั้งรู้ว่า สารสเตียรอยด์ ฉีดไม่ได้แต่ก็ยังฉีดเข้าไป ส่วนตัวน้องเมย์ เชื่อได้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ส่วนหมอนี่สิคะ ไม่รู้มากก็คงรู้น้อยอย่างแน่นอน ว่าฉีดไม่ได้แต่ก็ยังฉีดเข้าไปให้ แต่ทั้งนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอการตัดสินจากทางสมาคมแบดฯ ส่วนเราก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนา ให้ผ่าวิกฤต ครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดี นะคะและขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิง่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่มนสากลโลก จงช่วยให้น้องเมย์ ผ่านไปได้ และได้เข้าไปเล่นในกีฬาโอลิมปิก แล้วก็คว้าเหรียญทอง มาให้คนไทยได้ชื่นชม และมีความสุขกันถ้วนหน้า ซึ่งถ้าการแข่งโอลิมปิก ครั้งนี้ ไม่มีน้องเมย์ เชื่อได้เลยว่า มีคนอีกไม่น้อยที่ไม่อยากดูกีฬาคะ สาธุ ๆ ๆ
        เพิ่มเติม  ไม่โดนแบนแล้ว น้องเมย์ไม่ได้โด๊ป เรื่องที่น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ที่ก่อนนั้น ตรวจเจอ โด๊ป ที่จีน ซึ่งก็มีการส่งไปตรวจต่อยังประเทศ ญี่ปุ่นนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นเราก็ได้เพียงรอ เพราะจะประกาศอีกหลายวัน  เพราะน้องเมย์ ต่างก็ว่าฉีดยาแก้ปวดเข่า ซึ่งรายงานข่างล่าสุด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ผลตรวจออกมาแล้ว ไม่พบสารกระตุ้น ( ยาโด๊ป ) ซึ่งก็เป็นอันว่า น้องเมย์ได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก  ตามเดิม และยังกล่าวอีกว่าจะตั้งใจ คว้าเหรียญโอลิมปิกมาให้ได้ เพื่อเป็นของขวัญให่พี่น้องชาวไทยคะ ก็โล่งไปอีกครั้ง และขอดีใจกับน้องเมย์ด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ด้วยคะ 
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น