วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ลูกชาวอียิปต์ ตามหาแม่ชาวไทยจนเจอ ใช้เวลา 7 ปี อยู่แบบระเหเร่ร่อน

            เรื่องนี้ก็ก็ว่าไปเหมือนนิยาย แต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อที่ผ่านมา นายธาตรี เชาวชตา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยในต่างประเทศ เผยว่าเมื่อ พฤศภาคมที่ผ่านมา น้องตั๊ม ได้เดินทางมายังสถานทูตไทยประจำกรุงไคโร โดยเดินทางมาเพียงลำพัง เพื่อให้ช่วยเหลือตามหาเเม่ชาวไทย ซึ่งก็เพียงกระดาษใบเดียวที่เขียนเป็นภาษาไทยว่า นางหลิว บิลาล โดยชีวิตที่พรัดพรากจากมารดาก็เริ่มเมื่อ ปี พ.ศ.2551 ตอนนั้น อายุเพียง 7 ขวบ นางลิว ผู้เป็นแม่ก็ได้ส่งตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นพ่อกับแม่ก็ได้เลิกกัน แม่ก็ได้มีสามีใหม่ ซึ่งพ่อเลี้ยงก็ได้ดูแลตนด้วยตอนยังเล็ก และเมื่ออายุได้ 7 ขวบ แม่ก็ได้ส่งไปให้ผู้เป็นพ่อเป็นคนดูแล ที่ประเทศอียิปต์ ซึ่งนางหลิว ก็ได้เปิดเผยว่า เพราะตอนนั้นไม่มีเงิน และด้วยที่คิดว่าลูกไปอยู่ที่นั่น คงได้เรียนหนังสือดีกว่าอยู่กับตัวเอง จึงได้ส่งตัวไปให้พ่อดูแล และผู้เป็นพ่อก็ได้ส่งตัวเอง ให้ไปอยู่กับแม่เลี้ยงดูแล ส่วนตัวคุณพ่อก็บินมาทำงานที่พัทยา แล้วตัวเองเมื่ออยู่บ้านก็จะถูกทำร้ายร่างกาย และทุบตี จนทนไม่ไหว จนต้องหนีออกจากบ้าน ระเหเร่ร่อน อยู่อย่างนี้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมีอายุ 14 ปีแล้ว  ซึ่งนางหลิวก็บอกว่า หลังจากนั้น 1 ปี ก็พยายามติดต่อลูก แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมาแต่อย่างไร แต่ก็ยังพยายามตามหาลูกอยู่ โดยได้ติดต่อกับ ส.ส.อุดรธานี นายขจิต ชัยนิคม เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้ประสานก็ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากนี้ก็จะดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่ให้ใครรังแกลูกอีก ซึ่งก็ได้ไปรับที่สนามบิน พร้อมพ่อเลี้ยงชาวไทยฌักกนร์  ที่เคยช่วยกันดูแล น้องตั๊ม ตอนยังเด็ก และเมื่อมาถึงบ้าน ที่จังหวัดอุดรฯ นายขจิต ส.ส อุดร ก็ได้สั่งให้มีการทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ทันที เพราะว่ฐานข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งก็จะได้ประสานเรื่องการศึกษาให้อีกต่อไปซึ่งก็น่าจะไม่ได้เรียน กศน ศุนย์การศึกษานอกโรงเรียน และต้องเริ่มเรียนรู้เรื่องภาษาไทยกันก่อนด้วย อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็ต้องแสดงความยินดีกับการที่นางหลิว ได้เจอลูก และนายตั๊มได้เจอแม่ด้วยนะคะ เพราะด้วยคิดหรือไม่ว่าเด็กอายุเพียง 7 ขวบ ตามหาแม่มา 7 ปี
โดยในมือมีเพียงกระดาษ ชื่อและนามสกุลแม่เพียงใบเดียว ใช้เวลาตามหาอยู่ 7 ปี
