ในอนาคตนั้นก็จะต้องทำการ แปรผลิตผล หรือแปรรูป ให้มีมูลค่ามากขึ้น แต่เมื่อไม่นานมานี้ ทาง มธ ( มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ) ได้คิดการทำโฟมจากยางพารา ที่สามารถดักน้ำมัน และนำกลับมาใช้ได้อีกประมาณ 200 ครั้ง และลดปัญโลกร้อน ไปด้วยกันเลย เพราะเวลาที่น้ำมันรั่วแต่ละครั้ง จะมีคราบน้ำมันสีดำลอยอยู่เต็มไปหมด และหลายครั้งที่พัดเข้ามาที่ชายหาด สร้างผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านกายภาพ และสิ่งแวดล้อม เป็นพิษต่อสัตว์น้ำ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา เป็นการปนเปื้อนของสารพิษ เพราะน้ำมันมีพิษในตัว ที่ทำลายระบบภายใน ไม่ว่าจะเป็นตับ ไต และทำลายเหล่าบรรดาประการัง ด้วยภาวะเศรษกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป
เมื่อทางด้าน มธ ได้คิดโฟม ที่ทำมาจากน้ำยางนั้น ก็มีผลดีเป็นอย่างมาก และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมนวัตกรรมแห่งปี ที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย โฟมที่ทำจากน้ำยางพารานี้ จะมีคุณสมบัติ ยืดหยุ่นดีกว่า โฟมที่ทำมาจากกระบวนการดันลอป มีความหนาแน่นต่ำ มีต้นทุนต่ำ และผลิตได้เร็วกว่าทาลาเลย์ มีรูพรุนที่แตกต่าง มีความนิ่มสม่ำเสมอ มีความหนานุ่มสูง แข็งแรง การทำโฟม จากน้ำยางนั้นมีมานานแล้ว แต่เป็นการทำแบบแห้ง เป้นการทำได้ยากและต้นทุนสูง การทำเป็ฯเชิงพานิช ในครั้งแรกนั้นก็เป็นการบ บุหุ้มแผง เครื่องบิน และเบาะในรถยนต์ ออสตืน และทุกวันนี้ ก็ยังมีการผลิตที่นอนยางพารา และหมอนเพิ่มอีกด้วย แต่ด้วยตอนนี้ นักวิจัยไทยได้ผลิตโฟม ที่ทำมาจากน้ำยาง แล้วนำมาดักน้ำมันที่ อาจจะเกิดจากสาเหตุ ไม่ว่าจะน้ำมันรั่ว บ่อขุดกลางทะเล เกิดแอคซิเดน หรือแม้แต่เกิดจากเรือประมงก็ตามก็สมารถที่จะใช้ ผลงานโฟม จากน้ำยางนี้ ใช้ลอยและลากไป โฟมก็จะดูดซับน้ำมันไว้ในตัวแล้วเราก็จะรีด น้ำมันออกมาจากโฟมอีกทีนึง โดยที่สมารถนำกลับมาใช้ได้อีกนับร้อยครั้ง การวิจัยเป็นผลดี เพราะประเทศไทยก็จะไม่ต้องสั่งซื้อโฟมจากต่างประเทศเข้ามาอีกเป็นจะนวนมาก
เมื่อคนส่วนมากท่ไม่ว่าชาวสวนยาง ชาวนา ชาวไร่ ก็ตามที ต่างก็ต้องการแปรรูปผลผลิต ให้มีมูลค่าสูงขึ้น และหระบวนการแปรรูปนั้นก็ใช้ทุนที่ไม่มากเกินไป ซึ่งปัญหานนี้ ถ้าแก้ได้ก็จะเกิดประโยชน์ แย่างมหาศาลต่อประเทศ แต่ประเทศไทยนั้น ก็ยังมีการผลิตที่นอนยางพารา บุคลากรด้านนักวิจัยเป็นอย่างมาก อาจจะด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่วาจะด้านกการรองรับเรื่องวสวัสดิภาพ ด้านการเงิน การเป็นอยู่ และสวัสดิการ จึงไม่มีผู้ที่จะสนใจงานด้านนี้มากเท่าที่ควร ดังนั้นเราจึงควรที่จะหันมา ส่งเสริม งานด้านนี้ ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะงานด้านวิจัย อาหารเสริมลดน้ำหนัก ก็ตามที และเมื่อมีมาแล้ว ก็ต้องเน้นให้เป็นผู้ที่มีจรรยาบรรณ อย่ามุ่งแต่เชิงพานิช ประเทศจะพัฒนาได้เราก็ต้องหันมาส่งเสริม กับงานด้านการวิจัย และรัฐก็ควรที่จะส่งเสริมด้านเตรื่องมือ อุปกรณ์และปลูกฝังคนในชาติ ให้อยากที่จะเป็นนักวิจัยให้มากขึ้นกว่าเดิม ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ ถ้ามีนักวิจัยมากพอ เราจะก้าวข้ามคำว่า ประเทศด้อยพัฒนาอย่างไม่ยากนัก เพราะหลายคร้ง ที่มีคนเก่งมีฝีมือ แต่ต่างชาติซื้อไปเสียหมด เพราะผลประโยชน์ ที่มีให้มากกว่านั่นเอง ที่เรียกกันว่า สมองไหล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น