         ส่วนอีกเรื่องก็เป็นเรื่องของ ลูกสาวหายไปจากบ้านเป็นเวลา 15 วันแล้ว ซึ่งเธอก็เป็นลูกครึ่ง ไทยฝรั่งเศส เหตุเกิดที่จังหวัดตรัง ซึ่งคุณแม่นางโลมา เบนลูนาซ ผู้เป็นแม่เป็นชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวว่า ลูกสาวได้หายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม เวลา 19.30 น. ได้ขอออกไปเที่ยวตลาดนัด
กับเพื่อน ซึ่งน้องยิ้ม ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาว ได้ไปตลาดนัดใกล้บ้านกับเพื่อน ได้อนุญาตหให้ลูกออกฌักกนร์ ไปได้ และได้โทรหาลูกเพื่อถามไถ่ ตอน 20.30 น. ลูกก็รับและได้บอกว่าอีกสักครู่จะกลับ โดยจะให้อยู่ถึง 3 ทุ่มครึ่ง ก็คิดว่าจะโทรหาลูกและจะออกไปรับด้วยตัวเอง และเมื่อเวลา 3 ทุ่ม 45 นาที ก็ได้โทรหาลูกแต่ไม่มีคนรับสาย ซึ่งก็รอถึงเช้าก็ไมีกลับมา และจนถึงตอนนี้ ก็ 5 วันแล้วก็ยังไม่สามารถติดต่อลูกได้ ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังงัย เพราะที่บ้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่ได้นำติดตัวไป เพราะลูกสาวเป็นเด็กดี ชอบออกกำลังและทางด้าน เจ้าหน้าตำรวจ ก็ได้ตามเรื่องนี้ให้ โดยได้กล่าวว่า น.ส.กนกวรรณ ( น้องยิ้ม ) ได้ไปกับผู้ชายที่คบหากันมาได้ ประมาณ 1 ปี ตอนนี้รู้ทีอยู่แล้ว แต่ยังไม่อาจเปิดเผย เพราะเกรงว่าจะหนีไปอีก และได้ออกหมายจับ นายสมรักษ์ เทียนยี่ อายุ 19 ปี ในข้อหาพาผู้อื่น
พรากผู้เยาว์ อายุกว่า 15 แต่ยังไม่ถึง 18 ไปจากบิดา มารดา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรงจก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่ชาย ซึ่งคาดว่าไม่นานก็น่าจะได้ตัว
        ก็เป็นการแสดงถึงความไม่เข้าใจ และความที่ไม่มีความรับผิดชอบ ก็ว่าได้อีกฝ่ายตามหาแม่ 7 ปี อีกคน ไปกับแฟน ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเป็นห่วง สองคนต่างกันลิบลับ เลยก็ว่าได้ ถึงเวลาหรือยังที่เราจะต้องอบรม ลูกหลานยังงัย ให้รู้อะไรผิดอะไรถูก อะไรควรไม่ควร เพราะต้องเข้าใจด้วยว่า อีกหลายครอบครัวที่เจอปัญหาแบบนี้ ทำให้กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เลี้ยงหลานกันไปตามประสา เพราะว่าเวลาที่มีอยู่ก็ต้องใช้ในการประกอบอาชีพ หาเงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งค่าใช้จ่ายก็มากมาย ทั้งค่ารถ ค่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าใช้จ่าย ซึ่งจากปัญหาของคนไม่มี ซึ่งส่วนมากก็จะตามด้วยอาชญากรรม และยาเสพติด ซึ่งปัญหานี้คนส่วนมากก็รู้แต่ แต่ไม่สามารถที่จะแก้ได้ เพราะบางครั้งเรียกว่าไม่อยากเปลืองตัวนั่นเอง เพราะเมื่อเข้าไปช่วยเหลือ เรียกว่า เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีอีกก็ยิ่งไปกันใหญ่ หน่วยงานที่รับผิดชอบ บุคลากรก็ยังไม่เพียงพอเลย คนอาสาเมื่อเข้าไป ก็มีแต่เดือดร้อน แล้วอย่างนี้ร่วมมือกันแก้กันยังงัย แต่ถ้าอยากให้เมืองไทยน่าอยู่ เราก็อย่าท้อ และต้องช่วยกันด้วยนะคะ